Written by: #SuperTraderRepublic x #Liberator
Trend are Confirmed by Volume: แนวโน้มต้อง Confirm ด้วย Volume
ยกตัวอย่างเช่นหากภาพรวมของตลาดมีแนวโน้มขาขึ้น ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ของตลาดควรจะเพิ่มขึ้นด้วย และในช่วงพัก Volume จึงควรหดตัว ในทางกลับกัน ตลาดมีแนวโน้มขาลงและราคาปรับตัวลง ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ของตลาดควรจะเพิ่มขึ้น แต่ควรหดตัวในช่วง Rebound
ถ้าเป็นตลาดหุ้น หุ้นขึ้นพร้อมวอลุ่มจะมีนัยยะสำคัญเป็นขาขึ้นหรือกลับตัวจากขาลง ถ้าหุ้นลงพร้อมวอลุ่มจะเป็นสัญญาณอันตรายที่จะเป็นแนวโน้มขาลง
ข้อสังเกต ปริมาณวอลุ่มจะสูงสุดในช่วงที่เป็นจุดสูงสุดของ Bull market หรือไม่ก็เป็นช่วงที่ตลาด panic ใน Bear market
Volume หรือ ปริมาณการซื้อขาย บอกอะไรเราได้บ้าง ?
- บอกระดับความสนใจ หรือ ความกระตือรือร้นของนักลงทุน
- ตามหลักการเทคนิคคอลการอ่าน Volume สามารถใช้ยืนยันการเกิดหรือการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลักได้
- ให้สังเกตวันหรือช่วงเวลาที่มี Volume Peak หรือมากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการเกิดแนวโน้มใหม่ หรือจบแนวโน้มเดิม
Volume สัมพันธ์กับราคาอย่างไร ?
กรณีราคาปรับตัวขึ้น
- ราคาปรับตัวขึ้น Volume จะแสดง แสดงถึง ราคาขึ้นอย่างมีพลัง และมีโอกาสขึ้นต่อ
- ราคาปรับตัวขึ้น แต่ Volume ลด แสดงถึง ราคาขึ้นอย่างอ่อนพลัง
- ราคาปรับตัวขึ้นมานาน ต่อมา Volume ก็พีคอย่างมาก แสดงถึง ราคาอาจใกล้สิ้นสุดการขึ้น มีแนวโน้มการกลับตัวลงสูง
- ราคาปรับตัวขึ้น ถึง High เดิม แต่ Volume ปัจจุบันน้อยกว่า Volume ยอดเก่าในอดีต แสดงถึงราคาขึ้นต่อได้ยาก
กรณีราคาปรับตัวลง
- เมื่อราคาปรับตัวลง และ Volume ก็เพิ่มขึ้น แสดงถึงราคาลงอย่างมีพลัง และราคายังมีโอกาสลงต่อ
- ราคาปรับตัวลง แต่ Volume ลง แสดงถึงราคาลงตามปกติ
- เมื่อราคาปรับตัวลงมานาน ต่อมา Volume เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมาก แสดงถึงราคาอาจใกล้สิ้นสุดการลง เป็นไปได้ว่า คนขายเกือบหมด โอกาสราคาเริ่มปรับตัวขึ้นเพิ่มมากขึ้น
- ราคาปรับตัวลงถึงฐานเดิมแต่ Volume ปัจจุบันน้อยกว่า Volume ฐานเก่าในอดีต แสดงถึงคัดค้านการลงต่อของราคา