มีคนจำนวนมากที่ศึกษาพื้นฐานของ Bitcoin แล้วประเมิน Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับทองคำ คือมีลักษณะเป็นสินทรัพย์ประเภท hedge against inflation นั่นคือ เมื่อเงินเฟ้อรุนแรง สินทรัพย์เหล่านี้จะช่วยคงให้คุณมีความมั่งคั่งไม่ด้อยลงไปตามเงินเฟ้อ
พอช่วงปี 2022 ที่ภาวะเงินเฟ้อเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากภาวะ post-covid ที่ทำให้สหรัฐอเมริกาและหลายๆ ประเทศต้องเริ่มขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่เป็นสภาวะที่แปลกเพราะทั้งทองคำและ Bitcoin ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ที่ไว้ต่อสู้กับเงินเฟ้อ กลับมีราคาปรับฐานรุนแรง จนคนส่วนใหญ่เริ่มตั้งคำถามว่า เอ๊ะ ไหนบอกว่า hedge against inflation ไง
ทำไมประกาศค่า CPI สูงทีไร ราคา Bitcoin ถึงปรับฐานหนักตามสินทรัพย์เสี่ยงตลอดเลยล่ะ..?
จริงๆ ผมเชื่อว่า พฤติกรรมราคาของ Bitcoin นี้มีคำอธิบาย
ถ้าเป็นคำอธิบายแบบกำปั้นทุบดิน เราอาจจะพอกล้อมแกล้มอธิบายว่า ก็เพราะเงินเฟ้อสูง ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED จะดำเนินนโยบายการเงินแบบแข็งกร้าว (เช่น การขึ้นดอกเบี้ยพรวดเดียว 1%) ซึ่งจะทำให้เงินไหลออกจาก Bitcoin กลับสู่ตลาดพันธบัตร
โอเค คำอธิบายนี้ พอจะเชื่อมโยงเหตุและผลได้ แต่ผมคิดว่ามันไม่จริงซะทีเดียว
สำหรับผม Bitcoin ในปัจจุบัน ดำรงอยู่ทั้งสองสถานะ (เหมือนแมวของชโรดิงเจอร์) ครับ คือ risk asset และ hedge against inflation
ขึ้นกับว่าคนจะมอง Bitcoin ในสถานะไหน..?
ในภาวะปกติ Bitcoin มีพฤติกรรมราคาที่หวือหวา ขึ้นลงหลายสิบเปอร์เซ็นต์มาตลอดร่วมสิบปี ทำให้เป็นสินทรัพย์ล่อใจนักเก็งกำไรจำนวนมาก ที่เข้ามาเทรด Bitcoin
แน่นอนว่า คนที่ถือ Bitcoin ระยะยาวมีเยอะกว่านะครับ แต่นั่นกลับส่งผลให้เกิดด้านลบกับราคาของ Bitcoin กล่าวคือ Bitcoin จำนวนมาก อยู่ในมือคนส่วนน้อย ที่ถือ BItcoin เฉยๆ โดยไม่ซื้อขาย มันทำให้เกิดภาวะ Hyperdeflation (แบบที่ผมเคยเขียนถึงเมื่อโพสก่อน) ซึ่งเอื้อให้ราคา Bitcoin เหวี่ยงขึ้นลงอย่างรุนแรง
นั่นคือ ด้วยคุณลักษณะ และพฤติกรรมของ Bitcoin ในปัจจุบัน ทำให้ Bitcoin มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยง และผลตอบแทนสูงไปซะแล้ว
แต่จริงๆ ตัว Bitcoin ในเชิงปัจจัยพื้นฐานแล้วมันถูกออกแบบมาในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และการ QE
ผมพิสูจน์ได้นะครับ ทุกท่านลองไปเช็คราคา Bitcoin ในประเทศที่ประสบภาวะเงินเฟ้อรุนแรง หรือภาวะความเสี่ยงเงินด้อยค่าดู หลายประเทศเราจะเห็นว่า Bitcoin เทรดกันในราคา premium เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่เจอภาวะเงินด้อยค่า ยกตัวอย่างเช่น รัสเซีย ช่วงที่ Ruble อ่อนค่ารุนแรง, ตุรเคีย, ศรีลังกา, เวเนซูเอลา, หลายประเทศในอเมริกาใต้
ประเทศเหล่านี้หลายประเทศเจอภาวะเงินเฟ้อรุนแรง เมื่อประชาชนหมดความเชื่อถือในสกุลเงินตัวเอง ก็พยายามจะวิ่งเข้าหาสินทรัพย์อื่น อย่างเช่น Bitcoin (ซึ่งมีประโยชน์กว่าดอลล่าร์ในแง่การโอนย้ายข้ามประเทศได้ง่ายและสะดวก เหมือนเช่นผู้ลี้ภัยในยูเครน ที่ใช้ Bitcoin และ Ethereum ดำรงชีพในภาวะที่ระบบธนาคารล้มเหลว ถึงย้ายประเทศแล้ว เค้าก็สามารถโยก wealth ของเค้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้)
ประเทศเหล่านี้มีพฤติกรรมราคา Bitcoin ที่เทรด premium กว่าราคา Bitcoin ในตลาดอื่นๆ อย่างมีนัยยะ
ดังนั้น เพื่อตอบคำถามของประเด็นนี้ ผมได้หลักการที่เป็นข้อสรุปเบื้องต้นของสถานะของ Bitcoin ตามทฤษฏีของผม นั่นก็คือ
“Bitcoin จะมีสถานะเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ในสภาวะที่เงินเฟ้อยังไม่ได้รุนแรงมาก หรือเสถียรภาพของรัฐยังไม่สั่นคลอน แต่ Bitcoin จะเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ ในภาวะที่เงินเฟ้อรุนแรง จนประชาชนเริ่มหมดความเชื่อมั่นในสกุลเงินของรัฐบาล”
ซึ่งตัวเลขในใจผม คิดว่าเงินเฟ้อในระดับ 18-25% น่าจะเริ่มเป็นตัว trigger ให้ Bitcoin เริ่มกลับมาได้รับความสนใจ จากกลุ่มนักลงทุนที่กังวลกับการถือ fiat currency ครับ
01.10.2022
———————————————————-
ติดตาม ‘Liberator’ ได้ทุกช่องทางของคุณ
Instagram : liberator_th
Twitter : th_Liberator
Blockdit : Liberator
Facebook : Liberator Securities
.
𝗣𝗢𝗪𝗘𝗥 𝗜𝗡 𝗬𝗢𝗨𝗥 𝗛𝗔𝗡𝗗
𝗧𝗵𝗲 𝗻𝗲𝘄 𝘁𝗿𝗮𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗽𝗼𝘄𝗲𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗿𝘂𝗹𝘆 𝗯𝗲𝗹𝗼𝗻𝗴𝘀 𝘁𝗼 𝗮𝗹𝗹 𝘁𝗿𝗮𝗱𝗲𝗿𝘀.
