รู้จัก 4 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ

” รู้จัก 4 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ”

📌 𝙆𝙚𝙮 𝙃𝙞𝙜𝙝𝙡𝙞𝙜𝙝𝙩
+ ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาน้ำมัน
+ 4 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

💢 ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เป็นประเด็นสำคัญอยู่เสมอในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยทุกครั้งที่ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น มักสร้างผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ราคาน้ำมัน และพลังงานทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นจากห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก การผลิตที่ทำได้น้อยลงเนื่องจากแหล่งน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมันหลายเเห่งที่จำเป็นต้องปิด รวมไปถึงการส่งออกน้ำมันที่ลดลง จากเส้นทางการขนส่งน้ำมัน เเละการเดินทางที่เป็นไปได้ยากขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

มองในมุมกลับกัน ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อบริษัทน้ำมัน ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันได้รับกระแสเงินสดมากขึ้นจากการผลิต และขายน้ำมัน เพิ่มความสามารถที่จะลดหนี้ จ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้น รวมไปจนถึงการซื้อหุ้นคืน

ซึ่งหากมองในแง่มุมการลงทุนแล้ว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการลงทุนได้
ดังนั้นเรามาหาทำความรู้จักหุ้นยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศน์นี้กันค่ะ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

🛢️ 4 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ 🛢️

1️⃣ Devon Energy ($DVN)
Devon Energy เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาคเหนืออเมริกา
บริษัทมีรายได้จากการสำรวจ การพัฒนา และการผลิตน้ำมันดิบ รวมไปจนถึง การผลิตก๊าซธรรมชาติ เเละก๊าซธรรมชาติเหลว (NGLs)
ไม่เพียงเท่านี้ยังดำเนินธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ เเละโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมัน และก๊าซ อีกด้วย

+ ราคาหุ้นบริษัทปรับตัวขึ้น +14.68% YTD
+ มีอัตราการจ่ายปันผลต่อปี (Annual Dividend yield) สูงถึง 6.30%
+ Devon ยังจ่ายเงินปันผล โดยจะจ่ายเงินปันผลพื้นฐานในแต่ละไตรมาสที่ $0.22/หุ้น โดยการจ่ายเงินนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละปี เเละแปรผันรายไตรมาส (VROC) โดยเพิ่มขึ้นและลดลงตามกระแสเงินสดของบริษัท

2️⃣ ConocoPhillips ($COP)
ConocoPhillips เป็นบริษัทที่มีธุรกิจหลักในการสำรวจ และผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแหล่งที่อยู่ใต้ดิน ในอเมริกาเหนือ และประเทศอื่นๆ
บริษัทมีรายได้จากการขายน้ำมันมากกว่าการขายก๊าซธรรมชาติ โดยการแบ่งสัดส่วนรายได้ของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 60-70% จากการจำหน่ายน้ำมัน และประมาณ 30-40% มาจากการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ

+ ราคาหุ้นบริษัทปรับตัวขึ้น +10.42%YTD
+ มีอัตราการจ่ายปันผลต่อปี (Annual Dividend yield) ที่ 3.22%
+ บริษัทมีเเผนที่จะคืนเงินเป็นเงินสดจำนวน $1.1 หมื่นล้าน ให้กับผู้ถือหุ้น ผ่านการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสตามปกติ โดยเป็นการจ่ายเเบบแปรผันรายไตรมาส (VROC) เป็นเงินสด และการซื้อหุ้นคืน (Shares Repurchase)

3️⃣ Exxon Mobil Corp ($XOM)
Exxon Mobil Corp เป็นบริษัทน้ำมัน ชั้นนำของโลก โดยน้ำมันคิดเป็นประมาณ 70-80% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท เเละรายได้อื่นๆมาจาก การจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ การขายผลิตภัณฑ์น้ำมัน และการลงทุนในพลังงานทดแทน และการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

+ ราคาหุ้นบริษัทปรับตัวขึ้น +18.24% YTD
+ มีอัตราการจ่ายปันผลต่อปี (Annual Dividend yield) ที่ 3.14%

4️⃣ NextEra ($NEE)
NextEra Energy เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของสหรัฐ บริษัทดำเนินธุรกิจครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ เเละพลังงานลม บริษัทยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดขนาดใหญ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีรายได้จาก การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน เเละการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า

+ ราคาหุ้นบริษัทปรับตัวขึ้น +7.52% YTD
+ มีอัตราการจ่ายปันผลต่อปี (Annual Dividend yield) ที่ 3.11%

หมายเหตุ : คำนวณผลตอบเเทน YTD ณ วันที่ 24 เมษายน 2024

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

💧 หุ้นกลุ่มน้ำมัน : การจ่ายเงินปันผล จะเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน 💧

เมื่อพิจารณาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงสงครามในปีนี้เเล้ว
เรามีมุมมองบวกต่อการจ่ายเงินปันผลแบบยืดหยุ่น ซึ่งหมายความว่า เมื่อบริษัทมีกำไรมากขึ้น เงินปันผลจะเพิ่มขึ้นตามด้วย บริษัทยังมีแผนที่จะใช้กระแสเงินสดอิสระ (FCF) มาซื้อหุ้นบริษัทกลับคืนมา (Shares Repurchase) เพื่อคืนเงินทุนให้กับผู้ถือหุ้นอีกด้วย เหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นในระยะยาว จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่าผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบเเทนที่สูงขึ้น

ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ประเทศต่างๆ พยายามแย่งชิงแหล่งพลังงาน รวมไปถึงพลังงานทดแทน โดยวิกฤตครั้งนี้ได้ตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนต่อพลังงานยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย โดยเรามีมุมมองว่า หุ้นพลังงานเหล่านี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในตลาดสหรัฐ โดยเฉพาะผลตอบแทนเงินปันผล

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

😊 ลงทุนหุ้น US เพื่อเน้นปันผล กับ Liberator

หากเราไม่ใช่พลเมืองสหรัฐ (ไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน เเละไม่ได้ทำงาน หรือไม่ได้ประกอบธุรกิจในสหรัฐ)
การยื่นเเบบ W-8BEN ที่ทำไว้ตอนเปิดบัญชีหุ้นสหรัฐ ตรงนี้จะเป็นแบบภาษีที่กรมสรรพากรสหรัฐอเมริกา(IRS) กำหนดให้บุคคลที่มีรายได้ในสหรัฐอเมริกาผ่านการลงทุนในหุ้นสหรัฐ จะได้รับสิทธิประโยชน์ลดภาษีเงินปันผลจาก 30% เป็น15% เเต่การยื่นแบบภาษี W-8BEN มีค่าบริการประมาณ 2,000 บาท ต่อ 3 ปีปฏิทิน

ซึ่งในส่วนนี้ทาง Liberator จะเข้ามาช่วยนักลงทุนในการดำเนินการยื่นเเบบฟอร์มนี้ เเละสนับสนุนชำระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้เพื่อนๆนักลงทุนฟรีค่ะ เพื่อให้เพื่อนๆสามารถลงทุนในหุ้นปันผลสหรัฐได้อย่างสะดวกสบาย และมีค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลงด้วยค่ะ

///////////////////////////////////

📑 บทความนี้เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งจาก ” LIB of the Month ”
eBook การลงทุน อ่านง่าย ที่มีบทความดีๆ อีก 7 ประเด็น
อ่านเพิ่มได้ที่นี่ :: https://go.liberator.co.th/xlnX/cuqulazb