Written by: #CreativeTone x #Liberator

Climate FinTech อาจเป็นคำที่หลายคนไม่เคยคุ้น แต่โปรดจับตามองเอาไว้ เพราะนี่อาจเป็นเทรนด์เทคโนโลยีทางการเงินใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับอนาคตที่ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น

มารู้จักคำว่า Climate FinTech คือการนำเอา FinTech เข้ามาช่วยลดผลกระทบ ที่สุ่มเสียงต่อสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางการทำให้กิจกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยต้องการให้มีผลกับ Climate Change น้อยลง

ยกตัวอย่างเช่น Digital Banking และ Digital Point-of-Sale ที่ทำให้ผู้บริโภคทำธุรกรรมต่างๆ ได้โดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง ซึ่งนำไปสู่การลด Carbon Footprint รวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น การลงทุนที่สนับสนุนธุรกิจที่มีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจก, การตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงการลดใช้งานเชื้อเพลิงฟอสซิล ฯลฯ ขณะเดียวกัน การนำ Blockchain มาสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขาย Carbon Credit ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ Climate FinTech ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ Climate FinTech มีศักยภาพที่จะทำให้ทุกคนมีบทบาทในการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น ซึ่งในเวลานี้ก็เริ่มมีการใช้งานจริงกันแล้ว

และในส่วนบริษัทที่มีการนำเอาแนวคิด Climate FinTech มาใช้อย่างจริงจัง และน่าสนใจมากก็คือ บริษัทซอฟต์แวร์ด้าน Payment ชั้นนำอย่าง Stripe ที่ได้มีการใช้คอนเซ็ปต์ Climate FinTech มาปรับกับบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน แล้วสร้างเป็น Stripe Climate

Stripe Climate จะเป็นเครื่องมือที่สามารถให้ผู้ประกอบการออนไลน์ที่ใช้ Stripe เลือกแบ่งรายได้บางส่วนเพื่อสมทบกองทุน Carbon Removal ซึ่งจะถูกนำไปสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ช่วยลดปริมาณ Carbon Emission ได้

ทางบริษัท Stripe Climate ให้ความมั่นใจว่าจะมีการนำเงินที่แบ่งรายได้มา ไปช่วยในการขจัดคาร์บอน 100% ซึ่งโครงการขจัดคาร์บอนจะถูกจัดหาและตรวจสอบโดย Frontier ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการพาณิชย์ภายในของ Stripe เอง

ส่วนสิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับเป็นการแลกเปลี่ยน คือ Stripe จะแสดงข้อมูลในหน้าชำระเงินของร้านออนไลน์นั้นๆ ว่า ยอดซื้อของลูกค้ากำลังถูกนำไปช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ ซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้าหรือยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้นั่นเอง

แม้สิ่งที่ Stripe Climate ลงมือทำอยู่ จะเป็นความคิดที่ดีและมีความน่าจูงใจ แถมยังสะท้อนแนวคิด Climate FinTech ได้อย่างดีด้วย แต่ถ้ามองอีกมุม ความเสียหายของสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็มีมูลค่าที่ไม่อาจประเมินได้

เพราะฉะนั้น การมีความรู้สึกที่ต้องรับผิดชอบต่อโลก มีความเข้าใจว่า Climate Change สร้างผลกระทบต่อชีวิตและผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงขนาดไหน จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามา อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หรืออาจไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย แต่กับเป็นการสร้างปัญหาใหม่ๆ ขึ้นมาเอง ก็ต้องลองดูว่าความพยายามของ Stripe Climate และความรู้สึกที่ต้องรับผิดชอบต่อโลกของทุกคนสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ไหน

09.03.2023