เดือนสุดท้าย! ป้ายยา 5 กองทุน SSF สุดปัง ลดหย่อนภาษีปี 67 ที่ลงทุนหุ้นทั่วโลก
เดือนสุดท้ายแล้วที่ซื้อกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีปี 67 ได้
ซื้อกองทุน SSF กองไหนดี เจาะมาให้แล้ว 5 กองทุนที่เน้น หุ้นสหรัฐอเมริกาสำหรับคนกลัวเรื่องภาษีและหุ้นทั่วโลกที่มีการเติบโตโดดเด่นเฉลี่ยย้อนหลังปีละ 3-12%*
เนื้อหาโดย เพจ เด็กการเงิน (DekFinance)
รูปภาพโดย ทีมงาน บล. ลิเบอเรเตอร์
ซื้อกองทุนรวมได้แล้ววันนี้บนแอป Liberator ดาวน์โหลดแอปและเปิดบัญชี ที่นี่
กองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
แม้ว่าปี 67 จะเป็นปีสุดท้ายแล้วที่สามารถใช้สิทธิ์ซื้อกองทุน SSF เพื่อลดหย่อนภาษีได้ แต่เทียบกับเครื่องมืออื่นๆ แล้วถือว่ายังน่าสนใจอยู่เพราะว่า
(1) กองทุน SSF มีจำกัดเวลาถือที่ 10 ปี ถ้าใช้กอง RMF จะต้องถืออย่างน้อย 5 ปีจนถึงอายุ 55
(2) กองทุน SSF เปิดให้เราลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ทั่วโลก เทียบกับ TESG ที่ลงทุนแค่ในไทยเท่านั้น เป็นโอกาสที่ดีกว่า
เราใช้กองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 20% ของเงินได้ ยอดรวมเฉพาะกอง SSF ไม่เกิน 200,000 บาท
ตัวอย่าง:
- สมมติว่า คุณนิวตัน มีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท รวมทั้งปีก็ 600,000 บาท
- คุณ นิวตัน หักค่าใช้จ่าย และ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนอื่นๆ รวมแล้ว 220,000 บาท
- คุณ นิวตัน ซื้ิอ SSF ได้สูงสุด 120,000 บาท (= 20% ของรายได้ทั้งปี)
ก่อนซื้อ กองทุนลดหย่อนภาษี คุณนิวตัน จะต้องจ่ายภาษี 15,500 บาท
หลังซื้อ กองทุนลดหย่อนภาาี คุณนิวตัน จะเหลือภาษีต้องจ่าย 5,500 บาท
ประหยัด ภาษีไปได้ 10,000 บาท (8.3%)
กองทุน SSF ไหนน่าจะดีหลังปี 2568?
กองทุน SSF ที่ทีม #เด็กการเงิน x #Liberator คัดเลือกมาให้จะล้อไปกับเทรนด์อย่างน้อย 1 อย่าง ถ้าเชื่อว่า 1 ในประโยคต่อไปนี้เป็นจริง ลองแบ่งเงินและเวลามาศึกษากองทุนเหล่านี้ดู
(1) อนาคตจะมีประเทศที่เศรษฐกิจแย่ลง แต่จะมีประเทศที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น > เราเลยควรกระจายเงินลงทุนของเราไปรับโอกาสที่ประเทศแบบนั้นเพิ่มขึ้น
(2) ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชนะทั้งสองสภา นโยบายที่ทรัมป์หาเสียงไว้อย่างการลดภาษีนิติบุคคลจะมา บริษัทฯ ในอเมริกาทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ จะเหลือกำไรสุทธิมากขึ้น
(3) โลกจะเติบโตขึ้นต่อด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น AI, เทคโนโลยีการแพทย์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งผู้นำคือประเทศใหญ่ๆ
(4) ปีหน้าเศรษฐกิจน่ากลัวจะตาย มีความไม่แน่นอนเต็มไปหมด เลือกธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีปันผลเพื่อฝ่าฟันช่วงนี้ไปดีกว่า
ถ้าคิดว่า 1 ใน 4 ประโยคนี้เป็นจริง เราจะใช้ประโยคเหล่านี้หากองทุนน่าสนใจลงทุนระยะยาวกันเลย
กองทุน SSF ที่โตได้ในระยะยาว: กองทุนลงทุนหุ้นทั่วโลก
(1) ONE-UGG-ASSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน ONE-UGG-ASSF
- ลงทุนในหุ้นที่ยอดขายเติบโต กำลังทำธุรกิจใหม่
- กระจายการลงทุนไปหลายประเทศ หลายกลุ่ม
- ผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ยปีละเกิน 10%*
- เน้นน้ำหนักไปที่หุ้นผู้นำ เช่น NVDA, AMZN
*ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต อัตราผลตอบแทนที่นำมาใช้มาจาก Factsheet ของกองทุนรวม ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567
(2) KT-WEQ SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KT-WEQ-SSF
- ลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง อยู่ในชีวิตประจำวัน
- กระจายเงินลงทุนในหุ้นหลายตัว หลายประเทศ ทำให้ความผันผวนต่ำกว่ากองแรก
- มีทีมผู้จัดการกองทุนคอยประเมินมูลค่าหุ้นและเลือกซื้อตอนที่มันถูกให้
- ชอบผลตอบแทนนิ่งๆ สบายๆ ระยะยาวเฉลี่ยปีละ 5-7%
(3) ABGDD-SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน ABGDD-SSF
- ลงทุนในหุ้นปันผลทั่วโลก ปันผลเติบโตเฉลี่ยไปละ 1.8%
- ถึงเศรษฐกิจจะแย่ บริษัทฯ เหล่านี้ก็จะยังแข็งแกร่ง ขายของได้
- ลงทุนในบริษัทฯ ที่ขายของแล้วได้เงินสด
- จ่ายเงินปันผลเฉลี่ยทั้งปีรวมๆ 6.28%*
(4) TLUSNDQ-H SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน TLUSNDQ-H SSF
- ลงทุนในกองทุน ETF ที่ล้อไปตามดัชนี NASDAQ100
- หรือก็คือเน้นเงินในหุ้นเทคโนโลยีในอเมริกาไปเลย
- กราฟ NASDAQ100 (NDX) ยังเป็นขาขึ้นชัดเจน
- ค่าธรรมเนียมรวมต่ำมากแค่ 0.42% กำไรที่ได้มาถูกนำไปลงทุนต่อของเราเต็มๆ
(5) AFMOAT-HSSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน AFMOAT-HSSF
- เลือกลงทุนในหุ้นแข็งแกร่งที่เลียนแบบกันยาก
- ตัวอย่าง เช่น บริษัท Gilead Sciences ที่มีรายได้ 62% มาจากยารักษา HIV (โรคเอดส์)
- ลงทุนผ่านกอง ETF MOAT ในอเมริกา
- กระจายการลงทุนไปหลายกลุ่ม หลายประเทศ ไม่ผันผวน
ซื้อกองทุนได้ที่ไหน?
ซื้อได้แล้วทุกกองบนแอป Liberator หัวข้อ Mutual Funds โดยเริ่มจาก พิมพ์หาชื่อกองทุนรวม ในปุ่มค้นหา จากนั้นศึกษารายละเอียดกองทุนรวม เทียบกับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้แล้วเริ่มวางแผนซื้อขายได้เลย
ทั้งนี้ถ้าเราชอบใจกองทุนนี้ต่อหลังจากหมดช่วงลดหย่อนภาษีไปแล้ว สามารถมองหากองทุนประเภท สะสมผลตอบแทน ที่เป็นกองทุนลงท้ายด้วยรหัส A ต่อเนื่องได้เลย
เริ่มต้นวันนี้ได้เลย ง่ายมาก 500 บาทก็เริ่มต้นเส้นทางการลงทุนระยะยาวได้แล้ว