5 กองทุน RMF แนะนำลงทุนยาว ลดหย่อนภาษีปี 67
เดือนสุดท้ายแล้วที่ซื้อกองทุน RMF ลดหย่อนภาษีปี 67 ได้
ซื้อกองทุน RMF กองไหนดี เจาะมาให้แล้ว 5 กองทุนที่เน้น หุ้นสหรัฐอเมริกาสำหรับคนกลัวเรื่องภาษีและหุ้นทั่วโลกที่มีการเติบโตโดดเด่นเฉลี่ยย้อนหลังปีละ
เนื้อหาโดย เพจ เด็กการเงิน (DekFinance)
รูปภาพโดย ทีมงาน บล. ลิเบอเรเตอร์
ซื้อกองทุนรวมได้แล้ววันนี้บนแอป Liberator ดาวน์โหลดแอปและเปิดบัญชี ที่นี่
กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
ถ้าเรากำลังเล็งๆ โอกาสลงทุนระยะยาว โดยเน้นสะสมไปเรื่อยๆ จัดพอร์ตระยะยาว ไม่ต้องตามข่าวหุ้นรายตัว กองทุน RMF ได้เลย
ข้อดีของกองทุน RMF คือ มีความยืดหยุ่นสูงกว่า ซื้อแค่ปีเว้นปีก็ได้ ลงทุนสินทรัพย์ดีๆ คุณภาพสูงได้ทั่วโลก และด้วยข้อจำกัดให้เราลงทุนระยะยาวซึ่งชนะตลาดได้ง่ายกว่า
(1) กองทุน RMF กำหนดให้เราขายเงินลงทุนเราได้หลังอายุ 55 ปีและถือมาเกิน 5 ปี ดังนั้น ถ้าต้องการสะสมสินทรัพย์ระยะยาวกองทุนนี้จะตอบโจทย์มาก วางแผนระยะยาวและแค่ทำตามแผนก็พอ
(2) กองทุน RMF เปิดให้เราลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ทั่วโลก เทียบกับ TESG ที่ลงทุนแค่ในไทยเท่านั้น เป็นโอกาสที่ดีกว่า
เราใช้กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้ ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท รวมกับกองทุน SSF, PVD, ประกันบำนาญ
ตัวอย่าง:
- สมมติว่า คุณนิวตัน มีรายได้ต่อเดือน 45,000 บาท รวมทั้งปีก็ 540,000 บาท
- คุณ นิวตัน หักค่าใช้จ่าย และ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนอื่นๆ รวมแล้ว 247,000 บาท
- คุณ นิวตัน ซื้ิอ RMF ได้สูงสุด 162,000 บาท (= 30% ของรายได้ทั้งปี)
ก่อนซื้อ กองทุนลดหย่อนภาษี คุณนิวตัน จะต้องจ่ายภาษี 7,150 บาท
หลังซื้อ กองทุนลดหย่อนภาษี (ซื้อแค่ 143,000 ก็พอ) คุณนิวตัน เหลือต้องจ่ายภาษี 0 บาท หรือไม่ต้องจ่าย
ประหยัด ภาษีไปได้ 7,150 บาท
ปี 2025 (2568) ลงทุนอะไรดี?
กองทุน RMF ที่ทีม #เด็กการเงิน x #Liberator คัดเลือกมาให้จะล้อไปกับเทรนด์อย่างน้อย 1 อย่าง
(1) โลกมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น กระจายลงทุนบริษัทฯ ชั้นนำ มีแบรนด์แข็งแกร่งในหลายๆ ประเทศดีกว่า
(2) การชนะของทรัมป์แบบขาดลอย ทำให้นโยบายต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น 1 ในนั้นคือการลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% เหลือ 15% ถ้าบริษัทในสหรัฐอเมริกามีกำไรสม่ำเสมอจะได้ประโยชน์โดยตรง
(3) กสังคมผู้สูงอายุกำลังทำให้แรงงานน้อยลง นวัตกรรมช่วยทำงานจะเป็นแรงผลักดันหลักให้โลกเติบโตขึ้นแทน กลุ่มเทคโนโลยีที่มีฐานตลาดใหญ่ๆ จะได้ประโยชน์
(4) เศรษฐกิจหลายประเทศไม่รู้จะดีไหม เน้นหุ้นปันผลใ หุ้นที่มีกระแสเงินสดแข็งแรงช่วงนี้ดีกว่า
กองทุน RMF กองไหนน่าสนใจที่สุด ส่งท้ายปีภาษี 67
(1) KFGGRMF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KFGGRMF
- ลงทุนในหุ้นที่ยอดขายเติบโต กำลังทำธุรกิจใหม่
- กระจายการลงทุนไปหลายประเทศ หลายกลุ่ม
- เน้นน้ำหนักไปที่หุ้นผู้นำ เช่น Nvidia, Amazon, Netflix
*ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต อัตราผลตอบแทนที่นำมาใช้มาจาก Factsheet ของกองทุนรวม ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567
(2) KT-WEQ RMF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KT-WEQ RMF
- ลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง อยู่ในชีวิตประจำวัน
- กระจายเงินลงทุนในหุ้นหลายตัว หลายประเทศ ทำให้ความผันผวนต่ำกว่ากองแรก
- มีทีมผู้จัดการกองทุนคอยประเมินมูลค่าหุ้นและเลือกซื้อตอนที่มันถูกให้
- ชอบผลตอบแทนนิ่งๆ สบายๆ ระยะยาวเฉลี่ยปีละ 5-7%
(3) ABGDD-RMF
อ่าน Factsheet ของกองทุน ABGDD-RMF
- ลงทุนในหุ้นปันผลทั่วโลก ปันผลเติบโตเฉลี่ยไปละ 1.8%
- ถึงเศรษฐกิจจะแย่ บริษัทฯ เหล่านี้ก็จะยังแข็งแกร่ง ขายของได้
- ลงทุนในบริษัทฯ ที่ขายของแล้วได้เงินสด
- จ่ายเงินปันผลเฉลี่ยทั้งปีรวมๆ 6.28%*
(4) KFGBRANRMF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KFGBRANRMF
- ลงทุนในหุ้นที่มีแบรนด์ ชื่อเสียงแข็งแกร่ง ขายของไปทั่วโลก เช่น Microsoft, Visa, L'Oreal
- กระจายการลงทุนไปหลายประเทศ หลายกลุ่ม
- หุ้นกลุ่มนี้มักมีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง ขายของได้เงินสด ทนต่อวิกฤติเศรษฐกิจ
- ระยะยาวผลตอบแทนเฉลี่ย 6.94% ต่อปี*
(5) MEGA10RMF
อ่าน Factsheet ของกองทุน MEGA10RMF
- ลงทุนในหุ้นทรงอิทธิพล 10 อันดับแรกในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
- เสมือนซื้อหุ้นด้วยตัวเองโดยการมีหุ้นแค่ 10 ตัว ทำให้มีความเสี่ยงสูงด้วย ผลตอบแทนสูงด้วย
- ตัวอย่างของหุ้นในกองทุนนี้ เช่น META, Google, Oracle, Apple
ซื้อกองทุน RMF ได้ที่ไหน?
ซื้อได้แล้วทุกกองบนแอป Liberator หัวข้อ Mutual Funds โดยเริ่มจาก พิมพ์หาชื่อกองทุนรวม ในปุ่มค้นหา จากนั้นศึกษารายละเอียดกองทุนรวม เทียบกับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้แล้วเริ่มวางแผนซื้อขายได้เลย
ทั้งนี้ถ้าเราชอบใจกองทุนนี้ต่อหลังจากหมดช่วงลดหย่อนภาษีไปแล้ว สามารถมองหากองทุนประเภท สะสมผลตอบแทน ที่เป็นกองทุนลงท้ายด้วยรหัส A ต่อเนื่องได้เลย
เริ่มต้นวันนี้ได้เลย ง่ายมาก 500 บาทก็เริ่มต้นเส้นทางการลงทุนระยะยาวได้แล้ว