เลือกกองทุนไหนดีในยุคทรัมป์ 2.0
หุ้นไทยทำเหนื่อยใจ ลองแบ่งเงินมากองทุนหุ้นโลกแทนไหม?
จัดพอร์ต เลือกกองทุนไหนดีในยุคทรัมป์ 2.0 ให้เงินลงทุนยังเติบโตได้ระยะยาว
(❗️แจกสูตรสแกนหุ้นธุรกิจแข็งแกร่ง แพ้ยาก คุณภาพสูงในบทความ)
เนื้อหานี้มาจาก LIVE บนช่อง YouTube บนช่อง Liberator Securities วันที่ 31 มกราคม 2568 ดูรายการเต็มๆ ได้ที่:[ LIBFUND #12 ] เมื่อทรัมป์ขึ้นรับตำแหน่ง หุ้นโลกกระทบมุมไหน เตรียมรับมือยังไงได้บ้าง
บทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง?
สรุปเศรษฐกิจ ยุคทรัมป์ 2.0: ลงทุนอย่างไรดี?
การมาของทรัมป์จะส่งผลกับเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างไร? มีผลอะไรกับตลาด
กลยุทธ์ของทรัมป์ จะเน้นสร้างสถานการณ์ให้ฝ่ายอื่นๆ กังวลและมาเจรจาแลกผลประโยชน์ ตลาดจะตกใจในช่วงแรกและคลายความกังวลหลังเจรจาเสร็จสิ้น เช่น เรื่องการขึ้นภาษี เงินเฟ้อ
หุ้นสหรัฐอเมริกา
- จัดเป็นพอร์ตหลัก (40-50%)
- เน้นเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพที่เป็นผู้นำ มีกระแสเงินสดสูง
- ราคาหุ้นอยู่ในช่วงที่แพง อยู่ในโซน P/E +1SD กำไรยังคงเติบโต
- ต้องระวังสัญญาณการชะลอตัวของรายได้และกำไร
หุ้นจีน
- แบ่งเงินลงทุนบางส่วน (10-20%)
- มีเทคโนโลยี Deepseek AI ที่แข่งขันได้ ต้นทุนต่ำกับสหรัฐฯ
- ราคาบ้านมือสองที่คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
- มีความเสี่ยงเรื่อง มาตรการภาษีนำเข้า จากสหรัฐฯ ที่อาจจะกดดันต่อ
หุ้นยุโรป
- ยังไม่แนะนำซื้อ
- ราคาขึ้นมาใกล้ New High โดยที่พื้นฐานเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่แน่นอน
หุ้นอินเดีย
- แบ่งเงินลงทุนได้เล็กน้อย (5-10%)
- ราคาหุ้นที่เริ่มถูกลงในโซน P/E เฉลี่ย
- อินเดียเป็นตาอยู่มาตลอด ไม่เข้าข้างใคร เน้นหาผลประโยชน์
- อินเดียดูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทรัมป์
หุ้นเวียดนาม
- แบ่งเงินลงทุนได้เล็กน้อย (5-10%)
- มีโอกาสที่จะได้เข้าใน FTSE Emerging market หลังเลื่อนมาหลายรอบในช่วงไตรมาส 4 ปี 2025
- มาตรฐานและกฎเกณฑ์ในตลาดเริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฝากเงิน ชำระราคาเร็วขึ้น
ตราสารหนี้ระยะกลาง อายุ 3-10 ปี
- แบ่งเงินส่วนที่เหลือมาลงทุน สร้างความปลอดภัยให้พอร์ต
- ธนาคารกลางในยุโรปและสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ย แม้จะยังไม่เร็วนัก
- การซื้อกองทุนตราสารหนี้เสมือนว่าเราปล่อยกู้ในดอกเบี้ยที่แพง เมื่อดอกเบี้ยลง มีแนวโน้มจะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
ฟังมุมมองเศรษฐกิจแบบละเอียดได้ในรายการ [ LIBFUND #12 ] เมื่อทรัมป์ขึ้นรับตำแหน่ง หุ้นโลกกระทบมุมไหน เตรียมรับมือยังไงได้บ้าง ช่วงนาทีที่ 00:00 - 37:00
จัดพอร์ตกองทุนรวม ทำอย่างไร?
เวลาจัดพอร์ตการลงทุน ควรแบ่งออกเป็น 2 พอร์ต
- พอร์ตลงทุน เน้นสะสมยอดเงินให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- พอร์ตเก็งกำไร เข้าไปเก็งตามรอบเศรษฐกิจ
เราควรจัดน้ำหนักส่วนใหญ่ให้กับพอร์ตลงทุนที่เน้นสะสมสินทรัพย์เพิ่มขึ้น กระจายซื้อกองทุนที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว 5 ปี 10 ปี เช่น
▶️ กองทุนรวมหุ้นชั้นนำทั่วโลก PRINCIPAL GLEADER
▶️ กองทุนรวมตราสารหนี้คุณภาพดี PRINCIPAL GFIXED
รับความเสี่ยงได้มาก ให้เน้นน้ำหนักไปที่กองทุนหุ้น
รับความเสี่ยงได้ต่ำ ให้เน้นน้ำหนักไปที่กองทุนตราสารหนี้
ส่วนที่เหลือให้นำมาเข้าพอร์ตเก็งกำไร ดูสตอรี่เก็งกำไรระยะสั้น
ในที่นี้ เช่น กองทุนหุ้นเวียดนาม กองทุนที่ได้ประโยชน์จากทรัมป์
การจัดพอร์ตแบบนี้จะทำให้ระยะยาวเงินลงทุนยังเติบโต และยังไม่พลาดโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นที่อาจให้ผลตอบแทนสูงด้วย
เลือกซื้อกองทุนไหนดี ปี 2025 ที่ลงทุนระยะยาวได้
กองทุนหลักที่เราควรใส่ ควรเป็นกองทุนที่มีการกระจายความเสี่ยง ลงทุนในสินทรัพย์ที่แพ้ยาก และมีความสามารถในการปรับตัวระยะยาว
กองทุน 𝗣𝗥𝗜𝗡𝗖𝗜𝗣𝗔𝗟 𝗚𝗟𝗘𝗔𝗗𝗘𝗥 มีครบทุกข้อ!
เปิดให้จองซื้อขายได้แล้วบนแอป Liberator วันที่ 4-11 ก.พ. 2568
- ดาวน์โหลดแอปและเปิดบัญชีกับ Liberator ที่นี่
- วิธีเปิดบัญชีกองทุนรวมของ Liberator
- วิธีซื้อขายกองทุนรวม
การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจกองทุน ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุน PRINCIPAL GLEADER ดีอย่างไร?
1. เสี่ยงต่ำกว่าหุ้นรายตัว ลงทุนหลายประเทศ หลายอุตสาหกรรม
กองทุน PRINCIPAL GLEADER ไปลงทุนในกองทุนรวมชื่อว่า Brown Advisory Global Leader
กระจายเงินลงทุนไปหลายประเทศ โดยมีเงินลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ประมาณ 43.8% ตอบโจทย์คนที่คิดว่าหุ้นสหรัฐอเมริกาแพงแล้ว เน้นหาหุ้นที่แข็งแกร่ง มีคุณภาพสูงเป็นหลัก ที่สำคัญคือ ในกองนี้มีหุ้นเทคโนโลยีมีแค่ 22%
Highlight ของกองทุนนี้ คือ แม้ว่ากระจายความเสี่ยงไปมากแต่ผลตอบแทนยังดีจากฝีมือผู้จัดการกองทุน กองทุนหลักทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 12.5% ต่อปี
อ่าน Presentation ของกองทุนรวม PRINCIPAL GLEADER ที่นี่
อ่าน Fund Factsheet ของกองทุนรวม Brown Advisory Global Leader ที่นี่
*ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต
2. กองทุนหลักเลือกแต่หุ้นแพ้ยาก
กองทุนนี้เอาเงินไปลงทุนในกอง Brown Advisory Global Leaders ซึ่งบริหารด้วย Fund Manager ท่านเดิมมาแล้วเป็น 10 ปี เน้นเลือกในหุ้นชั้นนำทั่วโลกที่มีคุณภาพสูง
- มี Gross Margin สูง (>50%)
ขายของที่คนอื่นแข่งได้ยาก - มี ROIC สูง (>20%)
มีกำไรเทียบกับเงินลงทุนสูง - มี FCF Margin สูง (>20%)
ทำธุรกิจมีกระแสเงินสดสูง
ผมลองสแกนดูมาให้แล้ว สูตรนี้หาหุ้นได้ฟรี บน Tradingview Screener ลองไปใช้หาหุ้นทำการบ้านลงทุนระยะยาวได้นะ ของดีมาก
3. กองทุนหลักปรับตัวเก่ง
หลักบริหารของกองทุนหลัก Brown Advisory Global Leader Fund จะมีขั้นตอนการเลือกและวิเคราะห์การลงทุนที่ชัดเจน
ทีมงานผู้จัดการกองทุนจะทำงานร่วมกับ นักจิตวิทยาพฤติกรรม (Behavioral Coach) เพื่อล้างอคติ ความหลงรักในหุ้นซึ่งมักทำให้เสียหายอยู่เสมอ
มืออาชีพเขาคิดยังไงเมื่อหุ้นลง
ใช้กลยุทธ์ Drawdown Review
- มีรีวิวรายสัปดาห์ ให้ทีมงานนักวิเคราะห์มาถกกันว่าหุ้นนี้ควร ซื้อเพิ่ม หรือ ขายออก
- เมื่อมีสถานการณ์ผิดปกติ เช่น ราคาหุ้นปรับตัวลง 20% การเห็นมุมมองทั้ง 2 ด้านจากทั้งคนที่อยากซื้อและอยากขายจะทำให้อคติลดลงได้
- เมื่อตัดสินใจไปแล้วจะมาติดตามผลต่อว่าหลังจากซื้อขายไปแล้วเป็นอย่างไรต่อบ้าง
ถ้าตัดสินใจได้ดี เมื่อซื้อแล้วหุ้นควรจะขึ้นต่อ เมื่อขายแล้วหุ้นควรจะลงต่อ
ตัวอย่างของหุ้นที่อยู่ในกองทุนนี้
- Microsoft, Google ที่หลายท่านคุ้นเคยอย่างดี
- LSEG ตลาดหลักทรัพย์ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ของลอนดอน มีค่าธรรมเนียมสม่ำเสมอทุกปี ตอนนี้เริ่มให้บริการขายข้อมูลกับสถาบันการเงิน บริษัทฯ ต่างๆ ที่อยากได้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจลงทุนตลาดหุ้น
- PT Bank Rakyat Indonesia ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย เน้นให้บริการ Micro-Finance สำหรับคนรายได้ต่ำ ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้
- Zoetis บริษัทฯ ยาและเวชภัณฑ์เพื่อสุขภาพสัตว์ชั้นนำของโลก ที่กำไรยังเติบโตต่อเนื่องแม้ในช่วงโควิด
คำเตือนเล็กน้อย
- กองทุนนี้ลงทุนในกองทุนหลักที่ต่างประเทศเป็นหลัก ลงทุนในหุ้นหลายประเทศ มีความเสี่ยงระดับ 6 อาจทำให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากค่าเงิน
- ต้องคอยประเมินและติดตามผลงานของกองทุนรวมในไทยหลังหักค่าธรรมเนียมต่างๆ ว่ายังคุ้มค่า ตรงกับเป้าหมายของเรา
- กองทุนนี้มีเงินลงทุนในบริษัท Alphabet หรือ GOOGL ที่หลายท่านคุ้นเคย บริษัทฯ นี้กำลังเป็นที่กังวลว่าจะถูก ChatGPT แย่งชิงพื้นที่ในอนาคตไปหมด อย่างไรก็ตาม Google ยังมีธุรกิจอื่นๆ มีรายได้ กำไรเติบโต ยังลงทุนใน Data Center เพื่อขยายธุรกิจส่วนของ AI อยู่ มีโอกาสเป็นเพียงความเสี่ยงระยะสั้น
ถ้าชอบกองทุน 𝗣𝗥𝗜𝗡𝗖𝗜𝗣𝗔𝗟 𝗚𝗟𝗘𝗔𝗗𝗘𝗥 ที่มีข้อดี
- กระจายความเสี่ยงหลายประเทศ แต่ยังมีผลตอบแทนในอดีตแข็งแกร่ง
- เลือกหุ้นคุณภาพสูง แพ้ยาก เหมาะกับเศรษฐกิจ
- เป็นโอกาสลงทุนระยะยาวได้
เริ่มต้นจองซื้อกองทุนนี้ครั้งแรกได้แล้ววันนี้บนแอป Liberator 🥰
มาลองดูกันว่า ระหว่างซื้อกองทุน กับ ลงทุนด้วยตัวเอง แบบไหนจะได้ผลตอบแทนดีกว่ากัน