ETFs: นวัตกรรมยุคใหม่ ลงทุนง่ายขึ้นหลายเท่า
ETF คืออะไร ?
ETF (Exchange-Traded Funds) คือ กองทุนที่รวบรวมเงินของนักลงทุนไปซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ตามธีมหลักที่เป็นนโยบายของกองทุน เช่น
- ธุรกิจ Semiconductor รากฐานของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์
- ธุรกิจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- ธุรกิจพลังงานทางเลือก
แค่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อ ETF บนตลาด 1 ตัว ก็เปิดโอกาสให้เรามีสิทธิเสมือนเจ้าของหลายธุรกิจพร้อมกัน ทำได้ง่ายมาก
ความพิเศษของกองทุนแบบ ETF คือ เปิดให้นักลงทุนซื้อขายได้บนตลาดแลกเปลี่ยนทันที ไม่ต้องรอจบวันแล้วต้องลุ้นว่าได้ต้นทุนราคาที่เท่าไหร่ กำไรเพิ่มขึ้นลดลงกี่บาท หากพบว่ามีกำไรที่เหมาะสม พอใจแล้วจะขายในวันก็ทำได้ทันที
หุ้นที่กองทุนซื้อจะขึ้นชื่อว่ากองทุนเป็นเจ้าของ นักลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นโดยตรง ดังนั้น เราจะเข้าประชุมผู้ถือหุ้นไม่ได้และไม่มีชื่อรับปันผลจากบริษัทโดยตรง อย่างไรก็ตามเราจะยังคงได้ปันผลจากกองทุน ETFs แทน
ค่าธรรมเนียมต่ำ ผลตอบแทนใกล้เคียงสินทรัพย์จริง
กระแสการลงทุนผ่าน ETF เริ่มได้ความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ด้วยลักษณะของ ETF ที่ลงทุนได้ง่าย ซื้อขายได้บนตลาดทันที มีหลายสินทรัพย์ที่เข้าถึงยาก เช่น พันธบัตร ให้ลงทุนได้แม้มีเงินเริ่มต้นไม่มาก
วิธีคัดเลือก ETF
- เริ่มต้นกันที่ธีมการลงทุนที่สนใจก่อน เช่น สนใจลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
- เปรียบเทียบผลตอบแทนของกอง ETFs ว่าทำได้ดีกว่ากองอื่นๆ ธีมเดียวกันหรือไม่
- เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมด้วยสิ่งที่เรียกว่า Expense Ratio
อ้างอิงจาก ICI Factbook ปี 2023 (หนังสือสรุปอุตสาหกรรมกองทุนในสหรัฐฯ) ระบุว่า ETF มีอัตราค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนต้องจ่ายเฉลี่ย 0.16% เท่านั้น (บางกองมีค่าธรรมเนียมต่ำแค่ 0.02%) เทียบกับทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ถือว่าถูกมาก ช่วยนักลงทุนประหยัดเงินได้มหาศาล
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในกองทุนที่ต่ำลงส่งผลให้นักลงทุนลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนใกล้เคียงสินทรัพย์จริงมากขึ้น เหมาะมากกับการกระจายลงทุนระยะยาว ทำให้ความผันผวนของการลงทุนลดลง ไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
เข้าถึงสินทรัพย์หลากหลายกลุ่ม กระจายได้ง่าย เหมาะกับลงทุนระยะยาว
กระจายการลงทุน จัดพอร์ตเสริมความมั่นคงในระยะยาวด้วยการกระจายเงินทุนไปหลายสินทรัพย์
- Asset Class ETFs เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้เอกชน พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ หรือแม้กระทั่งคริปโตเคอร์เรนซีได้ง่ายมาก แค่ 1$ ก็เริ่มลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ เหมาะมากกับนักลงทุนที่ต้องการจัดสรรเงินลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในระยะยาว
- Industry ETFs เกาะกระแสกลุ่มธุรกิจที่กำลังจะเป็นอนาคตยุคใหม่ เช่น กลุ่มธุรกิจ AI, ยารักษาโรคใหม่ๆ, กลุ่มผู้ผลิตชิปและ Semiconductor, กลุ่มพลังงานทางเลือก, กลุ่มรถยนต์ไร้คนขับ ลงทุนได้ง่าย แถมได้ความรู้เพื่อไปเจาะลึกหุ้นรายตัวสำหรับผู้เริ่มต้น
- US Equity ETFs กระจายการลงทุนได้หลายอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ จากหุ้นกว่า 6,000 บริษัท ถ้าเราศึกษาเองอาจใช้เวลายาวนาน การเริ่มต้นจากเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ แล้วทยอยศึกษาไปทีละอุตสาหกรรมจนเชี่ยวชาญจะเป็นเส้นทางการลงทุนที่ยั่งยืน เก่งขึ้นด้วย ได้ผลตอบแทนข่วงเวลาที่ศึกษาด้วย
- Bond ETFs ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตรรัฐบาล หรือ ตราสารหนี้คุณภาพสูงภาคเอกชนได้ด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง 1$ ช่วยให้นักลงทุนปรับแต่งเงินลงทุนระยะยาวให้รับความเสี่ยงได้กับช่วงอายุและเงื่อนไขการเงินของแต่ละคน
- Regional ETFs เปิดโอกาสให้กระจายการลงทุนกว้างขึ้นได้อีก กับ ETF ต่างประเทศที่ลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหุ้นและตราสารหนี้หลายๆ หมวดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (DM) และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EM) ได้ง่าย อ่านข่าวมาว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังแข็งแกร่ง ก็ลงทุนผ่าน ETF ได้
- Commodity ETFs เข้าลงทุนกับสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น สินค้าเกษตร ทองคำ น้ำมัน โลหะภัณฑ์ต่างๆ ทำให้เราเข้าถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงของสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง ไม่มีปัจจัยอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง (สินทรัพย์ประเภทนี้มีความเสี่ยงสูง ต้องมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระดับหนึ่งถึงเหมาะกับการลงทุนครับ)
ลดความเสี่ยงเงินลงทุนด้วย ETF
การคาดการณ์ว่า “ปีนี้สินทรัพย์ตัวไหนจะทำกำไรแน่นอนได้มากที่สุด” นั้นตอบได้ยากมาก
มีโอกาสที่เราจะผิดและเกิดความเสียหายในเงินลงทุน เพราะปัจจัยเศรษฐกิจ พื้นฐานธุรกิจนั้นเปลี่ยนแปลงได้ว่องไว แม้ว่าจะตั้งใจคัดเลือกให้ดีที่สุดก็ยังคงมีความเสี่ยง เมื่อเทียบกับการกระจายเงินลงทุนผ่าน ETF ของสินทรัพย์ต่างๆ จะทำให้ความเสี่ยงลดลง ผลตอบแทนมีความสม่ำเสมอได้ง่ายขึ้น