กองทุนรวม index fund ต่างประเทศ เริ่มยังไง

ตั้งปณิธานปีใหม่ คนใหม่ เริ่มจัดการวางแผนการเงินกันใหม่รับปี 2025

ถึงปีใหม่จะผ่านมาสักพักแล้ว เรายังเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เสมอ

บทความนี้เหมาะกับนักลงทุนที่

  • มีเงินออมแล้วระดับหนึ่ง มีสำรองเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
  • กำลังมองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวดีกว่าในไทย 
  • ไม่มีเวลาและพลังมาศึกษาและเลือกหุ้นด้วยตัวเอง

เนื้อหาโดย: เด็กการเงิน (DekFinance)

เรียบเรียงและรูปโดย: ลิเบอเรเตอร์ (Liberator Securities)

ทำไมต้องลงทุนเพิ่มด้วย?

จากบทความซีรี่ย์ ปีใหม่ คนใหม่ ตั้งปณิธานใหม่เริ่มต้นลงทุน (อ่านตอนแรกได้ที่นี่)

ตอนที่แล้วเราได้แชร์ว่า ถ้าอยากเริ่มต้นเป็นคนใหม่ ขั้นตอนแรก คือ การจัดสรรการเงินของเราเสียก่อน

แบ่งเงินให้เหลือเงินออม เงินลงทุน 

ในช่วงแรกๆ ที่เราออมเงิน เราจะออมได้ 2 ที่

  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคาร ได้ดอกเบี้ย 0.5 - 2% ต่อปี 
  • กองทุนตลาดเงิน ให้รัฐบาล / บริษัทยืมเงินระยะสั้น ได้ดอกเบี้ย 2-3% ต่อปี

หรือถ้าฝากเงินได้ 50,000 บาท ทั้งปีเราจะได้ดอกเบี้ยเพียง 250-1,000 บาท เท่านั้น ....

น่าเสียดายว่า เมื่อเทียบกับเงินเฟ้อระยะยาวมักเพิ่มขึ้นมากกว่าปีละ 3% (สั่งข้าวราดแกง 2 อย่าง 10 ปีที่แล้ว 40 บาท ตอนนี้ 60 บาทแล้ว T_T) 

มันไม่เพียงพอ

ลงทุนต่างประเทศทำอย่างไร?

ในขั้นตอนต่อไปเมื่อมีเงินออมแล้ว คือ เริ่มลงทุนขยายดอกผล

ถ้าการฝากเงินในธนาคารให้ดอกเบี้ยน้อยเกินไป เราก็ต้องหา "อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น"

ในเส้นทางการเงิน มีประโยคหนึ่งสำคัญมากสำหรับพวกเราทุกคน

ถ้าเราอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ความเสี่ยงย่อมสูงมากขึ้น (High Risk High Return)

สินทรัพย์ที่เสี่ยงขึ้นมีอะไรบ้าง มีหลายอย่างเลย เช่น การเริ่มต้นทำธุรกิจ, การซื้อคอนโด-บ้านมาปล่อยเช่า, การซื้อหุ้นกู้ (ให้บริษัทยืมเงิน 4-5 ปี), การซื้อหุ้นรายตัว

ทางเลือกที่ง่าย มีการเติบโตระยะยาวโดดเด่น ในช่วงปีที่ผ่านมา คือ หุ้นต่างประเทศ

มันโตดีแค่ไหน? ลองดูว่าถ้าลงทุนในกองทุนที่ลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เราอาจได้ผลตอบแทนระยะยาวมากถึงปีละ 10%*

*อ้างอิงจากผลตอบแทนของ SPDR S&P500 ETF Trust ที่ลงทุนในดัชนีหุ้นอเมริกา มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่จัดตั้งในปี 1993 เฉลี่ยปีละ 10.47%

อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้วยตัวเองนั้นต้องใช้เวลาเรียนรู้และศึกษา สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่เชี่ยวชาญมากนัก เราสามารถ "จ้าง" คนมาช่วยดูแลเงินลงทุนเราได้ โดยนำเงินไปซื้อ กองทุนรวม

กองทุนรวม คือ การรวมทีมของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ที่จะทำงานร่วมกันและสกัดหาโอกาสลงทุนที่ดีที่สุดตามนโยบายที่กำหนดไว้ให้กับเรา เช่น กองทุนตราสารหนี้ก็จะรวบรวมเงินไปซื้อและบริหารตราสารหนี้ของหลายๆ ที่ บริหารความเสี่ยงให้กับเรา

กองทุนที่เราจะพูดถึงกันวันนี้ คือ กองทุนต่างประเทศที่ เรียกกันว่า กองทุนดัชนี (Index Funds)

 

ดัชนีตลาดหุ้น, กองทุนดัชนี คืออะไร?

"คุณจ๊อบ การลงทุนต่างประเทศมันยากไม่ใช่หรอ 
แค่หุ้นไทยยังลำบากเลย เราต้องทำยังไง เรามีอะไรที่ได้เปรียบ"

 

ถ้าพูดถึงการเลือกหุ้นรายตัว แน่นอนคนที่ยังไม่มีประสบการณ์หรือเพิ่งเริ่มศึกษาจะไม่ได้เปรียบอยู่แล้ว

แต่อย่าเพิ่งท้อใจไปครับ เพราะนวัตกรรมที่เรียกว่า กองทุนดัชนี ช่วยเราได้

กองทุนดัชนี คืออะไร

กองทุนดัชนี คือ กองทุนที่รวบรวมเงินของนักลงทุนไปซื้อหุ้นให้ครบทุกตัวในดัชนี

ดัชนีตลาดหุ้นคืออะไร?

ดัชนีตลาดหุ้น เปรียบเหมือนกับ ตะกร้า ใบหนึ่ง ในตะกร้าประกอบไปด้วยหุ้นหลายๆ ตัว โดยจะจดบันทึกราคา ความเคลื่อนไหวของมูลค่าหุ้นทุกตัวในตะกร้าไปพร้อมๆ กัน ข้อดี คือ เราเห็นภาพรวมของทั้งตลาดได้ง่ายขึ้น 

เช่น ดัชนี SET50 ของประเทศไทย ซึ่งรวบรวมความเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงของหุ้นที่เข้าเงื่อนไขทั้ง 50 ตัวให้ดูได้พร้อมกัน

ดูพร้อมกันเป็นดัชนีมันช่วยอะไร?

ถ้าเราลงทุนในหุ้น 1 ตัว แล้วหุ้นตัวนั้นดันผลประกอบการไม่ดีทำให้เราขาดทุน เราจะขาดทุนหุ้นตัวนั้นเต็มๆ ไปเลย 

ถ้าเราเลือกลงทุนหุ้นพร้อมกันทั้งดัชนี ความเสี่ยงจากการที่หุ้น 1 ตัวทำให้ผลงานการลงทุนของเราย่ำแย่ก็ลดน้อยลง เพราะเรามีหุ้นตัวอื่นๆ ที่อาจจะมีข่าวดีคอยค้ำชูเงินลงทุนของเราเอาไว้อยู่ ยิ่งดัชนีหลายๆ ที่มักจะมีเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นที่เข้มงวด เช่น ต้องเป็นบริษัทฯ ที่มีกำไร ต้องเป็นบริษัทฯ ที่มีมูลค่าสูง นั่นยิ่งเป็นเหมือนกับการคัดเลือกหุ้นแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ เหลือแต่หุ้นดีๆ เท่านั้นอยู่ในตะกร้าอยู่เสมอ

ดังนั้น การที่เราซื้อกองทุนดัชนี คือ การซื้อหุ้นทั้งตะกร้าพร้อมกัน มีความเสี่ยงลดลง มีการคัดเลือกหุ้นแข็งแกร่งเข้ามาที่เราตามธรรมชาติ

 

ทำไมต้องลงทุนกองทุนดัชนี (Index Funds)

  1. เงินไม่มากก็ลงทุนได้ เน้นออมสม่ำเสมอ โตไปในระยะยาว
  2. เสี่ยงน้อยกว่าเลือกหุ้นแค่ตัวเดียว ในระยะยาวหุ้นที่อ่อนแอจะหลุดออกจากดัชนี
  3. มีค่าธรรมเนียมถูก ต้นทุนไม่แพง เก็บผลตอบแทนได้มากกว่า
  4. ลงทุนได้ง่าย ไม่ต้องทำการบ้าน ไม่ต้องใช้เวลา เลือกหุ้นด้วยตัวเอง

 

ดัชนีหุ้น 3 ดัชนีที่เราจะแนะนำวันนี้ เป็นดัชนีของประเทศที่พัฒนาแล้ว  ได้แก่ ดัชนี S&P500 ของสหรัฐอเมริกา, ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น และดัชนี MSCI ACWI (All countries world index)

1. ดัชนี S&P500 คืออะไร

ถ้าพูดถึงตลาดหุ้นที่เป็นผู้นำของการลงทุนทั่วโลก มีผลตอบแทนระยะยาวแข็งแกร่ง คือ ตลาดหุ้นประเทศสหรัฐอเมริกา

ดัชนี S&P500 รวบรวมหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ จากทั้งตลาดหุ้น NYSE (New York Stock Exchange) และ Nasdaq ประกอบด้วยหุ้นคุณภาพดี หรือ บลูชิป คัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่าบริษัทสูงที่สุดมาก่อน 500 บริษัทฯ แรก

ดัชนีนี้คิดแล้วรวมเป็นมูลค่าประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั้งหมด

กิจการในกลุ่มนี้มีความน่าสนใจ เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีสินค้าและบริการไปทั่วโลก

เราแนะนำให้ศึกษาดัชนี และกองทุนรวมดัชนีหุ้น S&P500 เป็นอันดับแรกๆ

ตัวอย่างกองทุนรวมดัชนี S&P500 ได้แก่ KFUSINDFX-A

ดูหนังสือสรุปข้อมูลสาระสำคัญของกองทุนรวมได้ ที่นี่ (ถ้ามีแอป Liberator  อยู่แล้ว พิมพ์ชื่อกองทุน> Mutual Funds)

2. ดัชนี Nikkei 225 คืออะไร

ดัชนี Nikkei 225 เป็นตัวแทนตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีอายุเกือบ 80 ปี

ตลาดนี้เป็นอีกตลาดที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ รวมหุ้นชั้นนำ ของประเทศญี่ปุ่นกว่า 225 ตัว จัดสัดส่วนตามราคาหุ้น หรือ price-weight (ยิ่งราคาสูงยิ่งจัดน้ำหนักให้มาก)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของหุ้นคุณภาพ และปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

ดัชนี Nikkei 225 กระจายตัวหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตได้ นอกจากนี้ภาครัฐยังมีนโยบายการเงินและการคลังสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้น ควบคุมเสถียรภาพของค่าเงิน สนับสนุนการเติบโตการส่งออกสินค้าญี่ปุ่นไปทั่วโลกด้วย

ตัวอย่างกองทุนรวมดัชนี S&P500 ได้แก่ KFJPINDX-A และ KT-JPFUND-A

 

3. ดัชนี MSCI All Country World Index (ACWI) คืออะไร

ถ้าคิดว่าการเลือกลงทุนหุ้นประเทศใดประเทศหนึ่งยังเสี่ยงเกินไป

ในตอนที่หุ้นของประเทศสหรัฐอเมริกามันแพงเกินไป ยังมีโอกาสน่าสนใจในหุ้นเวียดนาม หุ้นญี่ปุ่น หุ้นจีน หรือประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ

ทางเลือกสุดท้ายสำหรับการลงทุนหุ้นทั่วโลกได้ แบบซื้อทีเดียวได้ทุกประเทศเลย คือ กองทุนดัชนีหุ้นโลก (ACWI อ่านว่าแอควี่)

ดัชนีนี้ถูกจัดขึ้นโดย MSCI เป็นการวัดผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ปัจจุบันมีหุ้นกว่า 2,600 ตัว ครอบคลุมตลาดหุ้น 47 ประเทศทั่วโลก สะท้อนมูลค่าตลาดทั่วโลกประมาณ 85%

MSCI ACWI เป็นดัชนีที่มีการคำนวณอย่างสม่ำเสมอ และเป็นดัชนีหุ้นโลก (Global Equity) ที่ผู้จัดการกองทุนใช้ในการเป็น Benchmark หรือมาตรฐานผลตอบแทนที่นำมาเปรียบเทียบกับกองทุนแบบแอคทีฟที่ตนบริหาร

กองทุนรวมดัชนี ACWI ยังเป็นขวัญใจของสาย จัดพอร์ตด้วยตนเอง หรือ DIY (Do it yourself) โดยมีกองทุนดัชนีดังกล่าวเป็นหลัก ตามด้วยกองทุนธีมอื่นๆ เป็นสัดส่วนรอง

ตัวอย่างกองทุนรวมดัชนี MSCI ACWI ได้แก่ KFWINDX-A และ KT-GEQ-A

กองทุนดัชนี ลงทุนอย่างไร?

"ตอนนี้ยังไม่ค่อยอยากซื้อเลย รู้สึกว่ามันแพงเกินไป" 

ถ้าเรากำลังรู้สึกแบบนี้หนึ่งในวิธีการลงทุนที่เราควรทำ คือ การ ทยอยซื้อสะสมทุกเดือน (DCA)

เหมือนกับการเลือกต้นไม้พันธุ์ดีที่ออกดอกออกผลได้ในระยะยาว เราค่อยๆ รดน้ำ ดูแลต้นไม้สม่ำเสมอ

วันหนึ่ง แรงที่เราลงไป จะทำให้ต้นไม้เติบโต ผลตอบแทนก็เพิ่มมากขึ้น

การลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกัน 

สิ่งที่เราทำได้แบบง่ายๆ ใช้เวลาไม่มาก คือ การแบ่งเงินออมมาซื้อหน่วยลงทุนเป็นประจำ สม่ำเสมอ โดยไม่กะจังหวะลงทุน 

ในระยะยาว เงินลงทุนเราจะค่อยๆ เติบโตขึ้น ดอกผลจะยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการจับจังหวะของตลาด

เงินต้นเพิ่มขึ้น ผลตอบแทน 5-7% เท่าเดิม แต่คิดออกมาเป็นตัวเงินก็ย่อมมากขึ้น

สิ่งที่เราต้องทำ มีแค่การตั้งปณิธานกับตัวเอง ตั้งใจจะทำมันต่อไปอย่างสม่ำเสมอ และทบทวนบ้างเป็นระยะๆ เท่านั้น

ลงทุนต่างประเทศยังรู้สึกยากอยู่ไหม?

ในบทความนี้ เราได้สรุปให้เห็นว่า

  • เริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศง่ายๆ จากกองทุนดัชนี ซึ่งซื้อได้บนแอป Liberator
  • การลงทุนทั้งดัชนี คือ การลงทุนกับหุ้นแข็งแกร่งที่ถูกคัดเลือกและทบทวนอยู่เสมอ หุ้นอ่อนแอจะหลุดออกไป หุ้นแข็งแกร่งจะยังอยู่ต่อ ทำให้ระยะยาวจะยังคงเติบโต
  • ดัชนีที่แนะนำในบทความนี้ คือ สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, หุ้นทั่วโลก

กองทุนดัชนีที่แนะนำในบทความนี้ ได้แก่

  • KFUSINDX-A กองทุนดัชนี S&P500 ของสหรัฐอเมริกา อ่านที่นี่
  • KFJPINDX-A กองทุนดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น
  • KT-JPFUND-A กองทุนดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น
  • KFWINDX-A กองทุนดัชนี MSCI ACWI หุ้นทั่วโลก
  • KT-GEQ-A กองทุนดัชนี MSCI ACWI หุ้นทั่วโลก

อยากเริ่มต้นเป็นคนใหม่ ออมใหม่ หาเงินลงทุนกันใหม่

แนะนำให้เริ่มต้นจากกองทุนดัชนีได้เลย

ซื้อได้แล้วทุกกองทุนบนแอป Liberator > Mutual Funds