10 วันสุดท้าย ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF กองไหนดีที่ไม่ใช่อเมริกา?
10 วันสุดท้ายแล้วที่ซื้อกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีปี 67 ได้
คัดมาให้แล้วกองทุนกลุ่ม SSF 5 กองสุดท้ายที่ไม่ได้เน้นลงทุนหุ้นที่แพงแบบหุ้นสหรัฐฯ แต่มองหาโอกาสใหม่ๆ จากประเทศอื่น หรือกองทุนเสี่ยงต่ำลง
เนื้อหาโดย เพจ เด็กการเงิน (DekFinance)
รูปภาพโดย ทีมงาน บล. ลิเบอเรเตอร์
ซื้อกองทุนรวมได้แล้ววันนี้บนแอป Liberator ดาวน์โหลดแอปและเปิดบัญชี ที่นี่
กองทุน SSF ที่น่าสนใจนอกสหรัฐอเมริกา?
กองทุน SSF ซึ่งต้องถือเป็นเวลา 10 ปี เพื่อแลกกับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 30% ของเงินได้ ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท เป็นเครื่องมือที่ยังคงน่าสนใจแม้จะเป็นปีสุดท้าย เพราะว่า
(1) เทียบกับ TESG แล้วกองทุน SSF มีสินทรัพย์ให้ลงทุนได้ทั่วโลก ทุกอุตสาหกรรม เปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่กว้างกว่าการลงทุนเฉพาะหุ้นไทย ในบทความนี้มีหุ้นยุโรป, หุ้นอินเดีย, กองตราสารหนี้ทั่วโลกด้วย
(2) เทียบกับ RMF แล้ว ถ้าเราอายุน้อยกว่า 45 ปี การถือ SSF จะถือ 10 ปี เท่านั้น เทียบกับ RMF ที่ต้องถือจนถึงอายุ 55 ปีถึงจะขายได้ ยืดหยุ่นกว่า
แล้วทำไมเราถึงควรสนใจประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐอเมริกาด้วย?
จากมุมมองของทีมนักวิเคราะห์ Liberator เมื่อประเมินจาก P/E หรือ มูลค่าตลาดของหุ้นหารด้วยกำไรสุทธิของหุ้นทุกตัวรวมกัน
- ตลาดหุ้นอเมริกา มี P/E 26.4 เท่า
- ตลาดหุ้นอินเดีย มี P/E 25.1 เท่า
- ตลาดหุ้นเยอรมนี มี P/E 16 เท่า (พอๆ กับไทย)
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น มี P/E 14.5 เท่า
- ตลาดหุ้นเวียดนาม มี P/E 14.2 เท่า
ถ้าเราคิดว่าตอนนี้หุ้นอเมริกากำลังแพง แต่มีเวลาซื้อน้อย การมองหาตลาดอื่นที่ระยะยาวมีการเติบโตพอๆ กัน แต่ถูกกว่าจะช่วยลดความเสี่ยงลง เพิ่ม Margin of safety หรือส่วนเผื่อความปลอดภัยเพิ่มขึ้นได้
จัดพอร์ตกองทุนรวมสำหรับมือใหม่ต้องทำอะไรบ้าง สรุปให้อ่านได้แล้ว ที่นี่
กองทุน SSF แนะนำ 5 กองทุนมีอะไรบ้าง?
5 กองทุนสุดท้ายที่ เด็กการเงิน x Liberator ช่วยคัดมาให้ (ดูรายชื่อและ Factsheet กองทุนรวมทั้งหมดได้ ที่นี่) ส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง ลงทุนในประเทศหรืออุตสาหกรรมเดียว ดังนั้น ควรจัดให้มีในพอร์ตลงทุนรวม 10-20% ก็เพียงพอแล้ว
(1) MEURO-SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน MEURO-SSF
- ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ในภูมิภาคยุโรป เช่น ASML, Novo Nordisk
- มีทั้งบริษัทฯ เทคโนโลยีและบริษัทฯ ที่มีแบรนด์สินค้าแข็งแกร่ง ติดตลาดทั่วโลก
- เน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ตามแนวโน้มลดดอกเบี้ย ECB
(2) KT-INDIA-SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KT-INDIA-SSF
- ลงทุนในหุ้นเติบโตของประเทศอินเดีย ตัวประเทศเองมี GDP เติบโตอยู่ 5-7%
- คัดเลือกหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน เน้นธุรกิจที่เติบโตแบบมีคุณภาพ แข่งได้ยาก
- กระจายลงทุนในหลายอุตสาหกรรม เลือกซื้อเฉพาะตอนที่ราคาถูก
(3) KT-HEALTHCARE-SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KT-HEALTHCARE-SSF
- ลงทุนในเมกะเทรนด์ผู้สูงอายุและการรักษาแบบใหม่
- ลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพทั่วโลก มีทั้งกลุ่มที่โตสม่ำเสมอ เช่น UnitedHealth และ Amgen และกลุ่มเติบโตรวดเร็วจาก Biotechnology
- มีกลุ่มไบโอเทคเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 เพื่อหาโอกาสเติบโตสูง
- การมาของ AI ทำให้การคิดค้นนวัตกรรมการแพทย์ทำได้เร็วขึ้น
(4) KFINFRASSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KFINFRASSF
- กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก สนามบิน, Data Center, ท่อขนส่งแก๊ส, ระบบส่งไฟฟ้า
- ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ที่มีความต้องการใช้สูง
- มีความผันผวนต่ำกว่ากองทุนหุ้น เน้นความสม่ำเสมอของรายได้
(5) KT-GCINCOME-SSF
อ่าน Factsheet ของกองทุน KT-GCINCOME-SSF
- กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก ไม่จำกัดแค่ investment grade
- กองทุนหลักมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีทีมบริหารความเสี่ยง ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 6.5% ต่อปี
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการล็อกผลตอบแทนตราสารหนี้ในสภาวะดอกเบี้ยสูง
ซื้อกองทุนรวมได้ที่ไหน?
ซื้อได้แล้วทุกกองบนแอป Liberator หัวข้อ Mutual Funds โดยเริ่มจาก พิมพ์หาชื่อกองทุนรวม ในปุ่มค้นหา จากนั้นศึกษารายละเอียดกองทุนรวม เทียบกับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้แล้วเริ่มวางแผนซื้อขายได้เลย
ทั้งนี้ถ้าเราชอบใจกองทุนนี้ต่อหลังจากหมดช่วงลดหย่อนภาษีไปแล้ว สามารถมองหากองทุนประเภท สะสมผลตอบแทน ที่เป็นกองทุนลงท้ายด้วยรหัส A ต่อเนื่องได้เลย
เริ่มต้นวันนี้ได้เลย ง่ายมาก 500 บาทก็เริ่มต้นเส้นทางการลงทุนระยะยาวได้แล้ว