LIB Go Green : แคมเปญสร้างความยั่งยืน สู่การลงทุนเพื่อโลกที่ดีขึ้น
Liberator สร้างแคมเปญที่รวม E, S, และ G เข้าด้วยกัน โดยเน้นความยั่งยืน เท่าเทียม และผลลัพธ์ที่วัดได้ พร้อมชวนทุกคนมาร่วมเดินทางสู่การลงทุนเพื่อโลกที่ดีขึ้น
แนวคิดเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ถูกกำหนดโดย United Nations General Assembly (UNGA) ในปี 2015 โดยกำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งหมด 17 เป้าหมายซึ่งสะท้อน 3 เสาหลักของมิติความยั่งยืนคือ มิติด้านสังคม มิติด้านเศรษฐกิจ และมิติด้านสิ่งแวดล้อม บวกกับอีก 2 มิติ คือ มิติด้านสันติภาพสถาบัน และมิติด้านหุ้นส่วนการพัฒนา ในขณะที่แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนหรือ Environment/ Social/ Governance (ESG) ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวคิดที่นักลงทุนใช้ประกอบการพิจารณาลงทุน โดยให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล และสามารถรองรับกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ SDGs
การไม่พูดเรื่องความยั่งยืนดูจะเป็นเรื่องไม่ยั่งยืนเอาเสียเลย เพราะองค์กรหรือในภาคประชาชน จะอยู่กันไปอย่างไรในสภาพสังคมที่เน้นแต่การทำกำไรทางธุรกิจ จนลืมที่จะมองภาพรวมในระยะยาว ความยั่งยืนจึงไม่ใช่แค่สิ่งที่เราทำแล้วจบในวันนี้ แต่คือสิ่งที่ส่งผลต่อเนื่องในอนาคตเพื่อให้ People Profit Planet หรือ Tripple Bottom Line อยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดีแบบไม่ทิ้งขาใดขาหนึ่งให้ล้มลง
เมื่อพูดเรื่องความยั่งยืนจึงไม่ได้มีแค่เรื่องสิ่งแวดล้อมหรือแค่เรื่องเขียว ๆ เพราะในเป้าหมาย SDG จะตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับองค์กรเอกชนนั้น ๆ สนใจจะขับเคลื่อนในเรื่องใด ที่สำคัญ ไม่เพียงแต่องค์กรใหญ่จะกำหนดแผนงานอย่างมีทิศทางและมีประโยชน์สูงสุดกับสังคมแล้ว ยังส่งผลให้คนทำธุรกิจที่เป็น SME หรือคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องความยั่งยืน ได้ประโยชน์จากการลงมือทำเรื่องความยั่งยืนอย่างจริงจังด้วย
ที่ลิเบอเรเตอร์ ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของเราไม่ว่าจะความยั่งยืนของธุรกิจหรือความยั่งยืนต่อสังคม เราทำให้การลงทุนเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผ่านแพลทฟอร์ม คอมมูนิตี้ ความรู้และการบริการที่เหมือนกับที่นักลงทุนมืออาชีพได้รับให้กับนักลงทุนรายย่อย เพราะการเพิ่มการเข้าถึงและเสรีภาพทางการเงินช่วยส่งผลดีทั้งต่อบุคคลและสังคมโดยรวม
เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของเราในการทำให้การออมและการลงทุนเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ การส่งเสริมความเท่าเทียมเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่ลิเบอเรเตอร์สามารถสร้างความแตกต่างได้ เรามุ่งมั่นที่จะให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และยังสนับสนุนให้ผู้หญิงเริ่มต้นออมในหุ้นและกองทุน รวมถึงมีอำนาจควบคุมอนาคตทางการเงินของพวกเธอมากขึ้น ในปี 2023 เราได้เปิดตัวโครงการ LIBFAM SHE INVESTS, ซึ่งเป็นความริเริ่มที่มุ่งลดช่องว่างทางการเงินระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย มีเป้าหมายเพื่อสร้างสังคมเพิ่มเสรีภาพทางการเงินของผู้หญิง รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้นักลงทุนหญิงผ่านกิจกรรมต่างๆ หมุนเวียนไปทุกเดือนพร้อมความรู้การลงทุนจากทีมนักวิเคราะห์และผู้บริหารลิเบอเรเตอร์
ในส่วนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมนั้น สิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ ความเป็นธรรมชาติ และระบบนิเวศในพื้นที่ที่อากาศร่มเย็นฯ เหล่านี้สามารถอนุมานได้ว่า ตัว E (Environment) ใน ESG เป็นดั่งตัวอักษรหลักที่สื่อสารให้ผู้คนตอบสนองการร่วมกันทำบางสื่อให้โลกนี้ยั่งยืนมากกว่าที่เคย
เพราะแบบนี้ LIB GO GREEN แคมเปญแรกในการร่วมพัฒนาความยั่งยืนให้กับโลกของลิเบอเรเตอร์ เลยใช้หัวใจของคำว่า เท่าเทียม ที่ปรากฏในกระบวนการส่งมอบคุณค่าไปยังนักลงทุนของลิเบอเรเตอร์ตลอดมา มาผลักดันเป็นการร่วมลงทุนให้กับโลก ผ่านการขยายตัว S และตัว G ให้เท่าเทียมกับการพัฒนาตัว E ไปพร้อม ๆ กัน
ในแคมเปญปีแรกแห่งการเรียนรู้ร่วมกันของทุกฝ่าย เราใช้ตัวเลขการปล่อยคาร์บอนฯ ในขอบเขตเวลา 12 เดือนจากการให้บริการลิเบอเรเตอร์ซึ่งส่วนมากมาจากการใช้งานไฟฟ้า (คลาวด์ ระบบบริการดิจิทัล) และการเดินทางของพนักงานเป็นหลัก ซึ่งเมื่อมีการคำนวณเปรียบเทียบสัดส่วนการชดเชยคาร์บอนฯ ที่สามารถเป็นไปได้ในปีแรก ลิเบอเรเตอร์สามารถคำนวณย้อนกลับมาเป็น Carbon Footprint และ Carbon Offset (การชดเชยคาร์บอนฯ) ได้ หากแต่เราไม่ได้ทำโดยการไปปลูกต้นไม้แล้วรอให้มันโตไปเรื่อย ๆ เราลองมาทำโดยการสนับสนุนการสร้างและใช้ประโยชน์จากป่า แบบพื้นที่วนเกษตร ที่มีความหลากหลาย มีการหมุนเวียนของนิเวศที่เหมาะสม มีวงจรการดูดซับคาร์บอนฯ ที่ดี เกิดประโยชน์ต่อระบบนิเวศแบบยกกำลัง 2 ผู้คนในชุมชนใช้ประโยชน์จากป่าได้ ลดการทำลายทรัพยากร และเป็นพื้นที่การพัฒนาที่มีอยู่เดิมโดยผู้คนที่ไม่มีวันทิ้งหรือละเลยพื้นที่ที่เป็นทรัพยากรของพวกเขา พูดง่าย ๆ คือลิเบอเรเตอร์ทำตัวเป็นส่วนเสริมพลังให้ “ตัว S Social หรือผู้คนและสังคม” มีแรงพัฒนาและดูแลรักษาตัว E ให้ยั่งยืนและวัดผลได้ อย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา และนั่นคือความเชื่อของเรา ว่ามันจะเป็นการเริ่มต้นที่แข็งแรงจากการมีหางเสือที่ถูกทางตั้งแต่ต้น
เราได้ทำการส่งเสริมและลงทุนในการพัฒนาพื้นที่วนเกษตรร่วมกับบ้านสวนออนซอน เป็นจำนวน 20 ไร่ และมีการลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งที่เราสามารถเลือกชดเชยคาร์บอนฯ กับแพลทฟอร์มซื้อขายคาร์บอนได้ แต่เราเลือกที่จะสนับสนุน บ้านสวนออนชอน เราเลือกที่จะเดินทางไปทำงานกับปราชญ์ชุมชนและนักพัฒนา ส่งพลังความแข็งแรง ส่งต่อกำลังใจให้กับคนที่ทำงานจริงในพื้นที่ พบปะผู้คนที่มีประสบการณ์และเรื่องราวการทำงานด้านนี้ ในพื้นที่บ้านนาอิสาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีชาวอีสานบางส่วนย้ายถิ่นฐานมาประกอบอาชีพการเกษตร ย้อนกลับไปหลายสิบปี และที่ชุมชนนี้เอง ที่มี “บ้านสวนออนซอน” ของพ่อเลี่ยม บุตรจันทา ปราชญ์ชุมชนที่มีชื่อเสียงในการส่งมอบองค์ความรู้และคุณค่าจากการพัฒนาที่เรียนรู้ลองผิดลองถูกมาอย่างโชกโชน มากเพียงพอที่จะต่อยอดเป็นพื้นที่การเรียนรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านเรื่องราวความยากจน การเงินครัวเรือน ความล้มเหลวของการเกษตรอุตสาหกรรม ไปจนถึงการลงทุนในต้นไม้และพื้นที่ป่า จนกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและคุณค่าต่อชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “วนเกษตร” (Agro-forestry) ที่เน้นการจัดการนิเวศเกษตรเลียนแบบระบบนิเวศธรรมชาติของป่าไม้ เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมการเกษตรกับป่าไม้อย่างสมดุลกัน
นอกจากนั้น ชุมชนบ้านนาอิสานเอง ก็ตั้งอยู่ติดกับแนวเขตของพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งเป็นผืนป่าสุดท้ายในการอนุรักษ์สัตว์ป่า เช่น ช้างป่า ของภาคตะวันออก อีกทั้งชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ ที่อยู่ติดกับพื้นที่แนวป่าอนุรักษ์ ก็ยังมีชื่อเสียงในการเป็นแหล่งซื้อขายพันธุ์ไม้ของประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากเหนือจากการสร้างพื้นที่ป่า เรายังมีตัว G Governance ที่จับคู่กับตัว S ได้ด้วย ซึ่งได้แก่ การใช้ประโยชน์จากป่า จากลดต้นทุนในเศรษฐกิจครัวเรือน การส่งเสริมและขยายผลเรื่องคนกับป่า การขยายผลเรื่องปัญหาพื้นที่ทำกินและเกษตรเชิงเดี่ยว ฯลฯ ที่เชื่อมโยงจากการมีคนที่มีองค์ความรู้และอยากสร้างต้นแบบการเปลี่ยนแปลงให้คนในชุมชนเกิดการปรับตัว
สุดท้ายของตัว G ที่จับคู่กับตัว S และ E ในมุมของลิเบอเรเตอร์เอง เราควรจะสามารถประเมินผลกระทบและการมีผลลัพธ์จากการลงทุนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นกิจลักษณะได้ด้วย เพื่อให้คำว่าการลงทุนที่เท่าเทียมกับโลก มันวัดผลและนำเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์ในการพัฒนาได้จริง ผ่านการทำ SRoI หรือ Social Return on Investment นั่นเอง
ในส่วนของความรู้ที่ให้กับนักลงทุนรายย่อย นอกจากตัวเลข ESG Rating ของบริษัทในตลาดแล้ว ทางนักวิเคราะห์ของลิเบอเรเตอร์ยังเพิ่มมุมมองเรื่อง ESG ต่อบริษัทในบทวิเคราะห์ด้วย เพราะเราไม่ได้ต้องการแค่บริษัทที่ดี แต่เราต้องการให้นักลงทุนเข้าใจว่าบริษัทที่ทำ ESG จะส่งผลดีต่อกำไรยั่งยืนอย่างไร (ESG Snapshot) เป้าหมาย ESG ที่สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน (ESG Commitment) เปรียบเทียบ Carbon footprint กับบริษัทในอุตสาหกรรม
(Climate Performance) กิจกรรม ESG ต่างๆ ในบริษัท (ESG Action) สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในเรื่อง ESG ต่ออุตสาหกรรมที่บริษัทนั้นดำเนินงานอยู่ (ESG Issue & Company) ซึ่งนักลงทุนสามารถติดตามได้ในบทวิเคราะห์พื้นฐานนี้
ตัวอย่างบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน BCP หน้า 4 เรื่อง ESG
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ต้องเรียนรู้กันอีกยาวไกล และทุกคนที่ลิเบอเรเตอร์เชื่อในการลงทุนที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ดีนักลงทุนทุกคนฉันใด การลุกขึ้นมาทำแคมเปญการลงทุนที่เท่าเทียมกับโลก ก็ควรจะสร้างคุณค่ากับให้พื้นที่ ทำ ESG ให้สมดุล เท่าเทียม เป็นธรรม และสามารถนำเสนอผลลัพธ์จากการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือดาวเหนือแห่งการเดินทางของพวกทุก ๆ คน มาร่วมเดินทางไปด้วยกันกับลิเบอเรเตอร์และ LIBFAM
บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ได้เครื่องหมายรับรองการแสดงคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรจากองค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน)