มาเก๊า เเม้จะเป็นส่วนนึงของประเทศจีน เเต่ก็มีการดำเนินงานภายใต้โครงสร้างทางกฎหมายที่แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่เช่นเดียวกับฮ่องกง

.

เเต่รู้ใหมคะว่ามาเก๊าเป็นสถานที่แห่งเดียวในจีนที่อนุญาตให้มีเล่นการพนันได้เเบบถูกกฎหมายจนได้รับการขนานนามว่าเป็น Las Vegas เเห่งเอเชียเลยทีเดียว

.

ตามรายงานของ Wall Street Journal โดยก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด อุตสาหกรรมการพนันคิดเป็นมากกว่าครึ่งของ GDP ของเมืองมาเก๊า ลองคิดดูสิคะถึงเเม้ว่ามาเก๊าจะมีประชากรเพียงเเค่ 600,000 คน เเต่กว่า 17% ของประชากรทั้งหมด ก็ทำงานในคาสิโน

.

โดยรายได้จากธุรกิจคาสิโนในมาเก๊ายังคงขยายตัวที่ $28 พันล้านดอลลาร์ใน 1Q24 เเละคาดว่าจะโตต่อเนื่องสู่ $3 หมื่นล้าน ทำให้มาเก๊ากลายเป็นสวรรค์เเห่งใหม่ให้นักพนันพักผ่อนหย่อนใจ เล่นการพนัน ช็อปปิ้ง และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ

.

เราจะเห็นเทรนด์ว่ามีหลายธุรกิจคาสิโนในสหรัฐมีการเริ่มย้ายมามาเก๊า

อย่าง Las Vegas Sands Corp ($LVS) ที่ก่อตั้งโดย Sheldon Adelson ก็มีการมุ่งเน้นไปกับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ผ่านการลงทุนจำนวนมากในมาเก๊าค่ะ โดยเครือนี้เป็นเจ้าของรีสอร์ทหลายเเห่งที่คนไทยก็นิยมไปเที่ยวกัน ไม่ว่าจะเป็น The Venetian และ The Londoner รวมไปถึงยังมีโรงเเรมที่เป็น landmark สำคัญที่ทุกคนที่ไปเที่ยวสิงคโปร์ห้ามพลาดเช่น Marina Bay Sands

.

โดย Sands เองก็สัญญาว่าจะเพิ่มการลงทุน $3.8 พันล้านในมาเก๊า โดยมากกว่า 90%จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นอกเหนือจากคาสิโน สอดคล้องกับกฎหมายของรัฐบาลมาเก๊าที่ผู้ให้บริการคาสิโนจะต้องเสนอบริการอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับชุมชนเเละรู้อีกหรือไม่ว่า ถึงเเม้ว่าบริษัท Sands จะมีคำว่า “Las Vegas” อยู่ในชื่อเเต่ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินใน Las Vegas Strip อีกต่อไป หลังจากที่ขาย Venetian Casino ในลาสเวกัสให้กับ VICI Properties และ Apollo Global Management ในปี 2022

.

ไม่นานมานี้ Sands มีการเปิดเผยผลประกอบการ 1Q24 บริษัทมีรายได้ $2.96 พันล้าน โต 39.58% y-y ในขณะที่ EPS หรือกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.78 มากกว่าคาดที่ $0.61 เซนต์ ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ Marina Bay Sands สิงคโปร์มี EBITDA สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $597 ล้านอีกด้วยคะ

.

ไม่ใช่เเค่ Sands นะคะ เเต่คาสิโนอื่นๆในมาเก๊า ก็เริ่มมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่าง MGM Resorts International ($MGM) ก็รายงานผลประกอบการ 1Q24 ว่ามีรายได้มาจากธุรกิจมนมาเก๊าเช่น MGM Macau เเละ MGM Cotai ที่ $1.2 พันล้าน เพิ่มขึ้น 200%y-y เเละ SJM Holdings ($SJMHY) ซึ่งบริหาร Grand Lisboa Palace Resort The Karl Lagerfeld Macau เเละ Palazzo Versace Macau ก็รายงานว่ารายรับเพิ่มขึ้น 127% y-y

.

โดยเรามองว่าเหล่านี้มาจาก การยกเลิกการควบคุมเรื่องการโควิดในมาเก๊า ที่เกิดขึ้นช้ากว่าสหรัฐ ยุโรป รวมไปถึงประเทศอื่นๆในเอเชีย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาเล่นการพนันได้ ส่วนการเดินทางโดยปลอดการกักกันข้ามชายแดนทางบกผ่านรถบัส เเละรถยนต์ส่วนตัว จากฮ่องกงไปเมาเก๊า เเละ จีนแผ่นดินใหญ่ไปมาเก๊า ที่เพิ่งกลับมาเปิดในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2022 เเละเริ่มมีรอบรถ เเละบริการที่อำนวยความสะดวก มากขึ้นในช่วงหลังของปี 2023

.

ด้วยปัจจัยที่ได้เล่าให้ฟังข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น

-การฟื้นตัวหลังการยกเลิกการควบคุมโควิด

-การลงทุนเพิ่มเติมจากบริษัทคาสิโนต่างชาติ

-การส่งเสริมจากภาครัฐให้ขยายบริการที่นอกเหนือจากคาสิโน

-ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจคาสิโนที่เข้าไปลงทุนในมาเก๊า

-แนวโน้มการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

.

จึงพอกล่าวโดยสรุปได้ว่า การลงทุนในหุ้นคาสิโนในมาเก๊า มีแนวโน้มที่ดีและน่าจับตามองพัฒนาการเหล่านี้ต่อไป