Sea Holdings $SE - การกลับมาอีกครั้ง ราคาหุ้น +104.99% ในปีนี้
บทความ ณ วันที่ 21 ส.ค.67

ปี 2024 นี้ดูเหมือนจะเป็นปีที่สดใสของหุ้น Sea Limited บริษัท World Internet Company ยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ผู้เป็นเจ้าของแอปพลิเคชัน Shopee และ ค่ายเกมมือถือดังอย่าง Garena ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจ Fintech อย่าง SeaMoney ที่ให้บริการทางด้านการเงินเช่นสินเชื่อ SPayLater ซื้อก่อนจ่ายทีหลังที่หลายคนคุ้นเคยกันดี
.
ในด้านผลตอบแทนจากราคาหุ้น NYSE:SE (ADR) ในปี 2024 ดูเหมือนจะฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจ การันตีโดยกองทุน Hedge Fund มากกว่า 60 แห่ง (อาทิ Aspex’s, Eminence Capital, Lakehouse Capital และกองทุนอื่นๆ) ที่เข้าไปลงทุนและออกบทวิเคราะห์ยกให้เป็นหนึ่งในหุ้นน่าซื้อในปี 2024 นี้ สืบเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานชี้ให้เห็นว่าราคาหุ้นมาถึงจุดที่ “ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน” หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า “หุ้นราคาถูกเกินไป” เมื่อเทียบกับศักยภาพและสินทรัพย์ของบริษัทเอง หลังจากการที่บริษัทพบเจอกับวิกฤตและการแข่งขันมากมายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นตกลงจนถึงขีดสุดในปลายปี 2023
.
👉 เกิดอะไรขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
.
ต้องเท้าความกันก่อนว่าบริษัท Sea Limited ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมากในช่วงปี 2020 ถึง 2021 อันเป็นผลมาจากการระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วโลกไม่สามารถเดินทางออกนอกบ้านได้ ธุรกิจออนไลน์ต่างๆจึงได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ E-Commerce อย่าง Shopee ที่สามารถครองมูลค่า GMV (Gross Merchandise Value) ได้สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค South East Asia และธุรกิจ Entertainment ในเกมมือถือยอดนิยมจากค่าย Garena อย่าง Free Fire ก็มียอดดาวน์โหลดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นติดจรวดไปถึง $370 เลยทีเดียว
.
แต่ทว่าเมื่อมาดูงบการเงินที่มีการประกาศออกมากลับไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้ หลังจากรับรู้ผลขาดทุนครึ่งปีหลังของ 2021 ราคาหุ้นก็ถล่มลงมาอย่างหนัก ซึ่งในปีเดียวกันนี้เองที่บริษัทรายงานผลขาดทุนสูงถึงกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สวนทางกับรายได้ที่แม้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในฝั่งของต้นทุนและค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด (SG&A) ก็พุ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน นอกจากนี้สถานการณ์อื่นๆในตลาดของคู่แข่งเช่น Lazada และ Tiktok ก็ทำให้ภาคธุรกิจ E-Commerce ต้องทุ่มทุนแย่งลูกค้าบวกกับยอดการใช้จ่ายสำหรับเกมออนไลน์ที่ลดลงหลังจากสิ้นสุดสถานการณ์ Covid-19 ก็ทำให้ธุรกิจเกมออนไลน์มีรายได้ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากตัวเลข QPU (Quarterly Paying Users) ที่ลดลงในช่วงกลางปี 2022 และฟางเส้นสุดท้ายคือการประกาศแบนเกม Free Fire ในประเทศอินเดีย ส่งผลให้ยอดผู้เล่น QAU (Quarterly Active Users) ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีเดียวกัน
.
👉 จุดสำคัญที่ทำให้งบปี 2023 บริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้
.
เป็นผลมาจากการที่ทั้ง 3 ธุรกิจสามารถสร้างกำไร และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าว่าจะสามารถแสดงตัวเลขกำไรได้เพียง 2 ไตรมาสแรกของปี แต่ก็ยังสอดคล้องกับแนวทางกลยุทธ์ของบริษัทซึ่งประกาศที่จะพึ่งพาตนเอง (Self-sufficiency) โดยตัวเลขกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินไม่ว่าจะเป็นการก่อหนี้หรือเพิ่มทุนลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2022 และการประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มยอดใช้จ่ายรวมถึงผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม Shopee ในช่วง Shopping Seasons เพื่อเพิ่ม Market Share พร้อมสร้างความแข็งแกร่งในฝั่งของคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือกิจกรรมต่างๆภายในแพลตฟอร์ม (Content Ecosystem) ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดสูงขึ้นอย่างมีนัย
.
👉 ปัจจัยที่ส่งผลให้หุ้น (ADR) $SE น่าสนใจ👋
.
➤ การเติบโตของ Mobile Gaming Consumer Spend กลับมาเพิ่มสูงขึ้นในปี 2024 และมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
➤ GMV ของ อุตสาหกรรมภาค E-Commerce ในประเทศกลุ่ม SEA ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 16% (YoY) และมีมูลค่ากว่า 139 พันล้านเหรียญในปี 2023 (คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 186 พันล้านเหรียญในปี 2025)
➤ การเติบโตของ Fintech ในภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ SeaMoney ทั้งในส่วนของ Digital payment, Digital Lending และ Digital Insurance
➤ กำแพงของตลาด E-Commerce ที่สูงส่งผลให้การเข้ามาของคู่แข่งเป็นเรื่องที่ยากมากเห็นได้จากข่าวการปิดตัวของ JD Central ในปีที่ผ่านมา
➤ การกลับมาของผู้เล่น (Active User) Free Fire ที่สูงขึ้นแตะระดับ 100 ล้านคนต่อวัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ยอดเงินกู้สำหรับการบริโภคและภาค SME เพิ่มสูงขึ้น (Consumer and SME loans principal) กว่า 27% (YoY) เป็นผลดีต่อธุรกิจภาคการเงินอย่าง SeaMoney
➤แบรนด์ที่ติดตลาดและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในภูมิภาค SEA รวมถึงในไต้หวันและประเทศบราซิล
.
👉 ปัจจัยที่น่าจับตามอง👋
.
➤ การจับมือกันระหว่าง TikTok และ GoTo (เจ้าของ Gojek แพลตฟอร์มบริการเรียกรถโดยสารและ Tokopedia แพลตฟอร์ม E-Commerce เจ้าใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย) หลังจากรัฐบาลอินโดนีเซียออกมาตรการห้ามธุรกรรม E-Commerce บนแพลตฟอร์ม Social Media
➤ การมาของแพลตฟอร์ม E-Commerce เจ้าใหญ่จากจีนอย่าง TEMU
.
👉สำหรับหุ้นและ ADR ของบริษัทคู่แข่ง $SE ที่น่าสนใจได้แก่👋
.
➤ Alibaba (NYSE:BABA) - ADR : บริษัทเจ้าของ E-Commerce แพลตฟอร์มมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Taobao, Tmall, AliExpress และ Lazada
➤ Amazon (NYSE:AMZN) - Common Stock : บริษัท E-Commerce ชั้นนำระดับโลก มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย พร้อมบริการขนส่งที่รวดเร็ว
➤ JD.com (NASDAQ:JD) - ADR : บริษัท E-Commerce เจ้าใหญ่ซึ่งครองตลาดในประเทศจีน โดยเฉพาะสินค้าทั่วไปและเครื่องใช้ไฟฟ้า
➤ PayPal (NASDAQ:PYPL) - Common Stock : บริษัท Digital Financial Service ระดับโลกซึ่งให้บริการธุรกรรมทางการเงินออนไลน์
.
ในตอนต่อไป เราจะพาคุณไปสำรวจหุ้นระดับโลก พร้อมเจาะลึกถึงปัจจัยที่ทำให้หุ้นเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตสูงบริษัทอะไร อย่าลืมติดตามเพื่อไม่พลาดข้อมูลสำคัญสำหรับการลงทุนน้า
#Liberator เทรดฟรีไม่มีค่าคอมฯ ทุกวันที่ 21