LIB VISIT#9: PCC

ขอบคุณทาง บริษัท บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่เปิดบ้านต้อนรับลูกค้า และ ทีมงาน Liberator อย่างอบอุ่น
ในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา

รอบนี้พวกเราทีมงาน Liberator และ เพื่อนๆสมาชิกครอบครัว Liberator อีก 20 ท่าน 
ได้มาที่โรงงาน จ.ปทุมธานี โดยได้เยี่ยมชม 2 สายการผลิต คือ 
หม้อแปลงไฟฟ้า สัดส่วนรายได้ราว 10%+ และ สวิทช์เกียร์ สัดส่วนราว 10%+ 

ประเด็นสำคัญที่พูดคุยกันวันนี้
คือ การเรียนรู้เทคโนโลยี Smart grid
ซึ่งเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าของไทยในยุคถัดไป
โดยเราสรุปประเด็นพูดคุย และความรู้ที่น่าสนใจ ไว้ให้ทุกคนเรียบร้อย
มาศึกษาธุรกิจนี้กันเถอะ ลุยยยยย !!

สรุป LIB Visit ครั้งนี้ แบบละเอียดยิบ
เพื่อนๆที่ไม่ได้เดินทางไปกับพวกเราวันนี้ อ่านสรุปนี้ก็เหมือนกับได้ไปด้วยกันเลยหละ !!

·   รู้จักกับธุรกิจของ PCC
PCC เป็น Holdings company ซึ่งถือหุ้นใน 3 กลุ่มธุรกิจ ใน 5 ฐานการผลิตในไทย, สปป.ลาว 1 และ กัมพูชา 1 ดังนี้ 
[1] ธุรกิจ Smart Grid Digitalization ซึ่งมี 3 ธุรกิจไฟฟ้าย่อย
   1.1 Power Distribution ซึ่งจะมีงาน ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าแรงสูง และสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
   1.2 Intelligent Grid เช่น ระบบ SCADA
   1.3 พลังงานทดแทน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก
[2] Bamboo-Based Innovation ตอนนี้อยู่ระหว่างวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากต้นไผ่เพื่อธุรกิจด้านพลังงาน 
[3] Digitalization Automation & ESG Solution การพัฒนาระบบอัตโนมัติด้านพลังงาน

ในปี 2024 รายได้หลัก 90%+ มาจาก Smart Grid เป็นหลัก
โดย Intelligent Grid มีสัดส่วน 54%
รองมาเป็น Power Distribution ราว 33.4% และ
พลังงานทางเลือก(1.3) 7% จาก 2 โรงไฟฟ้าไบโอแมสที่ภาคใต้

ในปี 2024 มีรายได้รวม 2.6 พัน ลบ. กำไรสุทธิ 381 ลบ. +9.2% y-y
บริษัทจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง โดยงวด 2H24 จะขึ้น XD 0.14 วันที่ 7 พ.ค.
(รวม 2 งวด ปันผลรวมที่ 0.21 บาท คิดเป็น Dividend yield 8.1%)

 
วิวัฒนาการด้านพลังงานในไทย
การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของไทย จะมี 3 ยุค

o ยุคที่ 1 เป็นเรื่องของการมีพลังงานที่เพียงพอมั่นคง 
ยุคนี้จะเป็นยุคที่รัฐบาลพยายามสร้างโรงไฟฟ้าให้ทันกับการเติบโตของประชากร และเศรษฐกิจ ซึ่งไทยผ่านยุคนี้มาแล้ว 

o ยุคที่ 2 เป็นยุคที่รัฐเริ่มเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน 
มีกระตุ้นการแข่งขันกัน และมุ่งเน้นด้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน ซึ่งไทยก็ผ่านยุคนี้มาแล้ว
เห็นได้จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มากเพียงพอในปัจจุบัน ถึงขนาดที่มีโรงไฟฟ้าบางแห่งที่ไม่ได้จ่ายไฟฟ้า แต่รัฐยังคงต้องจ่ายค่าพร้อมจ่ายไฟให้

o ยุคที่ 3 เป็นยุคที่จะเน้นความคุ้มค่าด้านพลังงาน ประสิทธิภาพ และ ความรวดเร็ว 
ซึ่งประเทศไทยกำลังเข้ายุคนี้ ซึ่งจะสำเร็จได้ ต้องมี 4D1E
Digitalization, Decentralization, Decarbonization, De-regulation และ Electrification
ซึ่งการจะสำเร็จได้ต้องใช้เทคโนโลยี Smart Grid เป็นตัวช่วยที่สำคัญ

 Smart Grid คืออะไร?
คือ การทำให้หน่วยของ Supply Chain ไฟฟ้าต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
แล้วใช้ data ในการประมวลผลเพื่อทำให้ทั้งระบบสามารถตอบสนองการทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่งจะทำให้ ระบบไฟฟ้าจะมีความเสถียรมากขึ้น, ใช้ทรัพยากรน้อยลง, มีประสิทธิภาพ, มีความน่าเชื่อถือ, ปลอดภัย และ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ภาพด้านบนนี้ แสดงให้เห็นถึงหน่วยต่างๆบนห่วงโซ่อุปทานไฟฟ้า
ซึ่งจะมีตั้งแต่โรงไฟฟ้าถ่านหิน, โรงไฟฟ้าพลังานาทางเลือกแบบต่างๆ, ระบบสายส่ง, สถานีไฟฟ้าย่อย, บ้านเรือน, รถ EV และ ระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า(Energy storage) เป็นต้น 

ทั้งหมดจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันระบบสายส่งทั่วไป
เพียงแต่ว่าแต่ละหน่วย ก็จะมี character ที่แตกต่างกัน(ในหน่วยผลิต)
เช่น ความเสถียร, ความสม่ำเสมอของหน่วยผลิตไฟฟ้า ขณะที่หน่วยการใช้ไฟฟ้า ก็มีพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ใช้กลางวัน ใช้กลางคืน
ซึ่งความแตกต่างกันเหล่านี้ จะสามารถถูกเกลี่ย/เพิ่ม/ลดให้/ปรับปรุงให้สม่ำเสมอได้ด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะต่างๆ
เช่น มิเตอร์แบบดิจิตอล, ระบบ SCADA, ระบบจัดการในสถานีไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อให้โครงข่ายไฟฟ้าทำได้งานเต็มประสิทธิภาพอย่างคุ้มค่าที่สุด
ซึ่งการไฟฟ้าอยู่ระหว่างพัฒนายกระดับด้านนี้อยู่ จากปัจจุบันซึ่งมีโรงไฟฟ้ากว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

 
แผนแม่บทฯ Smart Grid ของไทย ตอนนี้อยู่ในจุดใด !?

ตอนนี้อยู่ในระยะที่ 3 (ปานกลาง พ.ศ. 2565-2574)
คือ การยกเครื่องเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าดั้งเดิมต่างๆ, แก้ไขกฏระเบียบ, ลงทุนเพื่อเปลี่ยนถ่ายโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมๆ
ไปสู่ระบบโครงข่ายยุคใหม่ (Smart grid) ซึ่ง ผบห.มองว่าจะมีงบประมาณด้านนี้ราว 3-5 หมื่น ล้านบาท/ ปี

โดยผู้เล่นในตลาดนั้น มีทั้งผู้เล่นจากฝั่งตะวันตก และ ผู้เล่นไทย
ซึ่ง PCC เป็นผู้เล่นไทยที่ทำงานกับการไฟฟ้าฯ มายาวนานกว่า 40 ปี
ทำให้ได้รับการเชื่อถือจากการไฟฟ้าฯ เพราะยังคงสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องกว่าผู้เล่นต่างชาติ

ขณะที่ PCC ก็มีการพัฒนการ วิจัยผลิตภัณฑ์ของตนเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้สามารถเข้าไปแข่งขันกับต่างชาติได้
โดย ผบห. มองว่าอัตราชนะงาน (Win rate) ในการประมูลโครงการต่างๆจะอยู่ที่ 30-50%

จุดสังเกตุหนึ่งจะพบว่า งบลงทุนด้านโรงไฟฟ้า, สถานีไฟฟ้า เริ่มเบาลงไปเรื่อยๆ จาก coverage ระบบไฟฟ้าทั่วไทยกว่า 99.98% แล้ว
แต่เราจะได้ยินถึงการติดตั้งระบบ Smart grid เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในตลาด

ปันผลสูง 8% มีโอกาส ทำได้ต่อเนื่องยาวๆหรือไม่?

ผบห.เผยว่า PCC ลงทุนอย่างระมัดระวัง ขณะที่แผน Smart Grid ของการไฟฟ้าฯ เป็นแผนระยะยาว
ซึ่ง PCC เป็นผู้เล่นที่มีโครงสร้างรายได้แบบ ซึ่งเป็นแบบ recurring กว่า 50% ของรายได้รวม
(recurring หมายถึง งานบำรุงรักษา, งานขายสินค้าทดแทนเปลี่ยนถ่ายในระบบต่อเนื่อง เพราะอุปรณ์ไฟฟ้ามีอายุ 7-20 ปี จึงจะมีรอบให้เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา)
ส่วนที่เหลือเป็นงานโครงการที่มีการประมูลสม่ำเสมอ 

ผบห.มีความตั้งใจจะจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ
ปี 2022 = 0.14 บาท
ปี 2023 = 0.20 บาท
ปี 2024 = 0.21 บาท

ส่วนฤดูกาลของรายได้ มักจะเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากพอร์ตหลักของราชการ(การไฟฟ้าฯ)มักจะมีสัดส่วนราว 60%+ ของพอร์ตรวม
โดย ณ สิ้นปี 2024 มี Backlog 2.8 พัน ลบ. คาดรับรู้ปีนี้ราว 2.3 พัน ลบ. และจะมีงานประมูลงาน Smart Grid เรื่อยๆ

มีการปล่อยกู้ให้บริษัทย่อย, อัตราแลกเปลี่ยน และ อัพไซด์

เนื่องจากกระแสเงินสดคงเหลือ ทั้งการจากการดำเนินงาน และ IPO
ผบห.มองว่าการปล่อยกู้ให้บริษัทย่อยในการดำเนินธุรกิจจะช่วยประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายในภาพรวมได้
ขณะที่ PCC จะชอบค่าเงินบาที่แข็งค่า เพราะจะทำให้นำเข้าวัตถุดิบ เช่น ทองแดง เหล็ก ในราคาที่ถูกลงอีกด้วย 

ในส่วนของพัฒนาการที่น่าสนใจอีกอย่างในอนาคต คือ การเข้าไปทำงานในกัมพูชา
ซึ่งกำลังมีความต้องการพัฒนาด้านโครงสร้างไฟฟ้าอย่างมาก
การเข้าไปเป็นคู่ค้ากับทางการ จะทำให้เป็นการสร้างโอกาสในระยะยาวที่น่าสนใจ

มุมมองนักวิเคราะห์ Liberator
มีมุมมอง “บวก” กับการเยี่ยมชมกิจการครั้งนี้
เราได้เรียนรู้ว่า Smart Grid ของไทย ยังมี runway อีก 5-10 ปี ทำให้เชื่อได้ว่า PCC จะมีงานกับการไฟฟ้าฯไปอีกนาน ซึ่งแม้ว่าในเชิงราคาหุ้น PCC อาจไม่หวือหวา แต่ปันผลระดับ 8% ต่อปี บนธุรกิจที่สม่ำเสมอ มีจุดแข็งจากประสบการณ์กว่า 40 ปี win rate ที่สูง ผนวกกับการซื้อขายที่ Trailing P/E เพียง 8.8 เท่า มี CG Report 5 ดาว ESG rating A เรามองว่า PCC เป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนสายปันผลระยะยาว