เรียนรู้ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ กับ SISB
SISB ก่อตั้ง - ขยายตัว - เป้าหมาย
[ 1 ]
SISB เปิดการสอนมา 24 ปี มีส่วนแบ่งการตลาดโรงเรียนนานาชาติเป็นอันดับ 1 ของไทย
โดยปัจจุบันมีนักเรียนชาวไทยสัดส่วน 71% จีน 22% และชาติอื่นๆอีก 7%
มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 4,600 คน จากเริ่มต้นที่ 35 คนเมื่อ 24 ปีก่อน
SISB ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักเรียนขึ้นเป็น 5,600 คนภายในปี 2026
เป็น โรงเรียนนานาชาติที่เน้นวัฒนธรรมฝั่งเอเชีย ไม่ได้เป็นสไตล์ตะวันตก 100%
โดยจะสอนหลักสูตรสิงคโปร์ โดยกำหนดให้นักเรียนทุกคนเรียนภาษาจีน นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรจากอังกฤษ และหลักสูตร IB
[ 2 ]
ปัจจุบัน SISB มีทั้งหมด 6 โรงเรียน (แคมปัส) ประกอบด้วย
สาขาประชาอุทิศ, สุวรรณภูมิ, พุทธมณฑลสาย 1, เชียงใหม่, นนทบุรี และระยอง
มีอัตราการ Operated% ในภาพรวมค่อนข้างสูง 79.9% ซึ่งยังสามารถรับนักเรียนเพิ่มได้ เพราะที่ผ่านมาเป็นการขยายเป็นเฟสๆไป
ดังนั้นจึงไม่ได้จำกัดว่าความจุสูงสุด (max capacity) จะอยู่ที่ 7 พันคนที่แสดงในปัจจุบันนะ แต่ละโรงเรียนยังขยายได้อีก
[ 3 ]
โดยในเดือน ส.ค. 2026 SISB จะเปิดแคมปัสที่ 7 ณ รังสิต
โดยมีแผนการเก็บค่าเล่าเรียนที่ถูกลง แต่ก็จะพยายามปรับต้นทุนให้ต่ำลงด้วย เพื่อรักษาอัตรากำไรสุทธิ(NPM) เอาไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 30% เท่าๆกับแคมปัสอื่นๆในปัจจุบัน
อุตสาหกรรม โรงเรียนนานาชาติ
[ 4 ]
ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติในไทยมีนักเรียนรวม 77,000 คน
จากจำนวนนักเรียนทั้งประเทศ 11 ล้านคน
มีโรงเรียนนานาชาติทั้งหมด 250 โรงเรียน
แต่โรงเรียนขนาดใหญ่ (K-12) มีเพียง 19 แห่ง
ทำให้คู่แข่งรายใหม่เข้ามาแข่งขันยาก เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูง อีกทั้งยังต้องใช้เวลาสร้างชื่อเสียง
ตลาดโรงเรียนนานาชาติไม่สามารถทำการตลาดแบบ Hard Sell ได้
ธุรกิจนี้มีการขยายตัวเป็นแบบแนะนำ “ปากต่อปาก”
ดังนั้น ยิ่งโรงเรียนมีอายุยาวนาน รักษาคุณภาพที่ดีได้
จะเป็นเกราะกำบังที่ดีในระยะยาว
SISB กับภารกิจการจัดการมาตรฐานระดับสูง
[ 5 ]
SISB มีนโยบายควบคุมคุณภาพโรงเรียนแบบจริงจัง
โดยมีการปฏิเสธการสมัครของนักเรียนที่คุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ โดยไม่สนใจว่าสัดส่วนนักเรียนแต่ละสัญชาติจะเป็นเท่าใด
แต่ยอมรับว่านักเรียนจีนมีสัดส่วนเยอะ 22% เนื่องจากนโยบายที่จีนพยายามผลักดันให้เด็ก 50% ไปเรียนสายอาชีวะมากขึ้น และไม่ค่อยสนับสนุนให้เรียนภาษาอังกฤษ
ทำให้ผู้ปกครองเลือกที่จะส่งลูกออกไปเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพสูงในต่างประเทศจำนวนมาก
โดยจุดหมายแรก คือ สิงคโปร์ ... รองมาเป็น ไทย
[ 6 ]
ในระดับ ม.ปลาย การเรียนการสอนโดยเฉลี่ยมีสัดส่วนครู 1 คนต่อนักเรียน 8 คน
มีนักเรียนเริ่มเข้ามาเรียนตั้งแต่อายุ 2 ปีไปจนถึง 16 ปี
ซึ่งบางคนอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ SISB มี Recurring income ต่อเนื่อง
[ 7 ]
การผ่านจุดคุ้มทุน ดูง่ายๆได้ว่า หากมีนักเรียน 200 คน ก็จะเริ่มมีกำไรได้แล้ว
อย่างเช่น แคมปัสที่ระยอง อัตรา Utilization 49.4% ก็ทำให้ตอนนี้ EBITDA เป็นบวกได้แล้ว
หรือ อาจมองง่ายๆได้ว่าถ้า Student to Teacher ratio ที่ 6 : 1 ก็จะอนุมานได้ว่ามีกำไรแล้ว
[ 8 ]
ผู้บริหารเอง มองประเด็นอัตราการเกิดต่ำเป็นผลบวกต่อ SISB
เนื่องจากการมีจำนวนลูกน้อยลงจะส่งผลให้ผู้ปกครองมีกำลังทรัพย์ในการส่งลูกแต่ละคนเรียนได้มากขึ้น และจะเลือกคุณภาพเป็นสำคัญ
แต่ปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงหลัก คือ เรื่องหนี้ครัวเรือนที่ส่งผลลดกำลังซื้อของแต่ละบ้านลง
ซึ่งนักเรียนไทยมีสัดส่วนเยอะสุด 70% ทำให้อาจเผชิญความเสี่ยงนี้บ้าง แต่เท่าที่เจอมีเคสแบบนี้น้อยมากๆ จึงไม่ค่อยกังวล
มุมมองของทีม Liberator Research
[ 9 ]
✓ โค้ชบาส มองว่าเป็นช่วงพักตัว
เป็นจุดทยอยสะสมได้ที่ระดับ 30 บาท/ หุ้น ราคาหุ้นห้ามหลุด 27 บาท/ หุ้น
✓ อ.เพชร มองว่าตลาดกำลังจับตาเรื่องการเปิดแคมปัสที่ 7 ว่าจะเป็นตัวฉุดอัตรากำไรในภาพรวมหรือไม่
ซึ่งหากทำได้ดีและไม่ฉุด ก็เชื่อว่าตลาดน่าจะกลับมากล้าให้ valuation ที่สูงกว่าในปัจจุบัน
✓ น้าแดง มองว่าด้วยจำนวนนักเรียนที่เพิ่มเรื่อยๆ economies of scale ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กำไรที่ทำ all time high เรื่อยๆ ก็เชื่อว่า downside ด้านราคาหุ้นน่าจะจำกัดแล้ว น่าติดตามนะ
อ่านมาถึงตรงนี้ หากเพื่อนๆอยากจะจับประเด็นแบบลงดีเทลตัวเลขเพิ่มเติม
รวมถึงฟังบรรยากาศและความมั่นใจของผู้บริหาร SISB เอง
แอดมินชวนให้เปิดรับชม Live การสัมภาษณ์พูดคุยกันสดๆ ได้เลย
สามารถรับชมได้ โดยคลิกที่รูปภาพด้านล่างนี้ได้เลย
เพื่อนๆสามารถรับชม LIB Insight สัมภาษณ์ผู้บริหาร อีกหลากหลายบริษัท
ในแบบเจาะลึกกับทีมนักวิเคราะห์ Liberator ได้เพิ่มเติม โดยคลิกที่รูปภาพ List นี้ได้เลย