ขั้นตอนการเปิดบัญชีบน Liberator จะประกอบไปด้วย 7 ขั้นตอนหลักๆ
ได้แก่ 
1. ดาวน์โหลดแอปฯ Liberator 
2. กรอกข้อมูลบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และ อีเมล์
3. ยืนยันตัวตนผ่านระบบ NDID 
4. กรอกข้อมูลส่วนตัว
5. ประเมินความเสี่ยงที่รับได้
6. ยืนยันตัวตน KYC
7. อัปโหลดหน้าสมุดธนาคาร


เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนเปิดบัญชี

ลูกค้าสามารถเตรียมเอกสารดังกล่าวนี้ไว้ก่อนล่วงหน้า ในโทรศัพท์มือถือของท่าน
เพื่อความสะดวกในการเปิดบัญชี

 

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอป Liberator

1.1 เริ่มต้นการเปิดบัญชีกับ Liberator ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลด Liberator Application 
ท่านสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ อัปโหลดเอกสารต่างๆ และรออนุมัติผลการเปิดบัญชีได้ อยู่ที่บ้านก็เปิดเองได้

1.2 เปิดหน้าแอปขึ้นมาแล้ว ให้เลือกคำว่า เปิดบัญชี

 

ขั้นตอนที่ 2: กรอกข้อมูลบัตรประชาชน อีเมล และเบอร์โทรศัพท์


2.1 กรอก เลขประจำตัวประชาชน และ PIN CODE

หากท่านเคยเปิดบัญชีมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ การกรอกเลขประจำตัวประชาชน และ PIN Code ที่ตั้งเอาไว้ ระบบจะพาไปสู่ขั้นตอนที่เราดำเนินการค้างอยู่

2.2 ยืนยันอีเมล์และเบอร์โทรศัพท์มือถือ ด้วย OTP

2.2.1 กรอกเบอร์โทรศัพท์ของท่าน นำรหัส OTP ที่ได้รับทางโทรศัพท์ มากรอกตามช่อง และกดยืนยัน
2.2.2 กรอกอีเมล์ของท่าน นำรหัส OTP ที่ได้รับทางอีเมล์ มากรอกตามช่อง และกดยืนยัน

*หากพบว่าไม่ได้รับ OTP อาจจะเป็นเพราะว่ากรอกเบอร์โทรศัพท์ หรือ อีเมล์ ผิดพลาด ให้ท่านตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง

 

ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันตัวตนผ่าน NDID

NDID คือ การยืนยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์ โดยจะใช้ 2 ข้อมูลหลักประกอบกัน คือ รูปบัตรประชาชน และ รูปถ่าย
เราสามารถยืนยันตัวตนได้ 3 ช่องทาง โดยให้เราเลือกในช่องทางที่สะดวกกับเราที่สุด

(1) ยืนยันผ่านระบบ NDID ของธนาคาร
(2) ยืนยันที่ 7-11
(3) ยืนยันด้วยตัวเองที่สำนักงานใหญ่ Liberator

ปัจจุบันนี้ ทาง Liberator สนับสนุนค่าเปิดบัญชีให้กับทางลูกค้า ดังนั้นแล้วลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าบริการ NDID 200 บาทค่ะ

3.1 เลือกวิธียืนยันตัวตน

3.2-A การยืนยันตัวตนผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ 7-11

1. เตรียมบัตรประชาชน (ใบจริง) พร้อมกับ QR Code ที่ได้รับมานี้ และเดินทางไปที่ร้าน 7-11
2. แจ้งทำรายการกับทางพนักงาน 7-11

หรือ

3.2-B การยืนยันตัวตนผ่านระบบ NDID ของธนาคาร

  1. อ่านเงื่อนไขและกดยอมรับการใช้บริการ NDID
  2. เลือกธนาคารที่ท่านได้เคยลงทะเบียนไว้
  3. 2. จากนั้น ให้ไปที่แอปฯ ของธนาคารนั้นๆ เพื่อทำการยืนยันตัวตนตามกระบวนการ 

หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จ จะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป 

ขั้นตอนที่ 4: กรอกข้อมูลส่วนตัว

4.1 กรอกข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน 

4.2 เลือกประเภทบัญชีลงทุนหุ้นที่ต้องการเปิด

- บัญชี Pre-paid (Cash Balance) เหมาะกับมือใหม่ ฝากเงินเท่าไหร่ ลงทุนได้เท่านั้น
- บัญชี Cash Account เหมาะกับนักเก็งกำไรที่เทรดทำกำไรจบในวัน เปิดโอกาสให้หมุนเงินลงทุนได้เป็นระยะเวลา T+2 วัน
- บัญชี Derivative เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ เปิดให้เราเก็งกำไรทั้งขาขึ้นและขาลงบนสินค้า เช่น ทองคำ ดัชนีหุ้นได้ 

 *ซึ่งในปัจจุบันนี้ ลูกค้าสามารถเลือกได้เฉพาะบัญชีประเภท Cash Balance ในส่วนของบัญชีประเภทอื่นๆ สามารถเปิดได้หลังจากได้รับการอนุมัติบัญชี Cash Balance แล้วเท่านั้น

4.3 อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ และกดยอมรับ

4.4 กรอกข้อมูลส่วนตัวของท่าน ได้แก่ ที่อยู่, สถานภาพ, อาชีพ และแหล่งที่มาของเงินลงทุน

 

ขั้นตอนที่ 5: ประเมินความเสี่ยงที่รับได้

5. ทำแบบประเมินความเสี่ยง ตอบคำถามเกี่ยวกับผลตอบแทน เงินทุน และความเสี่ยงที่เต็มใจจะรับในการลงทุน

ขั้นตอนที่ 6: ยืนยันตัวตน KYC

6. แนบเอกสารยืนยันตัวตน KYC ได้แก่ 1. รูปบัตรประชาชน 2. รูปหน้าตรง (หากยืนยันตัวตน NDID ผ่านช่องทาง 7-11 ไม่จำเป็นจะต้องรูปหน้าตรง)


ขั้นตอนที่ 7: อัปโหลดหน้าสมุดธนาคาร

7. อัปโหลดไฟล์รูปถ่าย Bookbank เพื่อลงทะเบียนเป็นบัญชีรับผลประโยชน์ และสมัครบริการ ATS

หลังจากขั้นตอนนี้ ถือว่าการเปิดบัญชีเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและแจ้งผลการอนุมัติทางอีเมล์ที่ท่านได้ระบุไว้ ภายในระยะเวลา 1-2 วันทำการ

 

ทั้งนี้ หากติดปัญหาประการใด หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ได้ในช่องทาง LineOA - @Liberator 

หรือ เบอร์ติดต่อ 02-028-7441 วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.