มนุษย์เงินเดือนต้องรอด Vol.2 - เมษายน 68
เมษายนแล้ว คงต้องร้อนทั้งกาย ทั้งใจ แต่ถ้าเตรียมตัวดีๆ ก็ไม่น่าจะร้อนเงินนะครับ สัญญาณดีๆเดือนนี้อยู่ที่ หุ้น และ ทองคำ
ข่าวเศรษฐกิจช่วงนี้ที่ควรรู้
รมว.คลัง เปิดแผนช่วยลูกหนี้ 3 ล้านคน โครงการ “ซื้อหนี้ประชาชน” ตั้งเป้าซื้อหนี้ 1.2 แสน ลบ. จากทั้งหมด 13.6 ล้าน ลบ. เน้นไปที่ลูกหนี้ไม่มีศักยภาพ และไม่มีหลักประกัน
→ ไม่ได้ช่วยทุกคน ดังนั้นวินัยของการชำระหนี้ตรงเวลา หรือเร็วกว่ากำหนด ยังเป็นสิ่งต้องทำ
ไม่ยอมทำ Low ใหม่ แนว 1156 ยังเอาอยู่ ขณะที่เริ่มมีโบรกต่างชาติ “เพิ่มน้ำหนัก” การลงทุนหุ้นไทยแล้ว เพียงแต่มูลค่าซื้อขายเหงาๆ
→ เป็นโอกาสสะสมหุ้น เพราะก่อนตลาดฟื้น volume จะเงียบแบบนี้เสมอ
แม้เฟดจะคงดอกเบี้ย และ Dot plot ชี้ปีนี้จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง แต่ความกังวลสงครามการค้ายังสนับสนุน ดอลล่าร์ และทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
→ ราคาทองคำยังยากที่จะปรับตัวลง
จะเปิดมาตรการ Reciprocal Tariff ในวันที่ 2 เมษายน ความชัดเจนจะเกิดขึ้น
→ มีโอกาสเกิดภาพ Buy on Fact ในสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากราคาสะท้อนลงมารอหมดแล้ว
บริษัทขนาดใหญ่เริ่มกระบวนการนี้หลายราย โดยเฉพาะ PTT, HMPRO สะท้อนว่าราคาหุ้นต่ำเกินกว่าพื้นฐานมากแล้วในมุมมองผู้บริหาร
→ เลือก selection หุ้นได้ แต่ควรดูแนวโน้มธุรกิจประกอบด้วย

ยังลงได้ไหม ลงทุนได้หรือเปล่า?
เงินฝาก
เงินฝากออมทรัพย์ไทยยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับการพักเงิน กองทุน Money Market Fund หรือบัญชีเงินฝาก FCD (ต่างประเทศ) ได้ดอกเบี้ยสูงกว่า 2-3 เท่าตัว น่าสนใจกว่า
ทองคำ
สงครามการค้าเริ่มขยายวางกว้าง ผสานเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ ทำให้ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น และทำหน้าที่ Safe Haven ได้ต่อไป ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน
หุ้นกู้
การผ่อนเกณฑ์ LTV ทำให้ภาคอสังหาฯ หายใจหายคอคล่องขึ้น เพราะกลุ่มนี้มีสัดส่วนสูงถึง 19% ของการคืนชำระหุ้นกู้ปีนี้ แต่ยังไว้ใจไม่ได้ ขณะที่ กนง.เอง ก็ลดดอกเบี้ยได้อีกไม่มาก ทำให้หุ้นกู้ไทยจึงไม่น่าสนใจลงทุนเพื่อ Lock yield
หุ้นไทย
ต่างชาติที่เริ่มเพิ่มน้ำหนักในหุ้นไทย เป็นสัญญาณยืนยันถึง Valuation ที่ไม่แพง ผสานกับกองทุน Thai ESG Extra กำลังเข้ามาชะลอแรงขาย LTF ให้อีกด้วย แนะนำทยอยสะสมได้
หุ้นนอก
หุ้นสหรัฐหลังหลุด EMA200 วันต้นเดือน มีนาคม สุดท้ายก็กลับมาได้ เพื่อนๆที่ทำตามแผน ย่อลึกแล้วรับ น่าจะ ok กัน เดือนนี้ใช้แผนเดิม เช่นเดียวกับ หุ้นจีน เวียดนาม

ช่วงอายุ 25- 35 ปี – เพิ่มการออม
เงินสำรอง 6 เดือน อาจเก็บในบัญชีเงินฝากประจำ FCD สกุล USD ที่ได้รับดอกเบี้ย 4.5%+ เตรียมเงินลงทุนใน Thai ESG extra เดือน พ.ค.-มิ.ย. เพื่อได้สิทธิลดหย่อนภาษีรอบใหม่ สำหรับคนที่อยากซื้อบ้าน-คอนโด เกณฑ์ LTV ผ่อนคลายแล้ว แนะเลือกทำเลที่เดินทางสะดวกถึงที่ทำงาน ส่วนคนอยากซื้อรถ ถ้าเอารถไปหารายได้เพิ่มก็ทำได้ งาน Motor Show เริ่มแล้วส่วนลดเพียบ แต่อย่าลืมทำประกันชีวิต + สุขภาพ อายุไม่เยอะค่าเบี้ยยังถูก และอย่าลืมหารายได้แหล่งที่ 2
สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้
การใช้บัตรเครดิตจะต้องชำระเต็มจำนวน อย่าชำระขั้นต่ำ เพราะดอกเบี้ยแพงมาก
ช่วงอายุ 36- 45 ปี – มั่งคั่ง แผนเกษียณ
Roll over LTF ไปยัง Thai ESGX สำหรับคนที่มีไม่ถึง 5 แสนบาท ถ้าเกินแนะนำขาย LTF แล้วนำเงินลง Thai ESG เองดีกว่าเพราะได้สิทธิประโยชน์เต็ม ๆ ส่วน RMF แบ่งลงทุนในกองสหรัฐ ฯ เวียดนาม และจีน นอกจากนี้แบ่งเงินลงทุนในทองคำด้วยนะ สำหรับการสร้าง Passive income เน้นลงทุนกอง REIT และหุ้นปันผลได้ ถ้ามีลูกอย่าลืม DCA หุ้นให้ลูกด้วย สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรถ เน้นรถ EV เพราะประหยัดกว่ารถน้ำมันมาก
สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้
ไม่ควรก่อหนี้ที่ไม่สร้างประโยชน์
ช่วงอายุ 46- 55 ปี – รักษาเงินใช้ยาว ๆ
เงินสำรองเปลี่ยนมาเป็นบัญชีเงินฝากประจำ FCD สกุล USD หรือ ลงทุนในหุ้นปันผลกับกอง REIT เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ ทั้งนี้กอง REIT ควรเป็น Freehold ถ้าเป็น Leasehold ต้องมีอายุมากกว่า 10+ ปี ทองคำก็เป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ นอกจากนี้ควรลดการเก็งกำไรที่มีความเสี่ยงสูง เงินปันผลอย่าลืมยื่นเครดิตภาษีเงินปันผลด้วยนะ ถ้าเสียภาษีต่ำกว่า 20% และสุดท้ายอย่าลืมทำพินัยกรรมด้วย (ฮา)
สิ่งที่ไม่ควรทำช่วงนี้
เลิกซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ไม่สร้างรายได้ เช่น บ้าน รถ