วิธีการส่งคำสั่งซื้อขาย ผ่าน TradingView

สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ 3 วิธี ได้แก่

1. สร้าง Order ซื้อ - ขาย
2. ส่งแบบ DOM (Depth of Market)
3. ส่งคำสั่งผ่านกราฟ

 

อีก 1 ข้อดีของการเทรดกับ Liberator ผ่าน TradingView ก็คือ วิเคราห์กราฟหุ้นเสร็จแล้ว สามารถส่งคำสั่งต่อได้เลย ซึ่งมีให้ทั้งหมด 3 วิธี เลือกได้ตามที่สะดวกเลยนะคะ

วิธีเปิดคำสั่งซื้อ-ขาย 

เราจะไปที่หุ้นที่เราต้องการซื้อหรือขายก่อน หลังจากนั้นจึงเปิดหน้าจอซื้อขายขึ้นมา ซึ่งมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน

 

  1. คลิกที่ปุ่ม Trade ที่ Panel ด้านล่างของหน้าจอ
  2. คลิกที่พื้นที่ว่าง แล้วเลือก Create New Order
  3. คลิกที่เครื่องหมาย + ตรงแนวระดับราคา

 

หลังจากนั้น เพื่อนๆจะสามารถเลือกส่งคำสั่งตามวิธีที่ถนัดได้เลย ซึ่งในหน้าต่างส่งคำสั่งซื้อขายนี้ จะมีให้เลือก 2 วิธีคือ Order และ DOM หรือจะไม่ใช้หน้าต่างส่งคำสั่งนี้ แต่ใช้วิธีการลากกราฟราคาแทนก็ได้เช่นกัน

 

หมายเหตุ : ในขณะนี้เราเปิดให้ทดสอบในรูปแบบ Beta จึงยังไม่สามารถส่งคำสั่งได้ครบทุกรูปแบบ (เช่น Take Profit และ Stop Loss ล่วงหน้า) โดยจะสามารถใช้งานครบฟังก์ชั่นได้เร็วๆนี้ หลังจากที่เปิดใช้งานแบบเต็มตัว

 

วิธีที่ 1 - สร้าง Order ซื้อขาย

วิธีนี้จะเป็นการระบุราคาซื้อขายตามปกติ คล้ายกับที่เราใช้งานกันในปัจจุบันผ่านแอปฯ Liberator

 

ข้อดี :

  • สามารถส่งคำสั่ง พร้อมวางจุด Take Profit และ Stop Loss ล่วงหน้า
  • เป็น Interface ที่คุ้นชิน โอกาสทำผิดพลาดน้อยสำหรับมือใหม่

 

1. เลือกคำสั่ง Buy หรือ Sell

 

2. เลือกวิธีการซื้อขาย

2.1 Market - ซื้อ หรือขาย ณ ราคาตลาดในตอนนั้นเลย

2.2 Limit Order - ซื้อหรือขาย โดยระบุราคา

2.3 Stop Limit - เมื่อราคาขึ้นหรือลงไปถึงจุดที่กำหนดไว้ จะทำการซื้อ หรือขาย ณ ราคาตลาด

 

3. กรอกรายละเอียด ดังนี้

 

a. ราคาของหุ้น (ในกรณีที่เลือกแบบ Market จะไม่มีช่องนี้ขึ้นให้กรอก)

b. จำนวนหุ้นที่จะซื้อ หรือ ขาย

c. (Optional) กำหนดจุด Take Profit หรือ StopLoss โดยสามารถเลือกตาม 1. Tick (จำนวนช่องราคา) 2. Price (ราคาหุ้น) 3. % (จำนวนเปอร์เซ็นต์ นับจากราคาซื้อ/ขาย)

d. ระบุเวลาที่คำสั่งจะมีผล (Time in Force) เช่น ให้มีผลแค่ภายในวันนี้, ภายในอาทิตย์นี้ หรือจะระบุวัน เวลาลงไปก็ได้ 

 

4. กดปุ่ม Buy หรือ Sell เพื่อยืนยันคำสั่งซื้อขายนั้นๆ

หลังจากกดส่งคำสั่งแล้ว หากเป็นแบบ Limit ระบบจะนำคำสั่งของลูกค้าไปต่อคิวรอจับคู่ซื้อหรือขายในระบบของตลาดหลักทรัพย์

 

วิธีที่ 2 - DOM (Depth of Market)

ในหน้าต่างการซื้อขายแบบ DOM เราจะเห็นราคาปัจจุบัน รวมถึงปริมาณการตั้งซื้อและขายในแต่ละราคา ช่วยให้เราเลือกตัดสินใจซื้อขายประกอบกับกราฟได้ดีขึ้น

 

ข้อดี :

  • มองเห็นรายละเอียดปริมาณการตั้งซื้อขายในแต่ละราคา
  • ส่งคำสั่งซื้อขายได้รวดเร็วมากขึ้น

ก่อนจะไปรู้จักกับปุ่มต่างๆ ในในหน้าต่าง DOM ต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อเราส่งซื้อขายในหน้าต่าง DOM ระบบจะขึ้นหน้าต่างการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ Order ขึ้นมาให้กรอกข้อมูลและทำการยืนยันออเดอร์ก่อนทุกครั้ง แต่ถ้าหากฟังก์ชั่น Instant Orders Placement เปิดอยู่ เมื่อกดส่งคำสั่งในหน้าต่าง DOM จะเป็นการส่งคำสั่งทันทีโดยไม่มีการให้กรอกรายละเอียด หรือคอนเฟิร์มใดๆทั้งสิ้น ส่งผลให้ส่งคำสั่งได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ก็ต้องมาพร้อมความระมัดระวัง

 

วิธีเปิดใช้งานคำสั่ง Instant Orders Placement :
คลิกขวาที่พื้นที่ว่าง > Setting > ไปที่หัวข้อ Trading > กดติ๊กถูกที่ฟังก์ชั่น Instant Orders Placement


รู้จักกับวิธีการส่งคำสั่ง และปุ่มต่างๆในหน้าต่าง DOM

  1. จำนวนหุ้นที่ต้องการซื้อหรือขาย
  2. ซื้อหุ้นแบบ Click - คลิกที่ช่องด้านซ้าย ระบบจะทำการตั้งซื้อหุ้นที่ราคานั้นๆ ในจำนวนที่กำหนดไว้
  3. ขายหุ้นแบบ Click - คลิกที่ช่องด้านขวา ระบบจะทำการขายหุ้นที่ราคานั้นๆ ในจำนวนที่กำหนดไว้
  4. ปุ่ม Buy Mkt - ใช้ในกรณีที่ต้องการซื้อแบบ Market Price
  5. ปุ่ม Sell Mkt - ใช้ในกรณีที่ต้องการขายแบบ Market Price
  6. Flatten - กดเพื่อปิด Position ทั้งหมดทันที
  7. จำนวน และราคาหุ้นเฉลี่ย รวมถึง Unrealized Profit จะปรากฏตรงช่องนี้ หากคำสั่งซื้อได้รับการ Matched แล้ว

 

วิธีที่ 3 - ส่งคำสั่งแบบ Trade on Chart

เราจะใช้การเลื่อนกราฟในการระบุราคาซื้อ ขาย และ Stop Loss แทน

 

ข้อดี :

  • สามารถวิเคราะห์กราฟ และดำเนินการส่งคำสั่งได้ทันที

 

หลังจากที่กดเปิดคำสั่งซื้อขายมาแล้ว เพื่อนๆจะเห็นเส้น Buy, TP และ SL ขึ้นมาในหน้ากราฟ

 

1. เส้นสีน้ำเงิน - คือราคาซื้อ ลูกค้าสามารถกดที่ตัวเลขเพื่อเปลี่ยนจำนวนหุ้นที่ต้องการ และลากเส้นนี้ เพื่อกำหนดราคาซื้อ

จากภาพตัวอย่าง ความหมายคือ ตั้งซื้อหุ้นที่ราคา 1.90 บาท จำนวนทั้งหมด 10,000 หุ้น

ในขั้นตอนนี้ ถ้าลูกค้าไม่ต้องการตั้งจุด TP (Take Profit) และ SL (Stop Loss) สามารถกดที่ปุ่ม Buy (หมายเลข 4) ได้เลย เพื่อทำการยืนยันคำสั่ง

ทั้งนี้ เราแนะนำว่าการวางแผนเทรดที่ดี ควรมีการวางจุดขาดทุนไว้ด้วย ดังนั้นเราจะมาต่อกันที่การตั้ง TP และ SL นะคะ

 

2. เส้นสีส้ม - คือราคาที่เราจะทำการ Stop Loss หรือตัดขาดทุน ลูกค้าสามารถเลื่อนคำว่า SL ไปตรงราคาที่ต้องการ เพื่อกำหนดจุด Stop Loss

จากภาพตัวอย่าง ความหมายคือ ตั้งจุด Stop Loss ไว้ที่ราคา 1.87 บาท จำนวน 10,000 หุ้น ซึ่งระบบจะแสดงให้เห็นด้วยว่าที่ราคานี้ ลูกค้าจะขาดทุนเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่

การทำงานของระบบคือ เมื่อราคาหุ้นลงไปถึงจุด Stop Loss ระบบจะทำการสั่งขายหุ้นทั้งหมดทันที ที่ราคา MP 

 

3. เส้นสีเขียว - คือราคาที่เราจะทำการ Take Profit หรือทำกำไร ลูกค้าสามารถเลื่อนคำว่า TP ไปตรงราคาที่ต้องการ เพื่อกำหนดจุด Take Profit

จากภาพตัวอย่าง ความหมายคือ ตั้งจุด Take Profit ไว้ที่ราคา 2.04 บาท จำนวน 10,000 หุ้น ซึ่งระบบจะแสดงให้เห็นด้วยว่าที่ราคานี้ ลูกค้าจะได้รับกำไรเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่

การทำงานของระบบคือ เมื่อคำสั่งซื้อของลูกค้าได้ทำการ Matched แล้ว ระบบจะส่งคำสั่งขายทิ้งไว้ล่วงหน้าให้ทันทีที่สามารถทำได้ 

 

*ในปัจจุบันนี้ ยังไม่สามารถแยกไม้และราคา ในการตั้ง TP และ SL ได้ 

ข้อควรระวัง - การกดเครื่องหมายกากบาทตรงกราฟ จะเป็นการปิดสถานะนั้นๆที่ราคา MP ทันที 

 

การเปลี่ยนและยกเลิกคำสั่งซื้อขาย

เราสามารถใช้วิธีอะไรในการเปลี่ยนหรือยกเลิกคำสั่งก็ได้ทั้งสิ้น เช่น ซื้อโดยการสร้างออเดอร์ แต่มาเปลี่ยนโดยการลากที่กราฟ ก็สามารถทำได้

 

วิธีที่ 1 - Order

 

1. กดที่เมนู Trade เพื่อเปิดหน้าต่าง Order หรือ จะกดที่จำนวนหุ้นตรงกราฟก็ได้เช่นกัน 

2. เลือกที่เครื่องหมายดินสอ เพื่อเปิดหน้าต่าง Modify Order ขึ้นมาด้านขวามือ

เปลี่ยนราคา : ระบุราคาใหม่ที่ต้องการ หรือจะลากจากเส้นกราฟก็ได้

ยกเลิก : สามารถยกเลิกราคา TP และ SL ได้โดยนำปุ่มติ๊กถูกออก

3. หากจะยกเลิกคำสั่งซื้อขายนี้ ให้กดปุ่มกากบาท 

 
 

 วิธีที่ 2 - DOM

ในหน้าต่าง DOM นี้ เราสามารถเปลี่ยนราคา และยกเลิกออเดอร์ได้หลายวิธี

เปลี่ยนราคา : ลากออเดอร์ที่ส่งคำสั่งไปแล้ว ไปยังราคาที่ต้องการ ตรงนี้จะลากบนกราฟ หรือลากตรงช่อง DOM ก็ได้

ยกเลิก : 

1. กดที่เครื่องหมายกากบาทตรงจำนวนหุ้น ในหน้าต่าง DOM

2. กดปุ่ม CXL All เพื่อทำการยกเลิกทั้งหมด

 

วิธีที่ 3 - ลากกราฟ

หลังจากที่เราทำการส่งคำสั่งซื้อขายแล้ว ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม

 

หากคำสั่งซื้อขายยังไม่ได้รับการ Match - เราสามารถเลื่อนเส้นระดับราคา เพื่อเปลี่ยนราคาซื้อขาย รวมถึงจุด Take Profit และ Stop Loss ได้เลย

หากคำสั่งซื้อทำการ Match เป็นที่เรียบร้อย - เราจะสามารถเลื่อนเส้นระดับราคาได้เฉพาะจุด Take Profit และ Stop Loss เท่านั้น

 

ในขั้นตอนนี้ ฟังก์ชั่น Instant Order จะกลับมามีบทบาทอีกครั้ง โดยหากมีการเปิดใช้งานอยู่ เมื่อเราเลื่อนเส้นราคา Take Profit หรือ Stop Loss ระบบจะทำการเปลี่ยนราคาทันที
แต่ถ้าหากฟังก์ชั่น Instant Order ถูกปิดการใช้งานอยู่ เราจะต้องกดปุ่มคอนเฟิร์ม Modify Order ก่อนที่ระบบจำทำการเปลี่ยนคำสั่งให้

 

ทั้งนี้ การใช้งานโปรแกรมใหม่อาจจะยากในช่วงแรก แต่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่เรา ถ้าเพื่อนๆยังไม่มั่นใจ เราอยากแนะนำให้ลองใช้ Paper Trade ในการฝึกใช้งานให้คล่องก่อน แล้วจึงค่อยเทรดโดยใช้เงินจริง 

หากอยากทดลองเทรดโดยใช้ Paper Trading สามารถไปที่ Panel ทางด้านล่าง และกดเลือก Paper Trade 

 

หวังว่าเพื่อนๆจะเข้าใจวิธีการเทรดโดยใช้ TradingView กันมากขึ้นนะคะ แต่ถ้ายังมีข้อสงสัยสามารถติดต่อเรามาได้เลย

 

ช่องทางติดต่อ

หากมีคำถาม หรือข้อสงสัยเพิ่มเติม

Line Official : @Liberator (มี @ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือกดปุ่ม “สอบถามทีมงาน” ที่หน้าแอพลิเคชั่นได้ค่ะ
Call : 02-0287441 (สอบถามเรื่องทั่วไปกด 0, ส่งคำสั่งซื้อขายกด 1)