แนะนำ 2 กองทุนหุ้นต่างประเทศ และ 3 กองทุนหุ้นไทย สำหรับลดหย่อนภาษีปี 2567 โดย บลจ. กรุงไทย (กองทุนชุดนี้ยังได้ประโยชน์หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้งด้วย)
 
ภาพรวมโลกตอนนี้เป็นอย่างไร?
 
(1) หลายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ย

ไม่ว่าจะเป็นจีน ยุโรป แคนาดา รวมไปถึงพี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยต่อ ข้อมูลเศรษฐกิจ ณ วันที่ 25 ต.ค. 67 บอกว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยที่เศรษฐกิจไม่ถดถอย 

ถ้าไม่มีอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น ยากแล้วที่ดอกเบี้ยจะลงมากกว่าคาด ดังนั้น ไม่แนะนำตราสารหนี้

(2) โลกกำลังจะเจอจุดเปลี่ยนของนโยบายการคลังจากการเปลี่ยนรัฐบาลในหลายประเทศ

โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย. 67 ณ วันที่เขียนบทความนี้ทราบผลผู้ชนะแล้วว่าคือโดนัลด์ ทรัมป์

กลุ่มได้ประโยชน์
- กลุ่มบริการด้านการเงิน (ล้อกับกองทุนที่แนะนำชุดนี้พอดี)
- กลุ่มธุรกิจพลังงานฟอสซิล
- ลดกฎระเบียบทำให้เทคโนโลยีโตเร็วขึ้น AI และอุตสาหกรรมไฮเทคได้ประโยชน์มากขึ้น
- ภาพรวมบริษัทผลประกอบการมีโอกาสดีขึ้นเพราะมีนโยบายลดภาษีนิติบุคคล

กลุ่มเสียประโยชน์ ณ วันนี้
- กลุ่มสุขภาพ
- พลังงานสะอาด
- อสังหาริมทรัพย์
- ธุรกิจที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสูง
 
เพราะด้วยนโยบายของทรัมป์ที่ตั้งใจจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าโดยเฉพาะจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 60% ทำให้สินค้าต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่นำเข้าจากจีนจะแพงขึ้นทันที ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
 
เมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้น FED หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้มากเท่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ต้นทุนเงินกู้จะยังสูงต่อไป บริษัทฯ ต่างๆ ที่มีเงินกู้หนักมือจะยังมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงลิ่ว
 
 
กองทุนต่างประเทศตัวไหนดี?

[1] กองทุนรวม KT-FINANCE-SSF
(อ่าน Factsheet กองทุนได้บนแอป Liberator) 
กองทุนลดหย่อนประเภท SSF (ลดหย่อนได้ 20% ของเงินได้ ลดได้สูงสุด 200,000 บาท)

 
กองทุนนี้เอาเงินเราไปลงทุนอะไร?
กองนี้จะเลือกหุ้น บริการด้านการเงิน ที่มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

1.1 บริษัทฯ ผู้ให้บริการทางการเงิน เช่น Visa (V), Interactive Broker (IBKR), Berkshire Hathaway (BRK) มีความแข็งแกร่งทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจแย่ก็ยังคงทำกำไรได้ดี ยังมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิสูง มีพื้นที่ให้ทำโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม กระตุ้นการเติบโตได้

1.2 กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านการเงินที่เติบโตตามโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น ธนาคารในอินเดีย

1.3 กลุ่ม Financial Services ที่มี Valuation ถูก เป็นโอกาสหายากสำหรับการสะสมหุ้น Upside สูง

ความน่าสนใจต่อที่สอง คือ กองทุนหลักลงทุนด้วยสกุลเงินยูโร ในเมื่อสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง ทำให้ถึงหุ้นสหรัฐฯ จะไม่ขยับไปไหนยังคงทำให้กำไรเพิ่มขึ้นจากค่าเงินยูโรได้

 
[2] กองทุนรวม KT-WTAI-RMF
กองทุนลดหย่อนประเภท RMF ลงทุนระยะยาวรอเกษียณที่จะลงทุนล้อไปตามกระแสของ AI
 
กองทุนนี้เอาเงินเราไปลงทุนอะไร?
กองทุนนี้จะนำเงินไปลงทุนรับกับกระแสเทคโนโลยี AI ซึ่งไม่ได้จบแค่ชิปแต่มีโอกาสอื่นๆ อีกเพียบ

2.1 ลงทุนในธุรกิจหลากหลายที่มากกว่า Chip ไม่ว่าจะเป็นบริษัทฯ พลังงาน, Data Center, หรือแม้กระทั่งผู้ใช้ AI สร้างแอพพลิเคชั่น ทำโฆษณา ทำบริการทางเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะทำงานได้ดีขึ้นอีกเมื่อมี AI มาช่วยงาน

2.2 กองทุนบริหารแบบ Active สามารถโยกย้ายเงินออกจากกลุ่มที่มีความเป็นวัฏจักรสูงอย่าง Chip และ Semiconductor ไปสู่กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำลง มีราคาถูกได้

2.3 ตัวอย่างหุ้นที่ถือจำนวนมากในกองทุนนี้ เช่น Tesla, Broadcom, Amazon, Datadog, Meta
 
 
อยากเน้นหุ้นไทยมากกว่า กองไหนดี?
ลงทุนหุ้นต่างประเทศอยู่แล้ว อยากแบ่งเงินมาลงทุนหุ้นไทยบ้าง แนะนำกองทุนลดหย่อนน้องใหม่ประเภท TESG ที่เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีให้สูงสุดอีก 300,000 บาท
กองประเภทนี้จะคัดเลือกบริษัทฯ ในไทยที่มีคะแนน ESG Rating สูงๆ มีความผันผวนต่ำลงหน่อย มีให้เลือกได้ 3 กองทุน คือ

3.1  KTESG50 ถ้าประเมินว่าเม็ดเงินต่างชาติจะเข้ามาหุ้นไทย ซึ่งมักจะเข้าเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET50 กองนี้น่าสนใจ

3.2 KTAG70/30-ThaiESG หากต้องการลดความเสี่ยงลดหน่อย มีสัดส่วนลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น

3.3 KTAG-ThaiESG หากต้องการลงเงินในหุ้นไทย 100% ซึ่งมีนโยบายตาม ESG
 
ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มมองหาลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีในวันนี้ ติดตามข้อมูลข่าวสารและหากองทุนลดหย่อนภาษีซื้อได้แล้วบนแอป Liberator หัวข้อ Mutual Funds
 
แหล่งข้อมูล: