วิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค
[ DMI ] Directional Movement Indicators ตัวช่วยเช็คความแข็งแกร่งของเทรนด์ที่เกิดขึ้น
Technical Indicator 101 #12
ซีรีส์เรียนรู้ไอเดียเบื้องต้นการใช้งาน Technical Indicator
จากไอเดียของโค้ชบาส มือหลักสายกราฟของ Liberator
Technical Indicator 101 #12
DMI : Directional Movement Indicators
เป็นเครื่องมือที่ประกอบด้วย Indicator จำนวน 3 ตัว
ได้แก่ Average Directional Index (ADX), Plus Directional Indicator (+DI) and Minus Directional Indicator (-DI)
เป็นเครื่องมือที่ประกอบด้วย Indicator จำนวน 3 ตัว
ได้แก่ Average Directional Index (ADX), Plus Directional Indicator (+DI) and Minus Directional Indicator (-DI)
ถูกคิดค้นโดย J. Welles Wilder เจ้าของหนังสือ New Concepts in Technical Trading Systems ที่ถูกเผยแพร่เมื่อปี 1978 ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่สร้าง Indicator ชื่อดังอย่าง RSI, ATR และ Parabolic SAR
โดยที่ ADX ใช้ดูแนวโน้มของราคาว่า ราคาช่วงนั้นเป็น Trend หรือเป็น Sideway (ไม่ได้บอกทิศทางของราคา) ส่วน +DI และ -DI ไว้ใช้ร่วมกับ ADX เพื่อดูทิศทางการแกว่งตัวของราคาอีกที
โดยการรวมพลัง Indicator ทั้ง 3 ตัวนี้ #ทำให้DMIสามารถดูได้ทั้งความแข็งแกร่งของเทรนด์ และ #ทิศทางของราคา
หลักการพื้นฐาน
![📍](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t2d/1/16/1f4cd.png)
![📍](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t2d/1/16/1f4cd.png)
![📍](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t2d/1/16/1f4cd.png)
ซึ่งเราสามารถจับจังหวะการเทรดจากการดูค่าดังกล่าว
โดยทั่วไปในช่วงที่แนวโน้มแข็งแกร่ง ADX จะมีค่ามากกว่า 25
ช่วงที่ +DI มีค่ามากกว่า -DI แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Market)
ช่วงที่ -DI มีค่ามากกว่า +DI แสดงถึงแนวโน้มขาลง (Bearish Market)
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ความแข็งแกร่งของเทรนด์ (Trend Strength)
การดูความแข็งแกร่งของเทรนด์ คือ การดูว่าช่วงนั้นเป็นเทรนด์ หรือ เป็น Sideway ให้ใช้ค่า ADX ในการดู (ไม่ดู +DI และ -DI) โดย Wilder เชื่อว่า
ในช่วงที่ ADX ***อยู่สูงกว่าระดับ 25 แสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และ
ในขณะที่ ADX ***น้อยกว่า 20 แสดงถึงความไม่เป็นเทรนด์ในช่วงนั้น หรือ Sideway นั่นเอง
การตัดของ +DI และ -DI
DI Crossovers เป็นสัญญาณการเทรดของเครื่องมือตัวนี้ โดยจะมีเงื่อนไขเฉพาะตัวบางอย่างในขณะที่เส้น +DI และ -DI ตัดกัน
![📍](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t2d/1/16/1f4cd.png)
1. ADX ต้องมีค่ามากกว่า 25 (แสดงถึงภาวะความเป็นเทรนด์)
2. +DI ตัด -DI ขึ้น
3. ตั้ง Stop loss ที่ Low ของแท่ง
![📍](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t2d/1/16/1f4cd.png)
1. ADX ต้องมีค่ามากกว่า 25 (แสดงถึงภาวะความเป็นเทรนด์)
2. -DI ตัด +DI ลง
3. ตั้ง Stop loss ที่ High ของแท่ง
![📍](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t2d/1/16/1f4cd.png)
ในภาวะที่ตลาดเป็น Sideway โดยค่า ADX มักจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 20 เราสามารถจับหวะการเทรดในช่วงนี้ได้ โดยอาจจะใช้เป็นการ Trading ระยะสั้น หรือ ใช้ประกอบกับเครื่องมืออื่นที่เหมาะกับการเทรดภาวะ Sideway ก็จะเสริมประสิทธิภาพการเทรดช่วงนี้มากยิ่งขึ้น
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
การนำมาเทรด
Indicator [ DMI ] มี 3 เส้นในตัว ได้แก่ : (ADX) (+DI) (-DI)
ADX ดูแค่ มากกว่า หรือ น้อยกว่า 25
ถ้ามากกว่า 25 = หากเกิดแนวโน้ม จะค่อนข้างแข็งแกร่ง
ถ้ามากกว่า 25 = หากเกิดแนวโน้ม จะค่อนข้างแข็งแกร่ง
ถ้าน้อยกว่า 20 = แนวโน้มอาจเป็น Side way หรือ ยังไม่เป็นเทรนด์
เมื่อพอคาดการณ์ความแข็งแกร่งได้แล้ว
จึงมามองหาทิศทางว่ามีโอกาส ขึ้น – ลง จาก (+DI) (-DI)
จึงมามองหาทิศทางว่ามีโอกาส ขึ้น – ลง จาก (+DI) (-DI)
การตัดกันของเส้น +DI และ -DI ช่วยบอกทิศทาง และ สัญญาณกลับตัว
+DI ตัดขึ้น -DI = แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น หรือ สัญาณการกลับตัวขึ้น Bullish Divergence
+DI ตัดลง -DI = แสดงถึงแนวโน้มขาลง หรือ สัญญาณการกลับตัวลง Bearish Divergence
ซึ่งถ้ารวมพลังทั้ง 2 ส่วนนี้ จะช่วยในการ หาจุดซื้อ + ตัดสินใจถือ/ไม่ถือ ได้ด้วยนะ
จับสัญญาณซื้อ ขาย
+DI ตัดขึ้น -DI = สัญญาณซื้อ (ระวัง false signal)
+DI ตัดลง -DI = สัญญาณขาย (ระวัง false signal)
ตัดสินใจถือต่อ ?
ADX ยังสูงกว่า 25 เทรนด์นั้นยังแข็งแกร่ง
ADX เริ่ม หรือ หักต่ำกว่า 25-20 เทรนด์เริ่มอ่อนกำลัง
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
โค้ชบาสสรุปให้
Directional Movement (DMI) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ สามารถบอกได้ทั้งความเป็นเทรนด์ และทิศทางการแกว่งตัวของราคา โดยอาจไม่ใช่ Indicator ที่ใช้ง่านง่ายในชีวิตจริง แต่หากเทรดเดอร์หมั่นศึกษา ทำความเข้าใจ หรือมีการปรับแต่งมัน ก็จะสามารถใช้ประสิทธิภาพในการเทรดได้ดี
อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์ไม่ควรใช้ค่า 25 และ 20 ในการตัดสินทุกสถานการณ์ เพราะบางสินทรัพย์อาจจะไม่ได้ใช้ค่าดังกล่าวในการตัดสินใจ ควรดูพฤติกรรมในอดีตประกอบการตัดสินใจด้วย
หนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรตระหนัก คือ Wilder ได้พัฒนาเครื่องมือนี้มาใช้กับพวก Forex และ Commodities ซึ่งสินค้าเหล่านี้มักมีความผันผวน และมีความเป็นเทรนด์ มากกว่าหุ้น ดังนั้นหากไปใช้สินทรัพย์การเทรดอื่น ก็ควรใช้ระดับที่เหมาะสมกับสินทรัพย์นั้น
มาดูภาพประกอบพร้อมวิธีการใช้งานเครื่องมือ DMI นี้กัน
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091002_2.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091009_3.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091017_4.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091026_5.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091034_6.jpg)
มาดูภาพประกอบพร้อมวิธีการใช้งานเครื่องมือ DMI นี้กัน
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091002_2.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091009_3.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091017_4.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091026_5.jpg)
![](https://www.liberator.co.th/manage/uploads/20240731_091034_6.jpg)
Series TECHNICAL INDICATOR 101
โค้ชบาสเลือกคัดเอา 20 Indicators มาแนะนำมือใหม่ที่เริ่มสนใจศึกษาการใช้กราฟ เพื่อวางแผนการเทรด และ หาไอเดียไว้ประยุกต์ ต่อยอด และ ปรับใช้ ในการวางแผนการเทรด
วิธีที่ดีที่สุด คือ รู้เอาไว้ให้ครบ แล้วเลือกใช้เฉพาะเครื่องมือที่เราเชื่อว่าจะสอดคล้องกับแนวทางของเรา
นี่คือ ลิสต์ 20 Indicators สนใจตัวไหน คลิกที่ชื่อ Indicators นั้นๆ ได้เลย
01 [ 52 Week High/Low ] เช็คจุดสูงสุด - ต่ำสุด ในรอบปี ก่อนเทรดแบบ Break Out
02 [ MACD ] จับเทรนด์ และ หาจังหวะซื้อขาย ด้วย Moving Average Convergence Divergence
03 [ Bollinger Bands ] เครื่องมือวัดความผันผวนของราคาระหว่างแนวโน้ม
04 [ Stochastic ] หาจุดเข้า-ออก เทรดเก็บรอบระยะสั้น
05 [ Parabolic SAR ] รันเทรนด์เมื่อกราฟเกิดแนวโน้มชัดเจน
06 [ ROC ] Rate of Change วัดโมเมนตัมการแกว่งตัวของราคา
07 [ ATR ] Average True Range ตามติดความผันผวนของราคา
08 [ Volume Profile Visible Range ] หาแนวรับ-ต้าน ราคาไหนที่มีนัยยะ
09 [ On Balance Volume ] วัดกระแสเงินไหลเข้าไหลออก และ วัดแรงซื้อ-แรงขายในตลาดการลงทุน
10 [ RSI Overbought/Oversold ] เช็คโมเมนตัม และ จุดนัยยะสำคัญของเทรนด์
11 [ Super Trend Indicator ] มองเทรนด์ออกด้วยเส้นเดียว ก่อนเริ่มวางแผนการเทรด
12 [ DMI ] Directional Movement Indicators ตัวช่วยเช็คความแข็งแกร่งของเทรนด์ที่เกิดขึ้น
13 [ Ichimoku Cloud ] ครบในเครื่องมือเดียว หาแนวโน้มหลัก ระบุแนวรับ-แนวต้าน จบที่หาจังหวะซื้อ-ขาย
14 [ Donchain Channels ] เครื่องมือที่เรียบง่ายสำหรับการระบุแนวโน้มใหม่ ๆ และวัดความผันผวนของตลาด
15 [ Keltner Channels ] กรอบการแกว่งตัว ที่ช่วยกำหนดกลยุทธ์การเทรดตามรูปแบบของเทรนด์
16 [ Zigzag Indicator ] เช็คภาพรวมทิศทางการเคลื่อนตัวของราคา
17 [ Chaikin Oscillator ] ตรวจสอบแรงซื้อ - แรงขาย เพื่อต่อยอดการจับจังหวะเทรด
18 [ William %R ] จับจังหวะรอบ Overbought Oversold เพื่อหาจุดกลับตัว
19 [ Aroon Indicator ] ดูการเริ่มต้นของแนวโน้ม หาช่วงแกว่งตัวออกข้าง และ คาดการณ์การกลับตัว
20 [ Commodity Channel Index ] ดูรอบวัฏจักรการแกว่งตัวของราคา เพื่อจับจังหวะในการเทรด