[ CCI ] Commodity Channel Index ดูรอบวัฏจักรการแกว่งตัวของราคา เพื่อจับจังหวะในการเทรด
Technical Indicator 101 #20
CCI เป็นตัวบ่งชี้แบบ Oscillator ที่ช่วยระบุเงื่อนไขการซื้อ-ขายเกิน (Overbought/Oversold) และช่วยตรวจสอบความแข็งแกร่งของแนวโน้ม เพื่อช่วยในการจับจังหวะการเทรด
เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่พัฒนาโดย Donald Lambert ในปี 1980 เพื่อใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) แต่ในปัจจุบันก็มีการนำไปใช้กับการจับจังหวะในหลายๆสินทรัพย์
CCI จะวัดระดับราคาปัจจุบันเทียบกับราคาค่าเฉลี่ยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยใช้สูตรดังนี้:
Typical Price (TP): (High + Low + Close) / 3
SMA of Typical Price: ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายของ Typical Price ในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 20 วัน)
Mean Deviation: ค่าความเบี่ยงเบนเฉลี่ยของ Typical Price
ตัวคูณ 0.015 ถูกกำหนดโดย Lambert เพื่อให้ค่า CCI ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง -100 ถึง +100
วิธีการใช้งาน CCI
1. ระบุเงื่อนไขการซื้อ-ขายเกิน (Overbought/Oversold)
หากค่า CCI สูงกว่า +100 แสดงว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวขาลง
หากค่า CCI ต่ำกว่า -100 แสดงว่าตลาดอยู่ในภาวะ Oversold ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวขาขึ้น
2. สัญญาณซื้อและขาย
สัญญาณซื้อ: เมื่อ CCI ข้ามขึ้นผ่าน -100 ไปยังด้านบวก หรือเมื่อ CCI ข้ามจากต่ำกว่า +100 ลงมาอยู่ที่ระดับที่ต่ำกว่านั้นและฟื้นตัวอีกครั้ง
สัญญาณขาย: เมื่อ CCI ข้ามลงต่ำกว่า +100 แสดงว่าตลาดอาจเข้าสู่ขาลง หรือเมื่อ CCI ข้ามลงจากระดับ -100
3. การใช้ CCI ในการจับแนวโน้ม
CCI สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มได้
หากค่า CCI อยู่สูงกว่า +100 เป็นเวลานาน แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
ถ้า CCI อยู่ต่ำกว่า -100 เป็นเวลานาน แสดงถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
มาดูภาพประกอบพร้อมวิธีการใช้งานเครื่องมือ Commodity Channel Index นี้กัน
Series TECHNICAL INDICATOR 101
โค้ชบาสเลือกคัดเอา 20 Indicators มาแนะนำมือใหม่ที่เริ่มสนใจศึกษาการใช้กราฟ เพื่อวางแผนการเทรด และ หาไอเดียไว้ประยุกต์ ต่อยอด และ ปรับใช้ ในการวางแผนการเทรด
วิธีที่ดีที่สุด คือ รู้เอาไว้ให้ครบ แล้วเลือกใช้เฉพาะเครื่องมือที่เราเชื่อว่าจะสอดคล้องกับแนวทางของเรา
นี่คือ ลิสต์ 20 Indicators สนใจตัวไหน คลิกที่ชื่อ Indicators นั้นๆ ได้เลย
01 [ 52 Week High/Low ] เช็คจุดสูงสุด - ต่ำสุด ในรอบปี ก่อนเทรดแบบ Break Out
02 [ MACD ] จับเทรนด์ และ หาจังหวะซื้อขาย ด้วย Moving Average Convergence Divergence
03 [ Bollinger Bands ] เครื่องมือวัดความผันผวนของราคาระหว่างแนวโน้ม
04 [ Stochastic ] หาจุดเข้า-ออก เทรดเก็บรอบระยะสั้น
05 [ Parabolic SAR ] รันเทรนด์เมื่อกราฟเกิดแนวโน้มชัดเจน
06 [ ROC ] Rate of Change วัดโมเมนตัมการแกว่งตัวของราคา
07 [ ATR ] Average True Range ตามติดความผันผวนของราคา
08 [ Volume Profile Visible Range ] หาแนวรับ-ต้าน ราคาไหนที่มีนัยยะ
09 [ On Balance Volume ] วัดกระแสเงินไหลเข้าไหลออก และ วัดแรงซื้อ-แรงขายในตลาดการลงทุน
10 [ RSI Overbought/Oversold ] เช็คโมเมนตัม และ จุดนัยยะสำคัญของเทรนด์
11 [ Super Trend Indicator ] มองเทรนด์ออกด้วยเส้นเดียว ก่อนเริ่มวางแผนการเทรด
12 [ DMI ] Directional Movement Indicators ตัวช่วยเช็คความแข็งแกร่งของเทรนด์ที่เกิดขึ้น
13 [ Ichimoku Cloud ] ครบในเครื่องมือเดียว หาแนวโน้มหลัก ระบุแนวรับ-แนวต้าน จบที่หาจังหวะซื้อ-ขาย
14 [ Donchain Channels ] เครื่องมือที่เรียบง่ายสำหรับการระบุแนวโน้มใหม่ ๆ และวัดความผันผวนของตลาด
15 [ Keltner Channels ] กรอบการแกว่งตัว ที่ช่วยกำหนดกลยุทธ์การเทรดตามรูปแบบของเทรนด์
16 [ Zigzag Indicator ] เช็คภาพรวมทิศทางการเคลื่อนตัวของราคา
17 [ Chaikin Oscillator ] ตรวจสอบแรงซื้อ - แรงขาย เพื่อต่อยอดการจับจังหวะเทรด
18 [ William %R ] จับจังหวะรอบ Overbought Oversold เพื่อหาจุดกลับตัว
19 [ Aroon Indicator ] ดูการเริ่มต้นของแนวโน้ม หาช่วงแกว่งตัวออกข้าง และ คาดการณ์การกลับตัว
20 [ Commodity Channel Index ] ดูรอบวัฏจักรการแกว่งตัวของราคา เพื่อจับจังหวะในการเทรด