วิธีเลือกหุ้นปันผล? คู่มือสำหรับมือใหม่

เบื่อไหม? ทำงานหนักแต่เงินในบัญชีไม่เคยงอกเงย 💸

หลายคนพยายามเก็บเงินแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นลงทุนยังไง กลัวขาดทุน กลัวเลือกหุ้นผิด จนเงินเก็บถูกกินด้วยเงินเฟ้อทุกวัน เราเข้าใจความรู้สึกนี้ดี...

แต่รู้ไหม? มีวิธีลงทุนที่ทั้ง 'ปลอดภัย' และ 'ได้เงินสม่ำเสมอ'

นั่นคือ 'หุ้นปันผล' - เพื่อนที่จะช่วยสร้างรายได้ให้คุณแบบ  Passive Income!

 

    สารบัญวิธีเลือกหุ้นปันผล สำหรับมือใหม่

หุ้นปันผลคืออะไร

ข้อดี ข้อเสีย ของหุ้นปันผล

วิธีเลือกหุ้นปันผล

วิธีเช็คและติดตามหุ้นปันผล

⏩ เช็คลิสต์หุ้นปันผล

 

ทำไมหุ้นปันผลถึงเหมาะกับมือใหม่?

โดยทั่วไป นักลงทุนมักมองหากำไรจากการซื้อหุ้นในราคาต่ำและขายในราคาสูง (Capital Gain) ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงและตื่นเต้นกว่า

แต่การลงทุนใน หุ้นปันผล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รายได้สม่ำเสมอ และต้องการความมั่นคงมากกว่า เนื่องจากบริษัทที่จ่ายปันผลมักเป็นธุรกิจที่มั่นคงและมีรายได้ที่แน่นอน

⏩ ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นทั่วไป (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย)

⏩ ราคาไม่ผันผวนมาก

⏩ ได้เงินปันผลสม่ำเสมอ

⏩ เหมาะกับการลงทุนระยะยาว

 

มาทำความรู้จักกับ "หุ้นปันผล" ทางเลือกการลงทุนที่เหมาะกับมือใหม่ ก่อนจะไปเรียนรู้วิธีเลือกหุ้นปันผลที่ดี เรามาดูกันว่าการลงทุนแบบนี้คืออะไร? มีข้อดีและข้อควรระวังอะไรบ้าง...

 

หุ้นปันผลคืออะไร?

หุ้นปันผล คือ หุ้นของบริษัทที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเงินปันผลนี้มาจากกำไรของบริษัท และอาจจ่ายเป็นเงินสดหรือหุ้นเพิ่มทุนก็ได้

⏩ แต่ละบริษัทกำหนดอัตราการจ่ายปันผลแตกต่างกัน เช่น 20%, 40%, 60% ของกำไรสุทธิ

⏩ บางบริษัทไม่จ่ายปันผลเลย เพราะนำกำไรไปลงทุนขยายธุรกิจ

⏩ หุ้นบางตัวสามารถ เติบโตไปพร้อมกับจ่ายปันผล ทำให้ได้รับผลตอบแทนทั้ง Capital Gain และ Dividend

ตัวอย่าง:
ถ้าบริษัท ABC มีกำไรสุทธิ 200 ล้านบาท และมีนโยบายจ่ายปันผล 60% หมายความว่าจะจ่ายปันผลรวม 120 ล้านบาท

⏩ ถ้าบริษัทมีหุ้น 100 ล้านหุ้น → นักลงทุนที่ถือ 1 หุ้นจะได้รับเงินปันผล 1.20 บาทต่อหุ้น

 

บริษัทจ่ายปันผลยังไง? 

การจ่ายปันผลมี 2 รูปแบบคือ

เงินปันผลเป็นเงินสด (Cash Dividend) XD : บริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้ผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นที่ถือ โดยคำนวณจากเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) และผู้ที่ถือหุ้นในช่วงที่บริษัทประกาศปันผลจะได้รับเงินตามอัตราที่กำหนด

เงินปันผลเป็นหุ้น (Stock Dividend) XD(ST) : บริษัทจ่ายปันผลโดยออกหุ้นเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นแทนเงินสด ส่งผลให้จำนวนหุ้นที่ถือเพิ่มขึ้น แต่ราคาหุ้นอาจถูกปรับลดลงตามสัดส่วน ซึ่งเหมาะกับบริษัทที่ต้องการรักษากระแสเงินสดไว้เพื่อขยายกิจการ

 

   กระบวนการจ่ายปันผลของบริษัท
+ วันประกาศจ่ายปันผล (Declaration Date): บริษัทประกาศการจ่ายปันผล พร้อมระบุจำนวนและวันสำคัญ

+ วันขึ้นเครื่องหมาย XD (Ex-Dividend Date): นักลงทุนที่ซื้อหุ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่ได้รับปันผล

+ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับปันผล (Record Date): บริษัทตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับปันผล

+ วันจ่ายเงินปันผล (Payment Date): บริษัทจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นตามกำหนด 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ [XD คืออะไร? ซื้อตอนไหนถึงจะได้ปันผล?]

 

อัตราการจ่ายเงินปันผลตอบแทน

อัตราการจ่ายเงินปันผลตอบแทน หรือ Yield มีสูตรคำนวณ คือ (เงินปันผล/ราคาหุ้น) x 100 เช่น ปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นบนกระดาน คือ 8 บาท แปลว่า เราได้ Yield (0.4/8) x 100 = 5% แปลว่า ทุก 100 บาท ที่เราซื้อหุ้นตัวนี้ เราจะได้ผลตอบแทนเป็นเงิน 5 บาท

⏩ หุ้นตัวนี้จ่ายปันผลกี่เปอร์เซ็นต์ ที่คนชอบพูดกัน ก็คือ การหาว่า Yield กี่เปอร์เซ็นต์นั่นเอง
⏩ คำถาม คือ ทำไมเราคำนวณได้ 5% เพื่อนเราได้ 5.5% อีกคนได้ 4.5% คำตอบ คือ เพราะซื้อกันคนละวัน ราคาหุ้นวิ่งขึ้นลงทุกวัน เวลาคำนวณออกมาก็เลยได้ Yield ไม่เท่ากัน
⏩ คำถามต่อมา คือ Yield กี่เปอร์เซ็นต์เรียกว่าดี ให้พิจารณาแบบนี้ว่า ค่าเฉลี่ยของบริษัทในตลาดหุ้นจ่ายที่เกือบ 3% ถ้าเราบวกเงินเฟ้อในช่วงปกติซัก 2% แปลว่า ถ้าได้ปันผลซัก 5% ก็ถือว่าใช้ได้ หรือจะลองเอาไปเปรียบเทียบกับผลตอบแทนด้านอื่น เช่น พันธบัตรรัฐบาลได้ดอกเบี้ยซัก 4% งั้นหาหุ้นที่ให้ปันผล 5% ก็โอเค

Written by: #StockVitamins x #Liberator

 

ข้อดี ข้อเสีย ของหุ้นปันผล

ข้อดีของหุ้นปันผล

⏩ สร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ – นักลงทุนได้รับเงินปันผลโดยไม่ต้องขายหุ้น

⏩ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด – หุ้นปันผลมักมีเสถียรภาพสูงกว่าหุ้นเติบโต

⏩ ผลตอบแทนทบต้น – การนำเงินปันผลไปลงทุนต่อช่วยเพิ่มมูลค่าพอร์ตในระยะยาว

⏩ บ่งบอกถึงความมั่นคงของบริษัท – บริษัทที่จ่ายปันผลต่อเนื่องมักมีกำไรและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง

⏩ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ระยะยาว – โดยเฉพาะผู้ที่วางแผนเกษียณ

ป้องกันเงินเฟ้อ – ถ้าเลือกหุ้นที่ให้ปันผลมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ

 

ข้อเสียของหุ้นปันผล

⏩ อัตราผลตอบแทนอาจลดลง – หากบริษัทมีกำไรลดลงหรือเปลี่ยนนโยบาย

⏩ โอกาสเติบโตต่ำกว่าหุ้นเติบโต (Growth Stocks) – บริษัทที่จ่ายปันผลสูงมักเติบโตช้ากว่า

⏩ บางบริษัทปันผลสูงเพราะธุรกิจอิ่มตัว – ต้องดูว่ามีการเติบโตต่อหรือไม่

⏩ ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกำไรจากราคาหุ้น (Capital Gain) เป็นหลัก

 

ทำไมเลือกหุ้นปันผล แล้วต้องดูอย่างอื่นประกอบ

ปัญหา หุ้นปันผล ที่ผิดพลาด

⏩ ซื้อแล้ว “ลง”

⏩ ซื้อแล้ว ปันผล “ต่ำกว่าคาด” มาๆหายๆ

⏩ ซื้อแล้ว “ดีปีเดียว” ปีถัดไป ไม่ดี

⏩ จังหวะผิด “เสียเวลา!”

⏩ เวลาโดน โดนหนัก

ปัญหาเหล่านี้ทำให้เราต้องระวังในการเลือกหุ้นปันผลยังมีกับดักหุ้นปันผลที่เราต้องระวัง

 

กับดักหุ้นปันผลที่เราต้องระมัดระวัง

⏩ Yield สูง จากกำไรพิเศษ
บางครั้งเราตาโตเห็นหุ้นจ่ายปันผล 10%, 15% แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการคำนวณจากกำไรพิเศษที่อาจจะมาเพียงครั้งเดียว เช่น ขายที่ดินได้ ขายโรงงานได้ ซึ่งปกติไม่มี บริษัทเลยจ่ายปันผลเยอะกว่าปกติ ถ้าเราหลงเข้าไปซื้อ แล้วปีต่อมากลับมาจ่ายเท่าเดิมที่แค่ 2% ก็อาจจะไม่คุ้มได้ เพราะฉะนั้นต้องลองดูดีๆ ว่า ปกติจ่ายเท่าไหร่ ทำไมปีนี้จะจ่ายเยอะ มันสมเหตุสมผลหรือเปล่า

⏩ Yield สูง เพราะธุรกิจมีปัญหา ราคาหุ้นลงเยอะ
ถ้าเราดูจากสูตร คือ เงินปันผล/ราคาหุ้น การที่ Yield เพิ่มขึ้นได้ อาจเป็นเพราะ

+ จ่ายปันผลสูงขึ้น กิจการทำกำไรได้ดีขึ้น ถ้าแบบนี้คือดี
+ ราคาหุ้นลงเยอะ อาจเป็นเพราะเริ่มเห็นสัญญาณว่า บริษัทไม่โต นักลงทุนบางคนเห็นเลยตัดสินใจเทขายออกมาก่อน ราคาเป็นตัวหาร พอลงเยอะ ผลลัพธ์เป็น Yield เลยดูเหมือนสูง ถ้าแบบนี้ก็อาจจะไม่ดี

⏩ Payout Ratio 90-100% เพราะธุรกิจอิ่มตัว
เราอาจจะอยากได้หุ้นที่จ่าย payout เยอะๆ กำไรเท่าไหร่ จ่ายออกมาเกือบหมด เพราะเราคิดว่าเราจะได้เงินปันผลเยอะๆ แต่ในความเป็นจริง ลองคิดดูว่า การที่บริษัททำแบบนั้น อาจเป็นเพราะ ธุรกิจอิ่มตัวแล้ว ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะ หรือหมดมุก คิดไม่ออกว่าจะหา S-curve ใหม่อย่างไร ถ้าเป็นแบบนี้ในอนาคตกำไรอาจจะลดลงได้ และแน่นอนว่า เงินปันผลถึงแม้จะจ่าย 90-100% เมื่อคำนวณออกมาแล้วก็จะได้เงินลดลงนั่นเอง

⏩ ปันผลสูง กำไรดี แต่ขาดเงินสด
เป็นไปได้ว่า บางธุรกิจมีกำไรสุทธิเป็นบวกเยอะ แต่เก็บเงินได้ช้า ให้เครดิตนาน อาจเป็นด้วยรูปแบบของธุรกิจนั้นๆ หรือตามนโยบายการเติบโต แต่บริษัทเองก็อยากจะจ่ายปันผล ซึ่งวิธีการที่ทำได้คือ ต้องไปกู้เงินมาจ่ายปันผลแทนไปก่อน เพราะถ้าไม่จ่าย เดี่ยว Yield หด นักลงทุนตกใจขายหุ้นทิ้ง แต่ปัญหาที่ตามมาในระยะยาว คือ การก่อหนี้ เป็นภาระให้บริษัท แทนที่จะกู้เพื่อเอาไปลงทุนสร้างสินทรัพย์ให้ออกดอกผลจะดีกว่า

Written by: #StockVitamins x #Liberator

 

วิธีเลือกหุ้นปันผล

โดย 7 วิธีคัดเลืกหุ้นปันผล มีดังนี้

 

⏩ วิธีที่ 1: เลือกหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ

หุ้นที่เลือกต้องมีประวัติการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ "บริษัทที่จ่ายปันผลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี แสดงถึงความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ"

บริษัทที่ยังคงจ่ายปันผลแม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย. หากบริษัทใดสามารถรักษาการจ่ายปันผลในช่วงวิกฤต นั่นคือสัญญาณของความแข็งแกร่งทางการเงินที่แท้จริง และสะท้อนถึงวัฒนธรรมการให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้น.

 

⏩ วิธีที่ 2: สำรวจกำไรและกระแสเงินสด

เช็คผลประกอบการย้อนหลัง โดยเฉพาะกำไรสุทธิและกระแสเงินสด "บริษัทที่มีแนวโน้มกำไรและกระแสเงินสดเชิงบวกมีความสามารถในการจ่ายปันผลอย่างยั่งยืน"

การเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่าบรษัทมีโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง. กระแสเงินสดเชิงบวกแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีเงินเพียงพอสำหรับการจ่ายปันผล โดยไม่ต้องก่อหนี้เพิ่มหรือใช้เงินจากแหล่งอื่น.

 

⏩ วิธีที่ 3: ตรวจสอบแนวโน้มอุตสาหกรรม

หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมขาลง "อุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรุนแรงหรือการลดลงของความต้องการมักส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจ่ายปันผลในระยะยาว"

ควรวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมในระยะ 3-5 ปี เพื่อประเมินความยั่งยืนของธุรกิจ. แม้บริษัทจะมีผลประกอบการดีในปัจจุบัน แต่หากอยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังถดถอย อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับการลงทุนระยะยาว.

 

⏩ วิธีที่ 4: เลือกบริษัทที่มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ

ความมั่นคงทางการเงินเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการจ่ายปันผลที่ยั่งยืน. "ควรเลือกบริษัทที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ที่ไม่สูงเกินไป และมีความสามารถในการทำกำไรที่สม่ำเสมอ"

บริษัทที่มีหนี้สินน้อยจะมีความยืดหยุ่นทางการเงินสูงกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอย. ความสามารถในการทำกำไรที่ดีแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างมูลค่าจากการลงทุนและมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับการจ่ายปันผล.

 

⏩ วิธีที่ 5: สำรวจราคาไม่ให้ Over Value

"ไม่ควรซื้อหุ้นเมื่อราคาแพงเกินไป แม้จะเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี" ช่วงตลาดปรับฐานหรือช่วงวิกฤต เช่น ช่วงโควิด-19 เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเก็บสะสมหุ้นปันผลที่มีคุณภาพและพื้นฐานบริษัทดี. หากเราซื้อหุ้นที่มูลค่าที่แท้จริงไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากราคา แต่ยังช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอีกด้วย.

 

⏩ วิธีที่ 6: ตรวจสอบคดีความที่มีนัยสำคัญ

คดีความสามารถส่งผลกระทบรุนแรงต่อผลประกอบการและความสามารถในการจ่ายปันผลของบริษัท. "หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่มีคดีความสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงิน"

คดีความที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมาย การฟ้องร้องจากผู้บริโภค หรือข้อพิพาททางธุรกิจขนาดใหญ่ อาจนำไปสู่ค่าปรับจำนวนมาก ความเสียหายต่อชื่อเสียง และผลกระทบระยะยาวต่อการดำเนินธุรกิจ. ข้อมูลเกี่ยวกับคดีความสำคัญมักเปิดเผยในรายงานประจำปีหรือแบบ 56-1.

 

⏩ วิธีที่ 7: เช็ค Dividend Yield เทียบกับค่าเฉลี่ยตลาด

ควรเลือกหุ้นที่มี Dividend Yield มากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด และสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อหรือผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาล

หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% หรือพันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทน 2% ควรพิจารณาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่านี้. แต่ต้องระวังหุ้นที่มี Dividend Yield สูงผิดปกติ (เช่น มากกว่า 7-8%) เพราะอาจสะท้อนถึงปัญหาของบริษัทหรือความไม่ยั่งยืนของการจ่ายปันผล.

 

มองหาบริษัทที่มี Economic Moat

Economic Moat คือความสามารถของบริษัทในการป้องกันการแข่งขันและรักษาผลกำไรในระยะยาว โดยสามารถเกิดจาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่

⏩ Intangible Assets (สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้) เช่น แบรนด์ที่แข็งแกร่ง สิทธิบัตร หรือใบอนุญาตจากภาครัฐ

⏩ Cost Advantage (ความได้เปรียบด้านต้นทุน) บริษัทที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)

⏩ Switching Costs (ต้นทุนในการเปลี่ยนผู้ให้บริการ) ลูกค้าต้องใช้ต้นทุนสูงหากต้องเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการของคู่แข่ง เช่น ระบบซอฟต์แวร์ที่ผูกกับลูกค้า

⏩ Network Effect (อิทธิพลของเครือข่ายผู้ใช้) ยิ่งมีผู้ใช้มาก ยิ่งดึงดูดให้คนอื่นมาใช้บริการมากขึ้น เช่น Facebook หรือ Visa

⏩ Efficient Scale (ขนาดที่เหมาะสมของตลาด) ธุรกิจที่มีการผูกขาดโดยธรรมชาติ เช่น ท่าเรือ สนามบิน หรือโครงข่ายโทรคมนาคม

สรุปวิธีเลือกหุ้นที่ดีจากหนังสือ Why Moats Matter

 

วิธีเช็คและติดตามหุ้นปันผล

⏩ ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับหุ้นที่เราถือ อยู่ อาจจะวันละครั้งหรือ สัปดาห์ละครั้งก็ได้ เพื่อรู้ทันเหตุการ์ณต่างๆ ที่จะกระทบกับตัวหุ้น

⏩ ติดตามผลประกอบการ และแนวโน้มการเติบโตของหุ้น ว่ามีโอกาสเติบโตไปในอนาคตไหมแล้ว บริษัทเริ่มมีปัญหาอะไรหรือยัง

⏩ สำหรับใครที่ชอบดูกราฟ ก็สามารถดูกราฟราคาว่าหุ้นมีการหลุดแนวรับสำคัญไหม หรือราคา ปัจจุบัน ยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่หรือไม่

⏩ สำหรับมือใหม่ ที่อยากเรียนรู้เรื่องหุ้นแบบเต็มอิ่ม ทั้งสายกราฟ และสายพื้นฐาน สามารถเข้ามาเริ่มต้นเรียนกับเราได้ที่ลิ้งนี้เลย [มือใหม่เริ่มต้นลงทุนครั้งแรก เรียนหุ้นกับ LIB ACADEMY101]

 

ไม่รู้จะหุ้นเลือกจากไหน เลือกจากลิสต์นี้ดู

ปกติเวลาจะเลือกหุ้นปันผล มีหลายช่องทางให้เพื่อนได้ศึกษา ก่อนลงทุน
อย่างของ SET  : ศึกษาหุ้นจากดัชนี SET HD (High Dividend) 
แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่มีไอเดีย ในการเลือกหุ้นปัผลเลย เพื่อนๆสามารถเลือกดูจากลิสต์นี้ได้เลย 

ทีนี้เพื่อนๆ คงมีวิธีเลือกหุ้นปันผล กันแล้ว แต่ยังไม่มีให้ไอเดียว่าจะเลือกหุ้น ตัวไหนสามารถดู บทวิเคราะห์ Dividend เย็นใจของเราได้

ซึ่งทีมนักวิเคราะห์ของเรา ได้คัดสรรและอัพเดทหุ้นปันผลตลอดทุกเดือน  คลิกเพื่ออ่านบทวิเคราะห์เต็มๆDividend เย็นใจ

 

ตัวอย่างหุ้นปันผลที่น่าสนใจ

จากลิสต์คร่าวๆ  สำหรับ สมาชิก LIBFAM จะได้ดูบทวิเคราะห์แบบ Special ที่จะอัพเดทข้อมูลหุ้น ให้ทุกเดือน 
อิชิตัน กรุ๊ป - วิกิพีเดีย   ICHI  : Dividend yield 9.0%

บล.ไทยพาณิชย์ ชี้ DIF ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อDIF : Dividend yield 10.9%

ไฟล์:Logo-TTW .png - วิกิพีเดีย   TTW   : Dividend yield 6.7%

Logo TISCO horizontal - มิติหุ้น | ชี้ชัดทุกการลงทุนTISCO : Dividend yield 7.9%

สำหรับใครที่เห็นไอเดียการลงทุนหุ้นปันผลแล้วอยากเรียนหุ้นเพิ่มเติม สามารถ คลิกที่ Banner 

เงินปันผลกับภาษี

เงินปันผลโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%
โดยทั่วไปเราจะโดนหัก 10% เช่น ได้เงินปันผล 0.40 บาท x 100,000 = 40,000 บาท แต่โดนหักไป 4,000 บาท เงินโอนเข้ามาแค่ 36,000 บาท 
แต่เราก็สามารถไปยื่นขอเครดิตภาษีคืนให้สรรพากรพิจารณาได้เช่นกัน เพราะบริษัทที่เราถือหุ้นนั้นเสียภาษีนิติบุคคลไปแล้ว ส่วนเราเสียภาษีบุคคลธรรมดา อาจจะดูว่าซ้ำซ้อนกัน ให้เราลองไปยื่นดูได้

Written by: #StockVitamins x #Liberator

 

อธิบายสั้นๆ

ข้อควรระวังหุ้นปันผล

+ Yield สูงผิดปกติ อาจมาจากกำไรพิเศษชั่วคราว

+ ธุรกิจอิ่มตัว Payout Ratio สูง อาจไม่มีการเติบโต

+ ปันผลสูง แต่ขาดเงินสด บริษัทอาจต้องกู้มาจ่าย

ภาษีหุ้นปันผล

+ ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10%

+ สามารถยื่นขอเครดิตภาษีคืนได้

ข้อดีและข้อเสีย

+ มีรายได้สม่ำเสมอโดยไม่ต้องขายหุ้น

+ เสี่ยงต่ำกว่าหุ้นเติบโต ราคาไม่ผันผวนมาก

+ ช่วยป้องกันเงินเฟ้อ หากให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาด

- เติบโตช้ากว่าหุ้น Growth Stocks

- บางบริษัทปันผลสูงเพราะธุรกิจอิ่มตัว

- ไม่เหมาะกับสายเก็งกำไรจากราคาหุ้น

วิธีเลือกหุ้นปันผล สำหรับมือใหม่

  1. เลือกหุ้นที่จ่ายปันผลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี
  2. เลือกบริษัทมีกำไรและกระแสเงินสดเป็นบวก
  3. เลือกบริษัทที่ไม่อยู่ในอุตสาหกรรมขาลง
  4. เลือกบริษัทที่มีหนี้สินต่ำ (D/E Ratio ปลอดภัย)
  5. ราคาไม่แพงเกินไป (ไม่ Overvalue)
  6. ไม่มีคดีความร้ายแรง
  7. Dividend Yield สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดและอัตราเงินเฟ้อ

 

FAQ

? คำถาม คือ ซื้อก่อน XD 1 วัน ได้ปันผลมั้ย คำตอบ คือ ได้ ซื้อกี่วัน กี่เดือนก่อน XD ได้ปันผลหมด
? คำถามต่อมา แล้วถ้าขายวัน XD ได้ปันผลมั้ย คำตอบคือ ได้ ถ้าซื้อมาก่อนหน้านั้น ไม่ใช่เพิ่งมาซื้อตอนเช้าวัน XD