Equity หรือ ส่วนของผู้ถือหุ้น คืออะไร? ส่งผลยังไงกับมูลค่าบริษัท?

เราเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางบริษัทที่มีรายได้สูงกลับมีมูลค่าหุ้นที่ต่ำ? หรือทำไมบางบริษัทดูเหมือนจะมีกำไรดี แต่ราคาหุ้นกลับไม่ขยับ?

นักลงทุนจำนวนมากมักจดจ่ออยู่กับตัวเลขรายได้และกำไรเพียงอย่างเดียว แต่กลับมองข้ามองค์ประกอบสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในงบการเงิน นั่นคือ "ส่วนของผู้ถือหุ้น" หรือ Equity

การไม่เข้าใจ Equity อย่างถ่องแท้ เหมือนกับการพยายามประเมินคุณค่าบ้านโดยดูแค่ว่าสวยแค่ไหน โดยไม่สนใจว่ามีจำนองติดอยู่เท่าไร

 

ข้อเสียของการไม่ดู ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity)

การลงทุนในบริษัทที่มี Equity ติดลบ: บริษัทที่หนี้สินมากกว่าทรัพย์สินเสี่ยงต่อการล้มละลายสูง แม้จะมีรายได้เติบโตก็ตาม ( ส่วนนี้บางทีอาจจะเป็นเรื่องดีเช่นบริษัทมีการซื้อหุ้นขึ้นเป็นจำนวนมากอาจทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ )

หลงเชื่อกำไรปลอม: บางบริษัทแสดงกำไรสูง แต่ Equity กลับลดลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการตกแต่งตัวเลข


💡 หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ Enron ที่รายงานกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับไม่สะท้อนกำไรเหล่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนก่อนที่บริษัทจะล้มละลายในที่สุด

     Treasury Stock หุ้นซื้อคืน หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินเพื่อการบริหารสภาพคล่องของกิจการในกรณีที่ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่อง
ทางการเงินสูงกว่าความต้องการใช้ดำเนินธุรกิจในช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน โดยหุ้นซื้อคืนจะไม่นับเป็นองค์ประชุมในการประชุม
ผู้ถือหุ้นรวมทั้งไม่มีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน และสิทธิในการรับเงินปันผล  
อ้างอิง : https://www.set.or.th/th/listing/listed-company/simplified-regulations/disclosure/treasury-stocks

 

Equity คืออะไร? ทำไมต้องรู้ก่อนลงทุน?

Equity หรือส่วนของผู้ถือหุ้น คือ มูลค่าสุทธิที่เป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นในกิจการ ซึ่งคำนวณได้จากทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทหักด้วยหนี้สินทั้งหมด โดยแสดงในงบแสดงฐานะการเงิน (งบดุล) 


อธิบายง่ายๆ คือ ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) คือ ส่วนที่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นเป็นเจ้าของในธุรกิจจริงๆ

ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจทั้งหมด เป็นแหล่งทุนเริ่มแรกที่นำไปผลิตสินค้าหรือบริการ คำนวณตามหลักบัญชีขั้นพื้นฐาน:

Equity = สินทรัพย์รวม - หนี้สินรวม   จาก สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น

Equity = Total Assers - Total Liabilities

คิดง่ายๆ ดังนี้:

  • ถ้าธุรกิจมีทรัพย์สินทั้งหมด 1,000,000 บาท
  • แต่ยังมีหนี้สินอยู่ 600,000 บาท
  • ส่วนของผู้ถือหุ้นจะเท่ากับ 400,000 บาท

 

Equity หรือ ส่วนของผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ

⏩ทุนชำระแล้ว: เงินทุนที่ผู้ถือหุ้นนำเข้ามาในบริษัทจริงๆ

⏩ส่วนเกินมูลค่าหุ้น: มูลค่าหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาพาร์

⏩กำไรหรือขาดทุนสะสม: ผลรวมของกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา

⏩ส่วนต่างจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์: การปรับมูลค่าสินทรัพย์ให้สะท้อนมูลค่าตลาด

อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.setinvestnow.com/th/glossary/Shareholders-equity

 

Equity ส่งผลอย่างไรต่อมูลค่าบริษัท?

⏩ เป็นฐานในการคำนวณอัตราส่วนสำคัญ: อัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการประเมินมูลค่าบริษัท

⏩ แสดงความมั่นคงทางการเงิน: บริษัทที่มี Equity สูงมักมีความเสี่ยงด้านการเงินต่ำ สามารถทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดีกว่า

⏩ สะท้อนมูลค่าทางบัญชี: มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) คำนวณจาก Equity หารด้วยจำนวนหุ้น เป็นตัวชี้วัดพื้นฐานสำหรับการประเมินว่าหุ้นมีราคาแพงหรือถูก

⏩ ช่วยในการเปรียบเทียบบริษัท: การดูอัตราการเติบโตของ Equity ช่วยให้เปรียบเทียบประสิทธิภาพการบริหารระหว่างบริษัทได้ดีขึ้น

 

วิธีการใช้ ส่วนของผู้ถือหุ้น 

⏩ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของ Equity: ตรวจสอบว่า Equity มาจากการดำเนินงานปกติหรือจากรายการพิเศษ เช่น การตีราคาสินทรัพย์ใหม่

⏩ ตรวจสอบการเติบโตของ Equity: บริษัทที่ดีควรมี Equity เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น

 

การเข้าใจ Equity อย่างถ่องแท้เป็นกุญแจสำคัญสู่การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ อย่าปล่อยให้โอกาสการลงทุนที่ดีหลุดมือไปเพราะมองข้ามตัวเลขสำคัญนี้