Free Float คืออะไร? ส่งผลต่อสภาพคล่องหุ้นอย่างไร เคลียร์ทุกข้อสงสัยที่นี่
เข้าใจผิดเรื่อง Free Float มาตลอด? เคลียร์ทุกข้อสงสัยที่นี่
เวลาดูหน้าซื้อขายหุ้นทำไมบางหุ้น Bid Offer น้อยๆ หรือเวลาที่ซื้อหุ้นแล้วแต่กลับขายไม่ออก สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเรามองข้ามตัวเลขสำคัญอย่าง "Free Float"
⏩ Free Float คืออะไรกันแน่?
Free Float คือ สัดส่วนหุ้นที่อยู่ในมือผู้ถือหุ้นรายย่อยและพร้อมซื้อขายในตลาด
โดยไม่รวมหุ้นที่ถือโดย
ตัวอย่างง่ายๆ : บริษัท A มีหุ้นทั้งหมด 100 ล้านหุ้น แบ่งเป็น
✔ หุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหาร 30 ล้านหุ้น
✔ หุ้นที่ถือโดยนักลงทุนรายย่อย 70 ล้านหุ้น
ดังนั้น Free Float ของบริษัท A = 70% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง
⏩ ปัญหาที่นักลงทุนเจอเมื่อไม่รู้จัก Free Float
นักลงทุนส่วนใหญ่มักตัดสินใจลงทุนโดยดูแค่พื้นฐานบริษัท ราคาหุ้น และกำไรต่อหุ้น โดยไม่สนใจ Free Float ทำให้อาจจะเจอปัญหานี้
✖ สภาพคล่องต่ำ: ซื้อง่ายแต่ขายยาก โดยเฉพาะเมื่อต้องการขายในปริมาณมาก
✖ ราคาผันผวนสูง: หุ้นอาจพุ่งหรือร่วงแรงได้ง่ายแม้มีข่าวเพียงเล็กน้อย
✖ ตกเป็นเหยื่อการปั่นราคา: ถูกผู้มีอิทธิพลในตลาดทำให้ราคาไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
✖ ถูกคัดออกจากดัชนี: จนเกิดแรงเทขายและราคาดิ่งลงอย่างรุนแรง
⏩ ทำไม Free Float จึงสำคัญมากกับนักลงทุน?
1. บอกสภาพคล่องในการซื้อขาย
+ Free Float สูง = สภาพคล่องสูง ซื้อขายง่าย ราคาเคลื่อนไหวน้อย (ผู้ลงทุนรายย่อยถือหุ้นเยอะ)
+ Free Float ต่ำ = สภาพคล่องต่ำ ซื้อขายยาก ราคาเคลื่อนไหวมาก (ผู้ลงทุนรายย่อยถือหุ้นน้อย)
2. สะท้อนความผันผวนของราคา
หุ้นที่มี Free Float ต่ำมักผันผวนมากกว่า เพราะแรงซื้อขายเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงได้
3. เป็นเกณฑ์คัดเลือกเข้าดัชนีสำคัญ
ดัชนีอย่าง SET50, SET100 ใช้ Free Float เป็นเกณฑ์คัดเลือก หากบริษัทไหนที่ผ่านเกณฑ์ Free Float และมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง ก็มักจะมีโอกาสเข้าไปอยู่ในดัชนีเหล่านี้ ซึ่งจะดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบันและต่างชาติเข้ามาลงทุน
4. บ่งชี้โครงสร้างอำนาจในบริษัท
Free Float ต่ำมักหมายถึงมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีอำนาจควบคุมสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจที่อาจไม่เป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเสมอไป
⏩ อะไรทำให้ Free Float เปลี่ยนแปลง?
Free Float ไม่ใช่ตัวเลขคงที่ แต่เปลี่ยนแปลงได้จาก
+ การเพิ่มทุน: ทำให้ Free Float เพิ่มขึ้นหากเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป
+ การซื้อหุ้นคืน: ลด Free Float เพราะหุ้นซื้อคืนไม่ถือเป็น Free Float
+ การแตกพาร์: ทำให้มีจำนวนหุ้นมากขึ้น สภาพคล่องดีขึ้น
+ การควบรวมกิจการ: อาจเพิ่มหรือลด Free Float ขึ้นอยู่กับโครงสร้างการถือหุ้นใหม่
+ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่: หากรายใหญ่ขายหุ้นให้รายย่อย Free Float จะเพิ่ม
⏩ เกณฑ์ Free Float ตามตลาดหลักทรัพย์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องมี
✔ Free Float ไม่น้อยกว่า 15% ของทุนชำระแล้ว
✔ ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่น้อยกว่า 150 ราย
หากไม่เป็นไปตามเกณฑ์ บริษัทจะถูกขึ้นเครื่องหมาย CF (Caution Free Float) และหากแก้ไขไม่ได้เป็นเวลานาน อาจถูกขึ้นเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขาย) และอาจถูกเพิกถอนในที่สุด
⏩ วิธีนำ Free Float ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
1. พิจารณา Free Float ร่วมกับปริมาณการซื้อขาย
หากหุ้นมี Free Float ต่ำแต่มีปริมาณซื้อขายสูงมาก อาจบ่งชี้ว่ามีการเก็งกำไรหรือปั่นหุ้น เช่น หุ้นมี Free Float เพียง 20% แต่มีการซื้อขายหมุนเวียนถึง 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดต่อวัน
2. ระวังหุ้นที่ถูก "Corner"
หุ้นที่มี Free Float ต่ำมักถูก "Corner" (การกวาดซื้อหุ้นจนเกือบหมด) ได้ง่าย ทำให้ผู้ที่ถือหุ้นจำนวนมากสามารถควบคุมราคาในตลาดได้
3. ตรวจสอบก่อนการลงทุนขนาดใหญ่
หากต้องการลงทุนในปริมาณมาก ควรตรวจสอบ Free Float ก่อนเสมอ เพราะถ้า Free Float ต่ำ การซื้อปริมาณมากอาจทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นมาก และการขายออกก็จะทำได้ยาก