กำไรสุทธิคืออะไร? ความแตกต่างระหว่าง กำไรสุทธิและกำไรขั้นต้น ที่นักลงทุนต้องรู้
กำไรสุทธิคืออะไร? ความแตกต่างระหว่าง "กำไรสุทธิ" vs "กำไรขั้นต้น" ที่นักลงทุนต้องรู้
ทุกคนเคยรู้สึกสับสนไหมว่าทำไมบริษัทที่มียอดขายสูงและดูเหมือนกำลังเติบโต แต่กลับไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้? หรือทำไมหุ้นของบริษัทที่รายงานกำไรเพิ่มขึ้นกลับมีราคาตกลง? หนึ่งในสาเหตุหลักของความสับสนนี้คือการไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง "กำไรสุทธิ" และ "กำไรขั้นต้น" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จทางการเงินที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
การเข้าใจตัวเลขทางการเงินของบริษัทเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการตัดสินใจลงทุน แต่เมื่อเผชิญกับรายงานทางการเงินที่เต็มไปด้วยตัวเลขและคำศัพท์เฉพาะ นักลงทุนหลายคนมักจะมองข้ามรายละเอียดสำคัญที่ซ่อนอยู่ในตัวเลขเหล่านั้น
กำไรสุทธิคืออะไร?
กำไรสุทธิ หรือ Net profit คือ ตัวเลขที่แสดงเงินที่บริษัทเหลือจริงหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนใช้ประเมินความสามารถในการทำกำไรของบริษัท โดยปรากฏเป็นตัวเลขสุดท้ายในงบกำไรขาดทุน
+ งบดุลคือ "ภาพถ่าย" ฐานะการเงินของบริษัท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีทรัพย์สินและหนี้สินเท่าไร
+ โครงสร้างสมการ กำไรสุทธิ คือ กำไรสุทธิ = รายได้รวม - ค่าใช้จ่ายรวม หรือ คือ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ตัวอย่าง กำไรสุทธิ ในรายงานงบประจำปี 56-1 บริษัท ADVANC
กำไรขั้นต้นคืออะไร?
กำไรขั้นต้น คือ กำไรเบื้องต้นที่ได้จากการขายสินค้า โดยหักเฉพาะต้นทุนสินค้าเท่านั้น
เหมือนคุณขายเสื้อราคา 300 บาท โดยซื้อมา 150 บาท คุณได้กำไรขั้นต้น 150 บาท (แต่ยังไม่ได้หักค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน)
ตัวอย่าง กำไรขั้นต้น ในรายงานงบประจำปี 56-1 บริษัท ADVANC
ทำไมต้องรู้ความแตกต่าง?
เมื่อเข้าใจความต่างระหว่างกำไรสุทธิและกำไรขั้นต้นเราจะสามารถแยก
+ รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน - เช่น บริษัทมีกำไรขั้นต้นดี แต่กำไรสุทธิแย่ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายบริหารสูงเกินไป
+ เปรียบเทียบบริษัทได้ถูกต้อง - ร้านอาหารกับโรงงานผลิตรถยนต์ย่อมมีโครงสร้างต้นทุนต่างกัน การดูทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิให้ภาพที่ชัดเจนกว่า
+ เห็นอนาคตของบริษัท - หากกำไรขั้นต้นลดลงเรื่อยๆ อาจเป็นสัญญาณว่ามีคู่แข่งเยอะขึ้น หรือต้นทุนสินค้าสูงขึ้น
ประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับ
เมื่อคุณเข้าใจเรื่องกำไรสุทธิและกำไรขั้นต้น คุณจะ:
+ ตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น - บริษัทที่มีทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิที่ดีมักเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง
+ คาดการณ์ปัญหาได้เร็วขึ้น - เมื่อเห็นว่ากำไรขั้นต้นลดลง แต่รายได้ยังเพิ่ม คุณรู้ว่าบริษัทอาจกำลังลดราคาเพื่อสู้กับคู่แข่ง
+ ไม่ถูกหลอกด้วยตัวเลขรายได้ที่สวยหรู - บางบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่กลับมีกำไรสุทธิน้อยลง แสดงว่ามีปัญหาลึกๆ
วิธีดูตัวเลขกำไรสิทธิและกำไรขั้นต้น
สิ่งที่ควรมองหาในกำไรสุทธิ
+ อัตรากำไรสุทธิ - ยิ่งสูงยิ่งดี (เช่น 10% ถือว่าดีสำหรับร้านค้าปลีก 20% ขึ้นไปถือว่าดีมากสำหรับบริษัทเทคโนโลยี)
+ แนวโน้ม - กำไรสุทธิควรเพิ่มขึ้นพร้อมๆ กับรายได้
+ ความสม่ำเสมอ - บริษัทที่มีกำไรสุทธิคงที่มักมีความเสี่ยงน้อยกว่า
สิ่งที่ควรมองหาในกำไรขั้นต้น
+ อัตรากำไรขั้นต้น - บอกว่าสินค้ามีกำไรดีแค่ไหน ยิ่งสูงยิ่งมีความสามารถในการแข่งขัน
+ เทียบกับคู่แข่ง - ควรสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม
+ ความมั่นคง - ถ้าลดลงเรื่อยๆ อาจมีปัญหาเรื่องการแข่งขันหรือต้นทุนวัตถุดิบ
กรณีศึกษาเปรียบเทียบ: บริษัท A vs บริษัท B
บริษัท A: ผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยี
+ รายได้: 1,000 ล้านบาท
+ ต้นทุนขาย: 350 ล้านบาท
+ กำไรขั้นต้น: 650 ล้านบาท (65%)
+ ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน: 500 ล้านบาท
+ กำไรสุทธิ: 150 ล้านบาท (15%)
บริษัท B: ผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค
+ รายได้: 1,000 ล้านบาท
+ ต้นทุนขาย: 700 ล้านบาท
+ กำไรขั้นต้น: 300 ล้านบาท (30%)
+ ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน: 150 ล้านบาท
+ กำไรสุทธิ: 150 ล้านบาท (15%)
แม้ว่าทั้งสองบริษัทจะมีกำไรสุทธิเท่ากัน แต่โครงสร้างธุรกิจและความเสี่ยงแตกต่างกันอย่างมาก บริษัท A มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงแต่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงเช่นกัน (อาจเป็นเพราะการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา หรือการตลาด) ส่วนบริษัท B มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าแต่มีประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีกว่า
เมื่อวิเคราะห์บริษัทใดๆ อย่าเพียงแค่ดูที่ตัวเลขกำไรสุทธิเท่านั้น แต่ให้พิจารณาทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิควบคู่กัน แล้วยังมีตัวเลขสำคัญอื่นๆ ที่ต้องมองประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นงบการเงินต่างๆ
และ อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ จึงต้องใช้การศึกษาและติดตามอยู่ตลอด
สำหรับใครที่อยากเรียนรู้งบการเงินและตัวเลขทางการเงินแบบละเอียด สามารถเข้ามาเริ่มต้น กับเราได้เลย ที่ LIB Academy