PE คืออะไร ? รู้หรือไม่? PE บอกอะไรได้มากกว่าแค่ราคาหุ้น
PE คืออะไร ? รู้หรือไม่? PE บอกอะไรได้มากกว่าแค่ราคาหุ้น
เพื่อนๆ คงเคยได้ยินกันมาตลอดว่าหุ้นถูกหรือหุ้นแพงให้ดู P/E แต่เรารู้ไหมว่าทำไม ถึงเป็นแบบนี้
สิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่เป็นกันคือ นักลงทุนส่วนใหญ่มักมองแค่ราคาหุ้น แต่ไม่ได้พิจารณาว่าราคานั้น "แพง" หรือ "ถูก" อย่างแท้จริง ทำให้พลาดโอกาสทองในลงทุนหุ้นคุณภาพ หรือแย่กว่านั้น คือการลงทุนในหุ้นที่ราคาสูงเกินจริง
โดยการตัดสินใจลงทุนโดยดูแค่ราคาหุ้น เปรียบเสมือนการซื้อบ้านโดยไม่รู้ราคาตลาด เพียงเพราะเห็นว่า "ราคาลดลงจากเมื่อวาน" แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคานั้นสมเหตุสมผลกับคุณค่าจริง?
นี่แหละที่มาที่เราต้องดู PE
PE คืออะไร ?
PE (Price-to-Earnings Ratio) เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะเปลี่ยนวิธีการลงทุนของคุณไปตลอดกาล!
P/E Ratio คืออัตราส่วนทางการเงินที่เทียบกันระหว่าง Price/Earning Per Share (ราคา หารด้วย กำไรสุทธิต่อหุ้น)
โดย P/E Ratio เป็นตัวบอกว่า ถ้าเราซื้อหุ้นที่ราคาเท่านี้ ตอนนี้ เราจะได้ทุนคืนในอีกกี่ปี หากบริษัทยังทำกำไรได้เท่าเดิมในทุกๆ ปี
ทำไมต้อง P/E ratio
ทุกอย่างได้ทะท้อนออกมาบน P/Eratio แล้ว ไม่ว่าจะป็น
⏩ ข้อมูลทางการเงิน: เช่น งบกระแสเงินสด, งบดุล, งบกำไรขาดทุน, และ Valuation Models (DCF, DDM, EV/EBITDA) เราไม่ต้องแกะงบการเงินที่ยากๆ ไม่ต้องคำนวณมูลค่าเหมาะสม ไม่ต้องประมาณการ ต่างๆ
⏩ ข่าวสาร : ทั้งข่าวด้านการเงิน , เศรษฐกิจ , ข่าวGossip ผู้บริหารทะเลาะกับเมีย ข่าวลือ P/E ratio สามารถสะท้อนได้
⏩ ความเสี่ยง : สะท้อนออกมาบน P/E ratio
⏩ ความคาดหวัง : จิตวิทยามวลชน คนคิดยังไงกับหุ้นตัวนี้
⏩ การแข่งขัน : แข่งขันกันมาก , แข่งขันน้อย หรือ ไม่แข่งกันเลย P/E ratio จะสะท้อนออกมาไม่เหมือนกัน
⏩เปรียบเทียบอุตสาหกรรมได้ง่าย
- เปรียบเทียบ บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน
- บริษัทใหญ่เทียบบริษัทเล็ก (รายอาจจะคิดว่า ฐริษัทใหญ่อาจจะเก่งกว่าแต่ความจริงอาจจะไม่ใช่)
- เปรียบเทียบ บริษัทในอุตสาหกกรรมเดียวกัน ที่อยู่ต่างต่างประเทศได้
⏩ใช้กันมายาวนาน
- คศ 17 - Robert Bagehot นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้เริ่มบันทึกค่า P/E ratio ในงานเขียน
- คศ 19 - Benjamin Graham นำเสนอ P/E Ratio เป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์การลงทุน
- เริ่มใช้แพร่หลายปี 1960
⏩ทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย เพราะรวมทุกอย่างใว้แล้ว
PE มีกี่แบบ
P/E มีอยู่ 2 รูปแบบคือ เหลียวหลัง กับ มองหน้า (Trailing P/E) , (Forward P/E)
Trailing P/E คือ ใช้ข้อมูลย้อนหลัง ดูว่าราคาหุ้นเทรดที่ P/E เท่าไรในปัจจุบัน
เป็น P/E ที่เกิดขึ้นมาแล้ว เปรียบเทียบกับกลุ่มได้ , รู้ว่าในสถานการณ์ต่างๆ เทรดด้วย P/E เท่าไหร่
Forward P/E คือ มองอนาคต สร้าง Valuation และเป้าหมายการลงทุน
เป็น P/E ที่มองอนาคต
+ ความสนใจ อดีต - ปัจจุบัน - อนาคต
+ เทียบกลุ่ม ในปี Forward ข้างหน้าเดียวกัน
+ สร้าง Valuation กำหนดเป้าหมายลงทุน
พฤติกรรมของ P/E
+ แต่ละวงจรธุรกิจ ค่า P/E ไม่เหมือนกัน เราต้องเข้าใจว่าเรากำลังลงทุนวงจรไหน
+ หุ้นที่เราสนใจอยู่ Cycle ไหนของธุรกิจ
+ หัวใจของ P/E สูงต่ำ คือ การเติบโต (EPS growth)
+ ค่าเฉลี่ย P/E กลุ่ม จะเป็นแกนกลางของการเหวี่ยงของ Outperformer และ Underperformer การยืนระยะเวลาเป็นเรื่องที่ต้องตระหนัก
การนำไปใช้
⏩ สายพื้นฐานหาหุ้นเติบโต
เช็ควงจรธุรกิจ ทำ Valuation ที่ระยะไกล ⚠ ต้องประมาณการกำไรแม่นๆ
⏩ สาย VI หาหุ้น Undervalue
กลุ่มนี้มองอนาคตไม่มาก , หา Deep discount P/E จากกลุ่มแบบชั่วคราว 12-18 เดือน ⚠ ระวัง Value Trap = หุ้นมันห่วยจริงๆ
PE จะช่วยเราได้อย่างไร?
+ หาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าจริง - เปรียบเทียบ PE ของหุ้นกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมหรือประวัติของบริษัทเอง เพื่อค้นหาโอกาสที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
+ หลีกเลี่ยงหุ้นที่แพงเกินไป - PE ที่สูงอาจเป็นการบอกว่าหุ้นมีราคาแพงเกินจริง หรือตลาดคาดหวังการเติบโตในอนาคตสูงมาก ซึ่งอาจไม่เป็นจริงเสมอไป
+ เปรียบเทียบหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน - PE ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบบริษัทที่มีราคาหุ้นต่างกันได้ง่ายขึ้น เช่น หุ้น A ราคา 50 บาท มี PE 15 อาจถูกกว่า หุ้น B ราคา 10 บาท แต่มี PE 30
การลงทุนโดยไม่รู้จัก PE ก็เหมือนการขับรถโดยไม่มีเข็มวัดความเร็ว เราอาจไปถึงจุดหมาย แต่ความเสี่ยงอาจสูงเกินไป
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ยังไม่เข้าใจ หรือ อยากเรียนรู้ PE ให้เข้าใจมากขึ้น สามารถเปิดพอร์ตแล้วเข้ามาเรียนกับเราได้เลย
เริ่มต้นเรียนรู้ P/E แบบลึกซึ้ง คลิกที่รูปนี้ได้เลย
