สรุปหุ้น STGT : บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางทางการแพทย์และอุตสาหกรรมระดับโลก โดยมุ่งเน้นการผลิตถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ที่ได้มาตรฐานสากล บริษัทดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การตลาด และการส่งออกไปยังหลากหลายประเทศทั่วโลก บริษัทมีฐานการผลิตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในหลายภูมิภาค รวมถึงการขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: สินค้าอุปโภคบริโภค / ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์

  SET ESG Ratings : AAA

  ขนาดบริษัท (Market Cap):  20,342.78 ล้านบาท

 ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 18/03/68

 

สินค้า และ บริการ

ธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ รายละเอียด
ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติ ถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง มีการเคลือบแป้งไว้ด้านในเพื่อช่วยให้สวมใส่ง่าย
  ถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง ผลิตด้วยกระบวนการล้างแป้งออกเพื่อให้ปลอดสารตกค้าง
ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางไนไตรล์ ถุงมือสำหรับอุตสาหกรรม (Industrial Gloves) ถุงมือยางไนไตรล์ (Nitrile Glove) ผลิตจากน้ำยางไนไตรล์ (Nitrile Butadiene Rubber: NBR) ซึ่งเป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่ง โดยถุงมือชนิดนี้มีความทนทานต่อการฉีกขาดและสารเคมีได้ดี ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมการเกษตร
  ถุงมือสำหรับการแพทย์ (Medical Gloves)  
  ถุงมือศัลยกรรม (Surgical Gloves)  
**สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์บริษัท**

บริษัทฯ ผลิตและจำหน่าย ถุงมือยางธรรมชาติ (NR) และถุงมือยางไนไตรล์ (NBR) โดยถุงมือยางธรรมชาติผลิตจาก น้ำยางข้น (Concentrated Latex) มีความยืดหยุ่นสูง สวมใส่สบาย และย่อยสลายได้ดี แบ่งเป็น ชนิดมีแป้ง (NRPD) ที่ช่วยให้สวมใส่ง่าย และ ชนิดไม่มีแป้ง (NRPF) ที่ปลอดสารตกค้าง ส่วนถุงมือยางไนไตรล์ผลิตจาก น้ำยางไนไตรล์ (NBR) ทนต่อการฉีกขาดและสารเคมี เหมาะสำหรับ อุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และการเกษตร มีจำนวนโรงงาน 6 โรงงาน, จำหน่ายใน 175 ประเทศ  มีกำลัง
การผลิตติดตั้งรวมประมาณ 51,112 ล้านชิ้นต่อปี

  

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ 2566 มูลค่า (ล้านบาท) สัดส่วน % 2567 มูลค่า (ล้านบาท) สัดส่วน % การเปลี่ยนแปลง yoy
รายได้จากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง 7,392.20 36.5 9,075.50 35.10% 🟩เพิ่มขึ้น 22.77%
รายได้จากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง 7,465.50 36.9 8,806.90 34.00% 🟩เพิ่มขึ้น 17.97%
รายได้จากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางไนไตรล์ 4,121.20 20.4 6,847.50 26.50% 🟩เพิ่มขึ้น 66.15%
ผลกระทบจากการบัญชีป้องกันความเสี่ยงในงบกระแสเงินสด 55.10 0.3 55.40 0.20% 0.54%
รวมรายได้จากการผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง 19,665.20 97.1 25,002.10 96.60% 🟩เพิ่มขึ้น 27.14%
รายได้จากการให้บริการ 631.00 3.1 216.70 0.80% 🟥ลดลง -65.66%
รายได้อื่น 578.40 2.9 880.20 3.40% 🟩เพิ่มขึ้น 52.18%
รายได้รวม 20,243.60 100.00 25,882.30 100.00 🟩เพิ่มขึ้น 27.85%

ข้อมูลล่าสุดของปี 2567 จาก 56-1 ของบริษัท
**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

 ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ระดับโลก

+ มีส่วนแบ่งการตลาดสูง เป็นผู้นำในประเทศไทย และติดอันดับต้นของโลก
+ มีกำลังผลิตรวมสูงถึง 51,112 ล้านชิ้นต่อปี​

🔹 การควบคุมต้นทุนที่ดี

+ ใช้พลังงานชีวมวลจากเศษไม้ยางพารา ลดต้นทุนและมลภาวะ
+ มีต้นทุนน้ำยางต่ำกว่าเพราะโรงงานตั้งอยู่ใกล้แหล่งผลิตยางธรรมชาติ​

🔹 การนำระบบอัตโนมัติ (Automation) และ AI มาใช้ในการผลิต

+ ใช้ Vision Camera และ Machine Learning เพื่อตรวจสอบคุณภาพถุงมือ ทำให้มีความแม่นยำสูง ลดของเสีย และปรับปรุงคุณภาพสินค้า
+ ระบบ Auto Packing และ Auto Stacking ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดต้นทุนด้านแรงงาน​

🔹 มีเป้าหมายเป็น Carbon Neutral ภายในปี 2573 และ Net Zero ภายในปี 2593

+ ใช้พลังงานหมุนเวียน และมีแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม
+ ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 4 จากกระทรวงอุตสาหกรรม​ONEREPORTSTGTT

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹  ความเสี่ยงด้านการแข่งขันที่สูง

-  ความเสี่ยง : การแข่งขันในอุตสาหกรรมถุงมือยางรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ผลิตในจีนและมาเลเซียที่พยายามขยายตลาด

+ มาตรการการรับมือ:  
✅ เน้น การลดต้นทุนการผลิต ด้วยการใช้ Automation และ AI
✅ เพิ่มมูลค่าสินค้าโดยพัฒนาถุงมือพิเศษ เช่น ถุงมือแพทย์ Surgical Gloves
✅ ขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ เช่น แอฟริกาและอเมริกาใต้

🔹 ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ

- ความเสี่ยง:  ราคาน้ำยางข้นและยางสังเคราะห์มีความผันผวนสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตไม่แน่นอน

+ มาตรการการรับมือ:  
✅ กระจายแหล่งจัดหาวัตถุดิบให้หลากหลาย
✅ มีการทำ Hedging (การป้องกันความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบ)
✅ ควบคุมสัดส่วนการผลิตระหว่างถุงมือยางธรรมชาติและไนไตรล์ให้เหมาะสม​

🔹 ความเสี่ยงจากความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลง

- ความเสี่ยง: การลดลงของความต้องการใช้ถุงมือยางหลังช่วง COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมถุงมือยางต้องปรับตัว

+ มาตรการการรับมือ:

พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ถุงมือสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและอิเล็กทรอนิกส์
✅ เพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การแพทย์ เช่น โรงงานผลิตอาหารและห้องปฏิบัติการ​ONEREPORTSTGTT

 

โครงการในอนาคต

🔹 ขยายกำลังการผลิต  โรงงานใหม่ในจังหวัดชุมพร และสะเดา พี.เอส.

🔹 การพัฒนานวัตกรรมใหม่  ถุงมือ EUDR และ Surgical Gloves

🔹 เพิ่มการจำหน่ายไปยังตลาดเกิดใหม่ เช่น แอฟริกา, ละตินอเมริกา, อินเดีย

 🔹 ใช้ AI ในการตรวจสอบคุณภาพถุงมือ

 

กราฟราคาหุ้น : STGT

** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  STGT Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play
56-1 รายงานประจำปี 2567 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ STGT มาจากธุรกิจใด?  : รายได้หลักของ STGT มาจาก ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง   คิดเป็น 35.10% ของรายได้ทั้งหมด​

🔹 ทำไมควรลงทุนใน STGT ? :   STGT  เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมถุงมือยาง , มีมาตรฐาน ESG ระดับสูง , มีเครือข่ายตลาดทั่วโลก

🔹 STGT มีโครงการอะไรในอนาคต? :   เพิ่มการจำหน่ายไปยังตลาดเกิดใหม่ เช่น แอฟริกา, ละตินอเมริกา, อินเดีย  , ใช้ AI ในการตรวจสอบคุณภาพถุงมือ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น STGT ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก