สรุปหุ้น TU : บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง กุ้งแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลอื่น ๆ ผ่านแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยดำเนินงานครอบคลุมในหลายประเทศทั้งในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก​


ข้อมูลเบื้องต้น

  ตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง: เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม

  SET ESG Ratings : A

  ขนาดบริษัท (Market Cap):  51,679.54 ล้านบาท

 

สินค้า และ บริการ

กลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัทที่เกี่ยวข้อง รายละเอียด
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป   ประกอบด้วยสินค้าบรรจุภาชนะปิดผนึก เช่น ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน และปลาแมคเคอเรล จำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกและค้าส่ง โดยเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านแบรนด์สินค้าและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความแตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถกำหนดราคาที่สูงขึ้นในตลาดได้
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง แช่เย็น และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง   ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์จากกุ้งและปลาแซลมอน จำหน่ายให้ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม และธุรกิจจัดเลี้ยง รวมถึงสินค้าแช่แข็งสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังครอบคลุมธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ มุ่งเน้นการพัฒนาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน โดยประเทศไทยเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง   ดำเนินการโดย บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและแบบขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์ของลูกค้า พร้อมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดระดับพรีเมียม ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องโดยเน้นการทำงานร่วมกับลูกค้าแบบ Co-Creation เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกด้านอาหารสัตว์เลี้ยง
ผลิตภัณฑ์เพิ่มฒุลค่าและธุรกิจอื่นๆ ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด - ใช้วัตถุดิบจากกระบวนการผลิตหลักให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ผลิต น้ำมันปลาคุณภาพสูง สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการ
- ตอบสนองตลาด B2B และอุตสาหกรรมสุขภาพ
  ไทยยูเนี่ยน ไลฟ์ไซเอนซ์ จำกัด - พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและโภชนาการ
- ผลิตและจำหน่าย ZEAVITA แบรนด์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ
  ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ ฟู้ดโซลูชันส์ - มุ่งเน้นผลิต โปรตีนทางเลือก เพื่อตอบโจทย์ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ
- พัฒนาโปรตีนจากพืช และโปรตีนจากอาหารทะเลเพื่อความยั่งยืน
**สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์บริษัท**

SEALECT TUNA มีมูลค่าส่วนแบ่งตลาด 57.0% ในประเทศไทย ขณะที่ JOHN WEST ครองตลาดในสหราชอาณาจักร 25.3%, เนเธอร์แลนด์ 24.4%, และไอร์แลนด์ 33.7%, ส่วน PETIT NAVIRE มีส่วนแบ่ง 26.2% และ PARMENTIER 3.2% ในฝรั่งเศส, KING OSCAR มีสัดส่วน 13.5% ในตลาดนอร์เวย์ และ 66.1% ในสหรัฐอเมริกา, ขณะที่ Chicken of the Sea® มี 13.1% ในตลาดสหรัฐอเมริกา, Mareblu ครองตลาดอิตาลี 6.3%, และ RÜGEN FISCH & Hawesta มีส่วนแบ่ง 21.0% ในเยอรมนี.

  

สัดส่วนรายได้จากแต่ละธุรกิจ

สัดส่วนการขายตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ ภูมิภาค มูลค่า (พันล้านบาท) สัดส่วน %
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป
  63.90 47
  ภูมิภาคเอเชีย 20.80 15
  ภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา 28.00 21
  ภูมิภาคอเมริกา 15.10 11
กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง แช่เย็น และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
  47.30 35
  ภูมิภาคเอเชีย 15.10 11
  ภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา 6.60 5
  ภูมิภาคอเมริกา 25.60 19
กลุ่มผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง
  15.10 11
  ภูมิภาคเอเชีย 10.60 8
  ภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา 0.00 0
  ภูมิภาคอเมริกา 4.50 3
กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าและอื่นๆ
  9.90 7
  ภูมิภาคเอเชีย 6.50 5
  ภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา 2.90 2
  ภูมิภาคอเมริกา 0.50 0
รวม 136.20 100

ข้อมูลล่าสุดของปี 2566 จาก 56-1 ของบริษัท
**สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ คลิกที่นี่  Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play

 

 ความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

🔹 ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และตลาด

+ ไทยยูเนี่ยนเป็นบริษัทอาหารทะเลที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ไม่เพียงแค่ปลาทูน่ากระป๋อง แต่ยังรวมถึงกุ้งแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋องอื่น ๆ อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
+ มีการกระจายตลาดไปทั่วโลก โดยมียอดขายหลักจากอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก ทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว​

🔹 ความสามารถในการแข่งขันในตลาดถุงมือยางธรรมชาติ

+ บริษัทมีโรงงานผลิตและเครือข่ายกระจายสินค้าครอบคลุมหลายประเทศ เช่น ไทย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และอินเดีย
+ มีความสามารถในการควบคุมซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นน้ำ (การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ) ไปจนถึงปลายน้ำ (การจัดจำหน่ายและค้าปลีก)

🔹 ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน

+ ไทยยูเนี่ยนได้รับการจัดอันดับสูงสุดใน FTSE4Good, Dow Jones Sustainability Index (DJSI), และ Seafood Stewardship Index (SSI)
+ มีโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น SeaChange® 2030 ซึ่งมุ่งเน้นการลดก๊าซเรือนกระจก ลดขยะพลาสติก และส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน​

🔹 ความแข็งแกร่งด้านการเงินและกลยุทธ์การเติบโต

+ บริษัทมี อัตรากำไรที่มั่นคง และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A+ จากหน่วยงานจัดอันดับเครดิต
+ มีการขยายธุรกิจผ่าน การควบรวมกิจการ (M&A) เช่น การซื้อกิจการในยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของบริษัท​

ความเสี่ยงของธุรกิจและมาตราการการรับมือ

🔹  ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ

-  ความเสี่ยง :  ราคาปลาทูน่า กุ้ง และวัตถุดิบอาหารทะเลอื่น ๆ มีความผันผวนสูงเนื่องจากปัจจัยด้านภูมิอากาศ ปริมาณการจับปลา และนโยบายการค้าระหว่างประเทศ

+ มาตรการการรับมือ:  
✅ กระจายแหล่งจัดหาวัตถุดิบจากหลายประเทศเพื่อลดการพึ่งพาแหล่งใดแหล่งหนึ่ง
✅ ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Contract) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคา​

🔹 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

- ความเสี่ยง:  อุณหภูมิที่สูงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำส่งผลต่อปริมาณปลาที่จับได้ และอาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น

+ มาตรการการรับมือ:  
✅ ลงทุนในโครงการ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 42% ภายในปี 2573 ตามแผน SeaChange® 2030
✅ สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต​

🔹 ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์องค์กรและแรงงาน

- ความเสี่ยง: ไทยยูเนี่ยนเป็นบริษัทที่ได้รับการจับตามองในด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน การละเมิดข้อกำหนดเหล่านี้อาจส่งผลต่อชื่อเสียงของบริษัท

+ มาตรการการรับมือ:
✅ มี นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน (Human Rights Policy) ที่เคร่งครัด
✅ เข้าร่วมโครงการตรวจสอบแรงงานและได้รับการรับรองจากองค์กรด้านความยั่งยืน เช่น ISSF (International Seafood Sustainability Foundation)​

 

โครงการในอนาคต

🔹 พัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก : ลงทุนในผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based food) และอาหารเสริมที่ทำจากโปรตีนจากปลา​

🔹 การขยายตลาดในยุโรปและเอเชีย : บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตและขยายตลาดในยุโรปและเอเชียโดยเฉพาะในประเทศจีน​

🔹 ขยายแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง : เพิ่มการลงทุนในแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงและขยายสู่ตลาดใหม่​

 🔹 ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล : ปรับปรุงกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานให้เป็นดิจิทัลเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ​

 

กราฟราคาหุ้น : TU


** เพื่อนๆสามารถคลิ้กที่รูปกราฟ เพื่อติดตามข้อมูล RealTime ล่าสุดของวันนี้ได้นะ **

เว็บไซต์บริษัท :  TU Liberator -เทรดหุ้นไทย หุ้น US - Apps on Google Play
56-1 รายงานประจำปี 2566 (Annual Report) : คลิ้กที่นี่เพื่อดาวน์โหลด

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

🔹 รายได้หลักของ TU มาจากธุรกิจใด?  : รายได้หลักของ TU มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป  คิดเป็น 47% ของรายได้ทั้งหมด​

🔹 ทำไมควรลงทุนใน TU ? :   TU เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารทะเลระดับโลกที่มีเครือข่ายการดำเนินงานแข็งแกร่ง ลงทุนในนวัตกรรม และมุ่งเน้นความยั่งยืน

🔹 TU มีโครงการอะไรในอนาคต? :   TU บริษัทมีแผนขยายตลาดในยุโรปและเอเชีย พัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช และลงทุนในโครงการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 
ซื้อหุ้น TU ได้ที่ Liberator | ไม่มีขั้นต่ำ เซฟต้นทุนให้คุณตั้งแต่บาทแรก

✅ มีบัญชีกับ Liberator ประหยัดค่าคอมให้คุณได้สูงสุด 90%+
2) สมัครเปิดบัญชีได้ง่ายภายใน 10 นาที
3) ฝากเงินแล้วสามารถซื้อ-ขายหุ้นได้สะดวก 

หากยังไม่มั่นใจ ว่าจะเริ่มต้นลงทุนหุ้นอย่างไร
ติดตามคลาสสอนหุ้น STOCK 101 ได้ทั้งรูปแบบ Online และ Onsite คลิกที่รูปนี้ได้เลย