วางแผนทางการเงินได้ดีขึ้น..เมื่อรู้ 6 ข้อนี้

การลงทุนที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบและการเข้าใจหลักการพื้นฐานบางประการ ในบทความนี้ เราจะอธิบายกฎ 6 ข้อที่สามารถช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนและจัดการการเงินได้อย่างชาญฉลาด กฎเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการเงินมาก่อน

1. กฎของ 72 #(Rule of 72)
การคำนวณ: ใช้เลข 72 หารด้วยอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราการเติบโตต่อปีที่คุณได้รับ
วัตถุประสงค์: เพื่อคำนวณระยะเวลาที่เงินลงทุนของคุณจะเพิ่มเป็นสองเท่า
ตัวอย่าง: หากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอัตราเติบโต 10% ต่อปี จะใช้เวลาประมาณ 7.2 ปีในการเพิ่มมูลค่าเป็นสองเท่า
กฎนี้เป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายสำหรับนักลงทุนในการประเมินเวลาที่ต้องใช้ในการเพิ่มเงินลงทุน ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถคำนวณแผนการเงินได้อย่างคร่าว ๆ โดยไม่ต้องใช้สูตรคำนวณที่ซับซ้อน
2. กฎของ 112 #(Rule of 112)
การคำนวณ: ใช้เลข 112 หารด้วยอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราการเติบโตต่อปี
วัตถุประสงค์: เพื่อคำนวณระยะเวลาที่จะทำให้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า
ตัวอย่าง: หากคุณลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเติบโต 12% ต่อปี เงินของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าภายในประมาณ 9.5 ปี
กฎของ 112 ช่วยให้คุณสามารถประมาณเวลาในการเพิ่มเงินลงทุนเป็นสามเท่า ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว
3. กฎของ 114 #(Rule of 114)
การคำนวณ: ใช้เลข 114 หารด้วยอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราการเติบโตต่อปี
วัตถุประสงค์: เพื่อคำนวณระยะเวลาที่เงินลงทุนจะเพิ่มเป็นสี่เท่า
ตัวอย่าง: หากสินทรัพย์ที่ลงทุนมีการเติบโต 6% ต่อปี คุณจะต้องใช้เวลาประมาณ 24 ปีในการเพิ่มเงินเป็นสี่เท่า
การคำนวณด้วยกฎนี้ช่วยให้คุณสามารถตั้งเป้าหมายในการลงทุนระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากคุณกำลังมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงและปลอดภัย
4. กฎของ 70 #(Rule of 70)
การคำนวณ: ใช้เลข 70 หารด้วยอัตราเงินเฟ้อ
วัตถุประสงค์: เพื่อคำนวณระยะเวลาที่จะทำให้มูลค่าเงินลดลงครึ่งหนึ่งเนื่องจากเงินเฟ้อ
ตัวอย่าง: หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ต่อปี มูลค่าเงินของคุณจะลดลงครึ่งหนึ่งในเวลา 23.3 ปี
กฎของ 70 มีประโยชน์ในการประเมินความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ทำให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนที่ช่วยรักษามูลค่าเงินในระยะยาวได้อย่างเหมาะสม
5. กฎของ 110 #(The 110 Rule)
การคำนวณ: นำเลข 110 ลบด้วยอายุของคุณ
วัตถุประสงค์: ใช้ในการจัดสรรสินทรัพย์ โดยตัวเลขที่ได้คือสัดส่วนของการลงทุนในหุ้น
ตัวอย่าง: หากคุณอายุ 40 ปี ควรลงทุนในหุ้นประมาณ 70% และอีก 30% ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
กฎนี้เป็นแนวทางการจัดพอร์ตการลงทุนตามอายุของคุณ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจัดสรรเงินทุนระหว่างการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่างกันได้อย่างสมดุล
6. กฎ 3-6 เดือน #(The 3-6 Rule)
การคำนวณ: เก็บเงินสำรองเท่ากับค่าใช้จ่ายประมาณ 3-6 เดือน
วัตถุประสงค์: เพื่อให้คุณมีเงินสำรองใช้ในกรณีฉุกเฉิน
ตัวอย่าง: หากค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณอยู่ที่ 20,000 บาท ควรเก็บเงินสำรองไว้ประมาณ 60,000 - 120,000 บาท
การมีเงินสำรองช่วยเพิ่มความมั่นคงในการดำเนินชีวิตและป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
โดยสรุป
กฎการลงทุนทั้ง 6 ข้อนี้เป็นหลักการที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินและการลงทุนได้อย่างรอบคอบ การนำกฎเหล่านี้มาปรับใช้จะทำให้คุณมีแนวทางในการตัดสินใจที่ดีขึ้นในการจัดการเงินเพื่ออนาคต โดยไม่ต้องอาศัยการคาดเดา
💫เมื่อเข้าใจ และ มีรูปแบบประเมินลงทุนที่ดีแล้ว การมีแหล่งความรู้ที่หลากหลาย และ เข้าถึงง่าย รวมทั้งแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมสินทรัพย์การลงทุนด้วยต้นทุน(ค่าคอมมิชชั่น)ที่ถูกและคุ้มค่าสำหรับนักลงทุนทุกคน จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนได้ในหลายมิติ
💡 ที่ Liberator เราตั้งใจสร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มการเรียน ที่รวมคอร์สสอนการลุงทุนจากทั้งในบริษัท และ วิทยากรมากประสบการณ์ในวงการลงทุนมาให้เรียนออนไลน์กันแบบ Unlimited และ ยังมีคอมมูนิตี้สำหรับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น Sport, Lifestyle, Self Develop และ Entertainment ทั้งหมดนี้นักลงทุนเข้าถึงได้เพียงมีบัญชีกับ Liberator แบบไม่มีค่าใช้จ่าย
 
เปิดบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับ Liberator 🇺🇸

✅
 หากมีบัญชีกับ Liberator แล้ว
1) Login เข้าแอป
2) เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
✅ ไม่เคยมีบัญชีกับ Liberator มาก่อน
2) สมัครเปิดบัญชี
3) มีบัญชีแล้ว ➡️ Login เข้าแอป ➡️ เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
อ่านคู่มือ :