LIB Scoop #23 : 10 หุ้นเมกาที่ Cash on hand สูงสุด
โดย ทิวัตถ์ ชุติภัทร์ Head of Digital Asset

คำกล่าวที่ว่า👉“Cash is the king”👈ได้ถูกกล่าวหลายครั้งเมื่อตัวเลขทางเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้นเผชิญกับวิกฤต โดยในช่วงวิกฤตปี 2008 คำนี้ได้ถูกกล่าวโดย Pehr G. Gyllenhammar อดีต CEO ของ Volvo ณ ขณะนั้น และ มีการนำกลับมาพูดถึงอีกครั้งในช่วงการระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ผ่านมา
📌โดยคำว่า Cash ในที่นี้นั้น
: ไม่ได้เพียงพูดถึงเฉพาะเงินสดเท่านั้น แต่ในทางบัญชี Cash on hand อาจหมายถึงสินทรัพย์สภาพคล่องสูงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 90 วัน ตัวอย่างเช่น พันธบัตรตั๋วเงินคลังระยะสั้น (Short-term Treasury Bills), ลูกหนี้การค้า (Loans and Finance Receivables) หรือ สินค้าคงเหลือ (Inventories) ก็อาจถูกจัดเป็น Cash on hand ได้เช่นกันในบางธุรกิจ
📌Cash on hand เปรียบเสมือนกับลมหายใจของธุรกิจ
: โดยทั่วไปบริษัทควรดำรงสัดส่วนของสินทรัพย์สภาพคล่องให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนประมาณ 3-6 เท่า (ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ) แต่ในช่วงวิกฤตสัดส่วนนี้อาจแตกต่างออกไป ปัญหาไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ในช่วงที่เกิดสภาวะตลาดย่ำแย่ ธุรกิจที่มีสภาพคล่องสูงจะสามารถเอาตัวรอดได้ดีกว่าธุรกิจที่มีสภาพคล่องต่ำ ทั้งในแง่ของการที่บริษัทสามารถจ่ายค่าใช้จ่ายได้แม้จะเผชิญกับผลขาดทุน หรือ การขยายธุรกิจโดยเข้าซื้อธุรกิจอื่นๆที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องใช้การกู้เงินซึ่งจะทำให้เกิดภาระด้านดอกเบี้ย และ ค่าธรรมเนียมที่สูง ดังนั้นการมีสภาพคล่อง หรือ Cash on hand จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจมีโอกาสในการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
📌ในโลกของการลงทุน ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกับการวิเคราะห์อัตราส่วน P/E
: ซึ่งบ่งชี้ประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัทแต่อาจจะละเลยการวิเคราะห์สภาพคล่อง หรือ เงินสดที่บริษัทมี แต่ในความเป็นจริงนั้นตัวเลขยอดขาย หรือ กำไรที่สูงขึ้นในงบกำไรขาดทุนนั้นอาจเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ชั่วคราว (นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจทั่วไป) หรือ อาจเกิดจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าซึ่งมีโอกาสไม่ได้รับชำระในอนาคต รวมถึงเหตุผลอื่นๆ แตกต่างจากกระแสเงินสดที่มีการรายงานอย่างตรงไปตรงมามากกว่า โดยนักลงทุนสามารถวิเคราะห์สภาพคล่องของบริษัทได้ผ่านอัตราส่วน Quick ratio หรือ Current ratio ซึ่งจะช่วยเพิ่มมุมมองด้านการลงทุนได้นอกเหนือจากการวิเคราะห์แค่ P/E Ratio เพียงอย่างเดียว
👁‍🗨และนี่คือรายชื่อบริษัท US Companies ที่มี Cash on hand สูงที่สุด 10 อันดับได้แก่
(ข้อมูล ณ วันที่ 12/9/2024)
🔹Berkshire Hathaway Inc. ($BRK.A) : จำนวน $276.942 พันล้าน (Sector : Finance)
🔹Alphabet Inc. ($GOOG) : จำนวน $100.725 พันล้าน (Sector : Technology services)
🔹Amazon com, Inc. ($AMZN) : จำนวน $89.587 พันล้าน (Sector : Retail trade)
🔹Microsoft Corporation ($MSFT) : จำนวน $75.543 พันล้าน (Sector : Technology services)
🔹Interactive Brokers Group, Inc. ($IBKR) : จำนวน $69.824 พันล้าน (Sector : Finance)
🔹Apple Inc. ($AAPL) : จำนวน $61.801 พันล้าน (Sector : Electronic technology)
🔹Meta Platforms, Inc. ($META) : จำนวน $58.18 พันล้าน (Sector : Technology services)
🔹American Express Company ($AXP) : จำนวน $52.9 พันล้าน (Sector : Finance)
🔹Charles Schwab Corporation ($SCHW) : จำนวน $39.689 พันล้าน (Sector : Finance)
🔹NVIDIA Corporation ($NVDA) : จำนวน $34.8 พันล้าน (Sector : Electronic technology)
⚠️ คำเตือน: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำหรือแนะนำการลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาความเสี่ยงด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน

มีบัญชีหุ้นสหรัฐฯ ติดตัวไว้ อุ่นใจ ไม่พลาดทุกโอกาสในตลาดต่างประเทศ
ง่ายๆเพียง 2 ขั้นตอน + สิทธิประโยชน์เพื่อนักลงทุนเพียบ !

1. เปิดบัญชีกับ Liberator 
- โหลดแอป และ เลือก "สมัครเปิดบัญชี"
คู่มือเปิดบัญชี : อ่านคู่มือ คลิกที่นี่

2. เมื่อมีบัญชีแล้ว เลือกเปิดบัญชีหุ้นสหรัฐฯเพิ่ม
- ล็อคอินเข้าแอป
- ไปที่เมนู "You" > เลือก "Manage Account" > เลือก "เปิดประเภทบัญชีอื่นๆเพิ่ม" และทำตามขั้นตอนได้เลย
คู่มือเปิดบัญชีสหรัฐฯเพิ่ม : อ่านคู่มือ คลิกที่นี่

ความพิเศษ เมื่อมีบัญชีลงทุนหุ้นสหรัฐฯที่ Liberator เพียบ มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง
คลิกอ่านเลย ว่าบัญชีที่คุณมี ทำอะไรได้บ้าง