LIB Scoop #22 : Intel เนื้อหอมแม้ยังขาดทุน เพราะอะไร !?!
โดย ภาสกร คงพินิจบวร

ท่ามกลางสงครามธุรกิจชิปและ AI ที่กำลังร้อนระอุ หลายบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Nvidia สามารถสร้างมูลค่าและมีผลประกอบการที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
ในขณะที่พี่ใหญ่เจ้าเก่าอย่าง Intel ดูจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม หลังจากการประกาศผลขาดทุนในไตรมาส 2 ของปีนี้ที่ขาดทุนสูงถึง 1,654 ล้านเหรียญสหรัฐฯทำให้ราคาหุ้น $INTC ตกลงมาอย่างรวดเร็วมากกว่า 56% เข้าสู่จุดต่ำสุดในรอบทศวรรษเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ปัญหาหลักในช่วงที่ผ่านมาของ Intel คือการพลาดโอกาสทางด้าน AI ซึ่งเป็นผลมาจากความล่าช้าในกระบวนการผลิต ทำให้ต้องเสียส่วนแบ่งมูลค่าตลาดให้กับคู่แข่งสำคัญอย่าง AMD ทำให้บริษัทต้องปรับลดพนักงานลงมากกว่า 15% เพื่อลดต้นทุนพร้อมทั้งงดจ่ายเงินปันผล
สถานการณ์ที่ Intel ต้องเผชิญนั้นดูจะค่อนข้างเลวร้ายและยากที่จะหาทางออกในเวลาอันใกล้ จนกระทั้งช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Intel มีข่าวสำคัญที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการได้รับข้อเสนอในการเข้าซื้อกิจการจาก Qualcomm ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาชิปประมวลผล (Semiconductor) ให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และมือถือแบรนด์สำคัญของโลกไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung หรือแม้กระทั่ง Xiaomi
นอกจากนี้ Intel ยังได้รับข้อเสนอทางด้านเงินทุนทั้งจากบริษัท Apollo Global Management กว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 8.5 พันล้านเหรียญจากรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจ Semiconductor ภายในประเทศซึ่งจะเกิดขึ้นในสิ้นปีนี้
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาหุ้นของ Intel หรือ $INTC พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 30% ภายในเดือนเดียว อย่างไรก็ตามข้อเสนอเข้าซื้อกิจการของ Qualcomm อาจไม่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากก่อนหน้านี้ Intel ได้ปฎิเสธข้อเสนอเข้าซื้อแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยบริษัท Arm Holding คู่แข่งในอุตสาหกรรม Semiconductor จากอังกฤษ พร้อมทั้งกล่าวว่าธุรกิจไม่ได้มีไว้ขาย (Business is not for sale)
ทางด้านของราคาหุ้นยังทรงตัวอยู่ที่ระหว่าง $22 - $23 ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของราคาปิดเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ราคา $18.98 โดยมี Upside อยู่ที่ 11.7% คำแนะนำส่วนใหญ่ยังคงให้ถือ (Hold) โดยมีสัดส่วนที่ 74% รองลงมาคือแนะนำให้ซื้อ (Buy) ที่ 14% และ ขาย (Sell) ที่ 12%
กล่าวโดยสรุปคือแม้ผลกำไรและยอดขายของบริษัทจะลดลง แต่การแก้ปัญหาโดยการปรับลดต้นทุนของฝ่ายบริหารยังคงทำได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้หุ้น $INTC ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ทั้งเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันและภาครัฐ รวมถึงการออกโปรเซสเซอร์ Xeon 6 ตัวใหม่ในไตรมาส 2 นี้ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วของระบบคอมพิวเตอร์ (PC) AI ในระดับองค์กร โดยคาดการณ์ว่าการมาถึงของ PC AI นี้จะครองตลาดและกินส่วนแบ่งของยอดขาย PC มากกว่าครึ่งภายในปี 2026 ซึ่ง Intel จะได้มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้อย่างแน่นอน
⚠️ คำเตือน: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำหรือแนะนำการลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาความเสี่ยงด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน

มีบัญชีหุ้นสหรัฐฯ ติดตัวไว้ อุ่นใจ ไม่พลาดทุกโอกาสในตลาดต่างประเทศ
ง่ายๆเพียง 2 ขั้นตอน + สิทธิประโยชน์เพื่อนักลงทุนเพียบ !

1. เปิดบัญชีกับ Liberator 
- โหลดแอป และ เลือก "สมัครเปิดบัญชี"
คู่มือเปิดบัญชี : อ่านคู่มือ คลิกที่นี่

2. เมื่อมีบัญชีแล้ว เลือกเปิดบัญชีหุ้นสหรัฐฯเพิ่ม
- ล็อคอินเข้าแอป
- ไปที่เมนู "You" > เลือก "Manage Account" > เลือก "เปิดประเภทบัญชีอื่นๆเพิ่ม" และทำตามขั้นตอนได้เลย
คู่มือเปิดบัญชีสหรัฐฯเพิ่ม : อ่านคู่มือ คลิกที่นี่

ความพิเศษ เมื่อมีบัญชีลงทุนหุ้นสหรัฐฯที่ Liberator เพียบ มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง
คลิกอ่านเลย ว่าบัญชีที่คุณมี ทำอะไรได้บ้าง