LIB Scoop #20 : FED ลดดอกเบี้ยแล้ว เอาไงกันต่อดี ?
| ทิวัตถ์ ชุติภัทร์ Head of Digital Asset |

ในที่สุด FED ก็ลดดอกเบี้ยสักที ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมา FED ได้ขึ้นดอกเบี้ยมาทั้งหมด 11 ครั้งตั้งแต่ช่วงมีนาคม 22 จนมาถึงมีกรกฎาคม 23 จาก 0.25% เป็น 5.50%

ก่อนที่เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาได้ลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก แล้วลดทีเดียว 50 bps หรือ 0.50%จะเรียกได้ว่า Jerome Powell ได้ทำ Soft Landing แล้วก็ว่าได้ แต่อย่าพึ่งดีใจไปซะทีเดียว

โดยธรรมชาติแล้วเวลาลดดอกเบี้ยจะส่งผลบวกให้กับหุ้น แต่ด้วย Valuations ตอนนี้ที่สูงเหลือเกิน แล้วเหมือนราคาได้ Priced-in ไปหมดแล้ว แถมนักลงทุนทุกวันนี้ก็ Sell-on-Fact บ่อยซะด้วย

ดังนั้นไม่ว่าหลังจากนี้ทางจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นเราควรเตรียมพร้อมในการลงทุนในตลาดที่เป็นดอกเบี้ยขาลง

หุ้นขนาดเล็กใน Russell 2000 - หุ้นขนาดเล็กน่าจะได้ประโยชน์เป็นอย่างสูง เพราะโดยปกติแล้วบริษัทขนาดเล็กจะมีหนี้มากกว่าบริษัทใหญ่ และค่อนข้างสั่นคลอนเวลาดอกเบี้ยขาขึ้น ดังนั้นด้วยตัวเลขการกู้ยืมที่ต่ำลงก็พอมีโอกาสที่บริษัทเล็กๆจะได้ประโยชน์พอสมควร

หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ - หุ้นบางตัวยังอยู่ในราคาที่ค่อนข้างเหมาะสม และอาจจะพอมี upside ในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นนักลงทุนอาจจะเข้าไปเล่นหุ้นเหล่านี้ได้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอย่าง Oracle $ORCL, Dayforce $DAY, และ Braze $BRZE ที่ราคาพอสมเหตุสมผลในช่วงนี้

หุ้นกลุ่มพลังงาน - หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะได้เปรียบจากเหตุการณ์ที่เป็นดอกเบี้ยขาลง และเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยหุ้นที่น่าสนใจจะมี Energy Transfer LP $ET, OneOK $OKE, และ Plains All American Pipeline $PAA ถือว่าเป็นหุ้น Overweight ที่น่าสนใจ ณ ตอนนี้

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ - ใน Sector ที่ค่อนข้างอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย และน่าจะได้รับประโยชน์สูงที่สุด เพราะคนจะสามารถจ่ายค่าดอกเบี้ยบ้านได้มากยิ่งขึ้น หุ้นที่น่าสนใจคือตัว SBA Communications $SBAC และหุ้นกลุ่มสร้างบ้านอย่าง Toll Brothers $TOL และ Lennar Corporation $LEN ก็น่าจะได้ประโยชน์เช่นกันนี้

หุ้นกลุ่ม Utilities - ถึงแม้ว่าหุ้นกลุ่ม Utilities จะขึ้นมาเยอะแล้วจากอานิสงส์ AI แต่หุ้นกลุ่ม Utilities ก็ถือว่าเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive Stocks ตัวที่น่าสนใจคือ Public Service Enterprise Group $PEG นี้

หุ้นกลุ่ม Consumer Staples - ไม่เพียงแค่ฝั่งธุรกิจที่สามารถใช้จ่ายเงินได้มากขึ้น แต่กลุ่มลูกค้าก็น่าจะใช้จ่ายมากขึ้นด้วย ครั้งก่อนที่เป็นดอกเบี้ยขาลงหุ้นกลุ่มนี้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยเฉพาะหุ้นอย่าง Nike $NKE, Walmart $WMT, และ Tyson Foods $TSN เป็น top gainers ในช่วงนั้น

ขอแถมกลุ่ม Emerging Markets - อย่างที่น้าแดง และอาจารย์เพชรได้พูดในช่วง LIB Talks ช่วงเช้า กลุ่มในฝั่งของตลาด Emerging Markets อย่าง อินเดีย WisdomTree India Earnings Fund $EPI อินโดนิเซีย VanEck Indonesia Index ETF $IDX เวียดนาม VanEck Vietnam ETF $VNM รวมถึงตลาดหุ้นไทย น่าจะได้ประโยชน์ในช่วงดอกเบี้ยขาลงนี้

กล่าวโดยสรุปเช่นเคย กระจายทรัพย์สินการลงทุนให้ดีครับ เพราะไม่ใช่ว่าหุ้นในรอบก่อนที่เป็นดอกเบี้ยขาลงจะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดในดอกเบี้ยขาลงในรอบนี้ ขนาดนักวิเคราะห์เองยังไม่มั่นใจกันเลยว่าหุ้นกลุ่มไหนจะขึ้น ฝั่งนักวิเคราะห์จาก Wall Street มองว่าในเดือนหน้านี้ตลาดหุ้นจะผันผวนพอสมควร จนกว่านักลงทุนมั่นใจในตลาดหุ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างที่เคยบอกจงอยู่ในเกมต่อไป และอย่าหวั่นไหวง่ายครับ

คำเตือน: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้เท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำหรือแนะนำการลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาความเสี่ยงด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน

มีบัญชีหุ้นสหรัฐฯ ติดตัวไว้ อุ่นใจ ไม่พลาดทุกโอกาสในตลาดต่างประเทศ
ง่ายๆเพียง 2 ขั้นตอน + สิทธิประโยชน์เพื่อนักลงทุนเพียบ !

1. เปิดบัญชีกับ Liberator 
- โหลดแอป และ เลือก "สมัครเปิดบัญชี"
คู่มือเปิดบัญชี : อ่านคู่มือ คลิกที่นี่

2. เมื่อมีบัญชีแล้ว เลือกเปิดบัญชีหุ้นสหรัฐฯเพิ่ม
- ล็อคอินเข้าแอป
- ไปที่เมนู "You" > เลือก "Manage Account" > เลือก "เปิดประเภทบัญชีอื่นๆเพิ่ม" และทำตามขั้นตอนได้เลย
คู่มือเปิดบัญชีสหรัฐฯเพิ่ม : อ่านคู่มือ คลิกที่นี่

ความพิเศษ เมื่อมีบัญชีลงทุนหุ้นสหรัฐฯที่ Liberator เพียบ มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง
คลิกอ่านเลย ว่าบัญชีที่คุณมี ทำอะไรได้บ้าง