ทำไมการลงทุนในหุ้นปันผลที่มั่นคง ถึงเป็น "ที่นิยม" ?
และ พารู้จัก 20 หุ้นอเมริกาที่จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นตลอด 50 ปี

มักจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้นทั่วไป เนื่องจากบริษัทที่สามารถจ่ายปันผลได้ในระยะยาวนั้น มักมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและสามารถรักษาระดับผลประกอบการได้ดี การได้รับปันผลที่สม่ำเสมอช่วยให้นักลงทุนมีรายได้ประจำ
นอกจากนี้ การที่บริษัทสามารถเพิ่มปันผลได้ทุกปี ยังแสดงถึงการเติบโตของกำไรในระยะยาว ซึ่งเป็นจุดสนใจของนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มั่นคง
แม้ว่าหุ้นที่จ่ายปันผลอาจไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของการเติบโตของราคาหุ้นที่สูงเท่าหุ้นที่เน้นการเติบโต แต่การได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนรวมได้ในระยะยาว และยังสามารถเป็นแหล่งรายได้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสด
การเลือกลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน
ซึ่งเป็นหุ้นที่มีการดำเนินธุรกิจที่มั่นคง และสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับ #ผู้ที่มองหาความมั่นคงในพอร์ตการลงทุนและการสร้างรายได้ประจำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาถึงความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้การลงทุนของตนสอดคล้องกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
👉นี่คือภาพรวมของแต่ละบริษัทที่อยู่ในกลุ่มหุ้นปันผลนี้:
1. Procter & Gamble (PG)
- ผลิตภัณฑ์: สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผงซักฟอก ยาสีฟัน แชมพู
- จุดเด่น: มีแบรนด์ระดับโลกอย่าง Tide, Gillette, Pampers ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก
2. Coca-Cola (KO)
- ผลิตภัณฑ์: เครื่องดื่ม เช่น Coca-Cola, Fanta, Sprite
- จุดเด่น: เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีการตลาดและระบบจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก
3. Altria (MO)
- ผลิตภัณฑ์: ยาสูบและสินค้าเกี่ยวกับนิโคติน เช่น Marlboro
- จุดเด่น: เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจ่ายปันผลสูง เน้นตลาดภายในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
4. Lowe’s (LOW)
- ผลิตภัณฑ์: ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
- จุดเด่น: เป็นบริษัทคู่แข่งหลักของ Home Depot ในตลาดสหรัฐ มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้าน
5. American States Water (AWR)
- ผลิตภัณฑ์: การให้บริการน้ำประปาและไฟฟ้าในสหรัฐ
- จุดเด่น: ให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มเทศบาลและรัฐ มีสัญญาระยะยาว ทำให้รายได้มีเสถียรภาพสูง
6. Johnson & Johnson (JNJ)
- ผลิตภัณฑ์: สินค้าด้านสุขภาพและยา เช่น ยารักษาโรค เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์
- จุดเด่น: มีสินค้าหลากหลาย ครอบคลุมทั้งการดูแลสุขภาพและการวิจัยยา
7. Hormel Foods (HRL)
- ผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น Spam, Jennie-O
- จุดเด่น: ธุรกิจอาหารที่แข็งแกร่ง มีสินค้าที่ได้รับความนิยมในสหรัฐ
8. Target (TGT)
- ผลิตภัณฑ์: ห้างค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
- จุดเด่น: เน้นการเป็นห้างค้าปลีกที่มีราคาที่แข่งขันได้ และมีการขยายธุรกิจออนไลน์มากขึ้น
9. Colgate-Palmolive (CL)
- ผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์สุขภาพในช่องปากและสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น Colgate, Palmolive
- จุดเด่น: เป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก มีการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
10. Emerson Electric (EMR)
- ผลิตภัณฑ์: อุปกรณ์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ
- จุดเด่น: มุ่งเน้นที่การให้โซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
11. PPG Industries (PPG)
- ผลิตภัณฑ์: สารเคลือบสีและวัสดุที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
- จุดเด่น: มีการจำหน่ายสารเคลือบสีที่มีคุณภาพสูงสำหรับยานยนต์ อากาศยาน และอุตสาหกรรมอื่นๆ
12. Grainger (GWW)
- ผลิตภัณฑ์: จำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมืออุตสาหกรรม
- จุดเด่น: ให้บริการอุปกรณ์แก่บริษัทอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่
13. Abbott Laboratories (ABT)
- ผลิตภัณฑ์: อุปกรณ์การแพทย์และยารักษาโรค
- จุดเด่น: มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมทางการแพทย์และการวิจัยยา
14. Stanley Black & Decker (SWK)
- ผลิตภัณฑ์: เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องมือไฟฟ้า
- จุดเด่น: เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องมือที่ได้รับความไว้วางใจในวงการก่อสร้างและอุตสาหกรรม
15. Sysco (SYY)
- ผลิตภัณฑ์: จัดจำหน่ายสินค้าอาหารให้กับร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่ต่างๆ
- จุดเด่น: เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายอาหารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีระบบจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม
16. ABM Industries (ABM)
- ผลิตภัณฑ์: บริการด้านการจัดการอาคารและการทำความสะอาด
- จุดเด่น: ให้บริการแก่ธุรกิจและองค์กรภาครัฐด้วยการจัดการอาคารและการดูแลสภาพแวดล้อม
17. PepsiCo (PEP)
- ผลิตภัณฑ์: อาหารและเครื่องดื่ม เช่น Pepsi, Lay's, Tropicana
- จุดเด่น: มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในหลากหลายประเภทอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก
18. Nucor (NUE)
- ผลิตภัณฑ์: เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะต่างๆ
- จุดเด่น: เป็นผู้ผลิตเหล็กที่มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและต่างประเทศ
19. 3M (MMM)
- ผลิตภัณฑ์: สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องมือทางการแพทย์และอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เทปกาว แผ่นกรอง
- จุดเด่น: มีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม
20. Walmart (WMT)
- ผลิตภัณฑ์: ห้างค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
- จุดเด่น: เป็นหนึ่งในห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้บริการสินค้าหลากหลายประเภทในราคาที่แข่งขันได้
 
💡 ที่ Liberator เราตั้งใจสร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มการเรียน ที่รวมคอร์สสอนการลุงทุนจากทั้งในบริษัท และ วิทยากรมากประสบการณ์ในวงการลงทุนมาให้เรียนออนไลน์กันแบบ Unlimited และ ยังมีคอมมูนิตี้สำหรับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น Sport, Lifestyle, Self Develop และ Entertainment ทั้งหมดนี้นักลงทุนเข้าถึงได้เพียงมีบัญชีกับ Liberator แบบไม่มีค่าใช้จ่าย
 
เปิดบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับ Liberator 🇺🇸

✅
 หากมีบัญชีกับ Liberator แล้ว
1) Login เข้าแอป
2) เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
✅ ไม่เคยมีบัญชีกับ Liberator มาก่อน
2) สมัครเปิดบัญชี
3) มีบัญชีแล้ว ➡️ Login เข้าแอป ➡️ เลือกเมนู "You" ➡️ เลือก "Open Account US Stock" ทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
.
อ่านคู่มือ :