ในโลกของการลงทุน หนึ่งในคำถามที่นักลงทุนมักสงสัยคือ "หุ้นตัวไหนที่ครองอุตสาหกรรมและเป็นผู้นำในตลาดอย่างแท้จริง?"

ซึ่งมีบริษัทมหาชนจำนวนหนึ่งที่ครองส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมของตนเองอย่างเหนียวแน่น

.

ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่การครองตลาด แต่ยังเป็นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันด้วย

.

มาดูกันว่าหุ้นเหล่านี้มีอะไรบ้าง และเพราะเหตุใดถึงน่าสนใจสำหรับนักลงทุน

.

Google ครองตลาดการค้นหาออนไลน์ด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 90%! นี่คือเครื่องมือค้นหาที่คนทั่วโลกใช้กันทุกวัน

.

แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ Search Engine แต่ยังมีบริการอย่าง YouTube และ Google Ads ที่ช่วยสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับบริษัท

.

อุตสาหกรรมดิจิทัลและการโฆษณาออนไลน์เติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง Google ยังคงมีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยาวนาน

.

Microsoft มีส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการมากกว่า 75% และยังเป็นผู้นำในบริการ Cloud Computing อย่าง Azure

.

ธุรกิจของ Microsoft ครอบคลุมตั้งแต่ซอฟต์แวร์องค์กร, ระบบคลาวด์, และการพัฒนา AI ทำให้มีโอกาสเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด

.

Apple ครองส่วนแบ่ง 27% ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก ด้วยผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง iPhone, MacBook และ Ecosystem ที่แข็งแกร่ง

.

Apple มีฐานลูกค้าที่ภักดีและยังคงขยายธุรกิจในด้านบริการ เช่น Apple Pay และ Apple Music ซึ่งสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง

.

Amazon เป็นผู้นำในตลาด E-commerce ของสหรัฐฯ โดยครองส่วนแบ่งกว่า 40% นอกจากนี้ยังเติบโตในธุรกิจ Cloud Computing ผ่าน AWS (Amazon Web Services)

.

การเติบโตของ E-commerce และ Cloud ยังไม่หยุดยั้ง และ Amazon เป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงนี้

.

Meta หรือ Facebook ครองตลาดโซเชียลมีเดีย ด้วยผู้ใช้งานกว่า 2.8 พันล้านคน ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp

.

Meta กำลังเข้าสู่ตลาด Metaverse และเทคโนโลยี VR/AR ซึ่งเป็นโอกาสใหม่สำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต

.

Nvidia เป็นเจ้าตลาด GPU (Graphic Processing Unit) ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 80% ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของ AI, เกม และ Data Center

.

ในยุค AI บูม Nvidia อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบจากการพัฒนาของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

.

Tesla ครองส่วนแบ่งมากกว่า 60% ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกา

.

อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า และ Tesla อยู่ในตำแหน่งที่เป็นผู้นำทั้งในด้านนวัตกรรมและการตลาด

.

Visa ครองส่วนแบ่งตลาดชำระเงินกว่า 38% ในขณะที่ MasterCard ครอง 21% ซึ่งเป็นผู้เล่นสำคัญในระบบการเงินทั่วโลก

.

ด้วยการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสด Visa และ MasterCard มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว

.

Coca-Cola ครองตลาดเครื่องดื่มอัดลมกว่า 40% และ Pepsi ครองส่วนแบ่งตลาดขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มกว่า 20%

.

สินค้าเหล่านี้เป็น "สินค้าใช้ประจำวัน" ที่ยังคงมีความต้องการสูงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

.

Disney ครองตลาดบันเทิงทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านภาพยนตร์, ธุรกิจสวนสนุก และสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม Disney+

.

การขยายตัวของ Disney+ และการกลับมาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยเสริมสร้างรายได้ให้บริษัท

.

หุ้นที่ครองส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมของตนเองมีแนวโน้มสร้างรายได้และผลกำไรอย่างมั่นคง ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นเติบโตในระยะยาว

.

ขยายโอกาสการลงทุนในบริษัทศักยภาพทั่วโลกไปกับ Liberator เพียงมีบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับค่าคอมสุดคุ้ม และ สิทธิประโยชน์มากมาย กิจกรรมคอมมูนิตี้หลากหลาย เข้าใช้งานคลังความรู้ออนไลน์ เปิดบัญชีง่ายๆ *ใต้คอมเมนต์*

.ㅤㅤ

รู้หรือไม่ : ไม่เพียงแต่หุ้นสหรัฐอเมริกาแต่เพื่อนๆยังสามารถลงทุนในบริษัทจากประเทศอื่นๆที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ รวมแล้วกว่า 8,000 ตัว ได้เช่นกัน
.