Written by : #CreativeTone x Liberator





ในช่วงหลายปีมานี้ บรรดาธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่งต่างก็ให้คำมั่นที่จะดำเนินงานของตัวเอง โดยมีการปักหมุดหมายเส้นชัยเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเอาไว้ในฐานะที่เป็นภารกิจสำคัญลำดับต้นๆ และบรรดาธนาคารทรงอิทธิพลเหล่านี้ ก็ได้ให้สัญญาที่จะปรับรูปแบบการปล่อยสินเชื่อและการลงทุนต่างๆ ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งหวังที่จะสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Net Zero) ภายในปี 2050 เช่นเดียวกัน 





ทั้งนี้ การจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าว มีธนาคารระดับบิ๊กจำนวนไม่น้อยที่นำเอาเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech มาใช้ควบคู่กับการผลักดันนโยบาย ESG (แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งคำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล) เพื่อทำการตลาดและแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งธนาคารที่สามารถเป็นตัวอย่างชัดเจนในที่นี้ได้ก็คือ Aspiration Bank จากสหรัฐอเมริกานั่นเอง





Aspiration Bank เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการด้านการธนาคารและการลงทุน โดยดำเนินธุรกิจแบบ “Online-only Fintech" ที่นำเสนอบัญชีบริหารเงินสดสไตล์ ‘Spend and Save’ ซึ่งเงินฝากไม่ได้ถูกนำไปใช้เป็นทุนในโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและก๊าซแต่อย่างใดเลย 





นอกจากนี้ ทาง Aspiration Bank ยังมีการนำเสนอบัตรเครดิตที่มาในรูปแบบของ Zero-Carbon Footprint ที่ธนาคารเคลมว่า จะมีการปลูกต้นไม้เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการซื้อสินค้าจากบัตรอีกต่างหาก ขณะเดียวกัน พวกเขายังเสนอการลงทุนในกองทุน Aspiration Redwood Fund ซึ่งจะลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้นด้วย





ทั้งนี้ ด้วยเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนระดับมีชื่อ ซึ่งได้ร่วมลงทุนหลายล้านดอลลาร์กับทีมใน NBA อย่าง Los Angeles Clippers ก่อนหน้านี้ ทำให้ Aspiration Bank กำลังกลายเป็นสถาบันการเงินระดับ High Profile ที่เป็นหนึ่งในผู้นำการใช้เทคโนโลยี FinTech มาช่วยเสริมและผลักดันนโยบาย ESG เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมธนาคารด้วยการดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่ ซึ่งมีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั่นเอง





21.1.2023