Written by: #BillionaireVI x #Liberator

ถ้าไม่เคยบทความนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่แนะนำมุมมองสำหรับการเลือกหุ้น 100 เด้งที่ผมได้ฟังในรายการ The Swedish Investor โดยสรุปมาจากหนังสือ 100 to 1 In The Stock Market เขียนโดย Thomas Phelps ดังนี้

1. ในหนังสือได้ยกตัวอย่าง 4 สถานการณ์ในการลงทุนซึ่งได้แก่

‣ 1) หุ้นมีการฟื้นตัวอย่างรุนแรงจากตลาดหมีหรือตลาดที่ตกต่ำสุดๆ
‣ 2) ช่วงที่บริษัทค้นพบสินทรัพย์เช่นแร่ธาตุจำนวนมากที่ไม่เคยค้นพบมาก่อน
‣ 3) บริษัทกู้เงินมาลงทุนจำนวนมากแต่สุดท้ายก็สามารถอยู่รอดได้
‣ 4) บริษัทสามารถสร้างกำไรเติบโตได้อย่างดีและต่อเนื่องเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ผู้เขียนได้มองว่าในข้อที่หนึ่งและคนที่สองเป็นอะไรที่ต้องคาดการณ์ตลาดทำได้ยาก ส่วนข้อที่สามการลงทุนในบริษัทที่มีหนี้สินจำนวนมากและหวังว่าจะรอดตาย หลายครั้งบริษัทเรานั้นได้ล้มหายตายจากไป

เขาแนะนำว่าข้อที่สี่คือคำตอบของนักลงทุนที่มุ่งหวังค้นพบหุ้น 100 เด้ง ซึ่งหุ้นเหล่านี้เช่น Home Depot Microsoft Apple ต่างมีคุณสมบัติในการสร้างผลกำไรที่เติบโตจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งการนำเงินไปลงทุนต่อยอดสร้างผลตอบแทนที่สูงมากได้อีกด้วย

2. มีสองคำถามที่เราต้องถามตัวเองอยู่เสมอก่อนลงทุน ตามที่บิดาของการลงทุนแบบวีไอ Benjamin Graham เคยกล่าวไว้ว่าการลงทุนในหุ้นคือการเป็นเจ้าของธุรกิจ ราคาหุ้นจะสะท้อนต่อการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยปกติแล้วหุ้น 100 เด้งจะมีการเติบโตของกำไรอยู่ในช่วง 25 ถึง 100 เท่าในระยะยาว การหาหุ้นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เขียนแนะนำให้เราตั้งคำถามไปสองข้อดังนี้ ข้อแรกคือบริษัทมีคูเมืองที่แข็งแกร่ง เช่นจากแบรนด์สินค้า ต้นทุนต่ำ หรือจากเทคโนโลยี เพื่อปกป้องไม่ให้ใครมาแย่งส่วนแบ่งการตลาด ถ้ามีบริษัทอื่นเข้ามาแย่ง การเติบโตของกำไรคงไม่ได้อย่างที่ต้องการ ข้อที่สองคือบริษัทมีโอกาสในการเติบโตยอดขายที่ยอดเยี่ยมหรือไม่ การเติบโตอาจจะมาจากทั้งการที่อุตสาหกรรมมีการเติบโต การแย่งส่วนแบ่งการตลาดมาจากคู่แข่ง และการขยายตลาดไปในต่างประเทศ

3. ราคาหุ้นจะขึ้นอยู่กับค่าพีอีและกำไรต่อหุ้น ผู้เขียนแนะนำว่าการที่บริษัทจะเติบโตได้ 100 เด้งจะต้องสามารถเติบโตกำไรต่อหุ้นและในขณะเดียวกันมีค่าพีอีที่เพิ่มขึ้นด้วย จากการที่นักลงทุนให้คุณค่ากับบริษัทมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น การที่บริษัทสามารถเติบโตกำไรต่อหุ้นได้เพิ่มขึ้น 40 เท่าในระยะยาว พร้อมทั้งนักลงทุนให้ค่าพีอีเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า หุ้นตัวนี้ก็จะกลายเป็นหุ้น 100 เด้งได้ทันที

เท่าที่ผมสังเกตพบว่าหุ้นหลายตัวเป็นหุ้นค้าปลีกที่มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้กำไรเพิ่มขึ้นและนักลงทุนก็ให้มูลค่าเพิ่มขึ้นเช่นกัน

4. การลงทุนในหุ้นที่มีการคาดหวังสูงอยู่แล้วจะไม่สามารถทำให้เราได้หุ้น 100 เด้งได้เพราะราคาได้ปรับขึ้นมารอแล้ว เขาแนะนำว่าจะต้องลงทุนในหุ้นที่ยังไม่มีคนเจอและนักลงทุนก็ยังไม่ได้มีความคาดหวังเยอะกับหุ้นตัวนั้น เพราะราคามันจะยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงในอนาคต

5. การที่นักลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับอัตราส่วนพีอี การวิเคราะห์อัตราส่วนนี้ในเชิงลึก เราอาจจะไม่สามารถดูได้เฉพาะกำไรต่อหุ้นและค่าพีอีที่เป็นตัวกำหนดราคาหุ้น บางครั้งบริษัทสองบริษัทมีค่าพีอีที่เท่ากัน รวมทั้งมีอัตราการเติบโตที่เท่ากันอีกด้วย ถ้าอัตราส่วนอย่างอื่นเท่ากันหมด แต่ปรากฏว่าบริษัทแรกมีการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้นหรือกู้เงินมาต่อยอดธุรกิจ ในขณะที่บริษัทที่สองไม่เคยมีการจ่ายปันผลเลยในกรณีนี้บริษัทแรกน่าลงทุนและจะสร้างผลตอบแทนได้ดีเป็นหุ้น 100 เด้ง

6. ผู้เขียนได้ตั้งคำถามว่าทำไมคนส่วนมากถึงไม่เคยเจอหุ้น 100 เด้งเลย สิ่งที่เขาแนะนำคือแนวคิดในการลงทุนระยะยาวเพราะคนส่วนมากคาดหวังว่าหุ้นจะเติบโตได้ดีในระยะสั้นแล้วขายทิ้งไป ไม่ได้คาดหวังว่าจะกินปลาตัวใหญ่ในระยะยาว นั่นคือสาเหตุสำคัญที่ไม่สามารถทำให้เราค้นพบหุ้น 100 เด้งได้ เขาเปรียบแนวคิดในการลงทุนกับแมตช์การแข่งขันฟุตบอลว่าการที่จะหาทีมที่ชนะเราคงไม่รีบตัดสินใจว่าใครคือคนยิงประตูแรกแต่เราต้องรอจนจบเกมการแข่งขันเพื่อดูว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ

โดยสรุปนักลงทุนต้องมีความสามารถในการหาหุ้นที่มีอัตรากำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีคูเมืองในการแข่งขันที่แข็งแกร่งรวมทั้งต้องมีแนวคิดการลงทุนระยะยาว ถือหุ้นยาวได้ในทุกสภาวะทั้งตลาดดีและไม่ดีเพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวครับ

11.06.2023