บทความ LIB Learn เดิม
บัตรเครดิตจาก bunq ยิ่งรูด ต้นไม้ยิ่งเพิ่ม
Written by: CreativeTone x Liberator
โดยทั่วไปแล้ว เราจะเห็นว่า เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ธนาคารส่วนใหญ่มักมีการเสนอโปรโมชั่นที่ให้เงินคืนมายั่วยวนลูกค้า (Cashback) แต่นั่นไม่ใช่กับธนาคารสัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง bunq ซึ่งมีไอเดียที่แตกต่างออกไป เพราะสิ่งที่พวกเขาเสนอให้ลูกค้านั้น ไม่ใช่ตัวเงินที่จะย้อนกลับมาเข้ากระเป๋า หากแต่เป็นการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นให้แก่โลกใบนี้ต่างหาก
ขยายความให้ชัดเจนขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแก่โลก สิ่งที่ bunq ทำอยู่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย เพียงแค่ลูกค้ายิ่งใช้จ่ายบัตรเครดิตของพวกเขามากเท่าไหร่ ต้นไม้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมามากเท่านั้น
โดยทุกๆ การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นเงิน 100 ยูโร การปลูกต้นไม้เพิ่มเติมให้โลกก็จะเริ่มต้นขึ้น นั่นหมายความว่า ยิ่งคุณช็อปปิ้งมากเท่าไหร่ ต้นไม้ก็จะเพิ่มขึ้น หรือยิ่งคุณจ่ายค่าอาหารในภัตตาคารหรูๆ แพงขนาดไหน ต้นไม้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกนั่นเอง
การปลูกต้นไม้ของ bunq นั้น พวกเขาไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่มีการจับมือทำเรื่องนี้ร่วมกันกับ Eden Reforestation Projects ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูป่าที่ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เคนย่า, เอธิโอเปีย, เนปาล, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, บราซิล ฯลฯ
ทั้งนี้ สำหรับการปลูกต้นไม้ของ bunq ดังกล่าว หลังจากไอเดียการใช้บัตรเครดิตได้ถูกส่งต่อไปถึงการรับรู้ของลูกค้า ในเดือนกันยายนปี 2020 ที่ผ่านมา ธนาคารดัตช์เจ้านี้มีการเปิดเผยว่า พวกเขา (กับ กับ Eden Reforestation Projects) สามารถปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นมากถึง 1 ล้านต้นแล้ว
ขณะเดียวกัน ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 bunq ก็ได้เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ตัวเลขการปลูกต้นไม้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นจนไปแตะที่ตัวเลข 5 ล้านต้นเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยตัวเลขจำนวนของต้นไม้ที่เพิ่มขึ้นมานี้ แบ๊งค์จากเนเธอร์แลนด์เคลมว่า พวกมันสามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 308 กิโลกรัมคาร์บอน ตลอดอายุขัย 25 ปีเลยทีเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ใช้บัตรเครดิตสามารถชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่อปีที่แต่ละคนสร้างเอาไว้ได้
ไม่เพียงเท่านั้น ตัวบัตรเครดิตของ bunq เอง ยังทำมาจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มีอายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเป็น 6 ปี ซึ่งมากกว่าอายุการใช้งานของบัตรที่ทำจากพลาสติกถึง 50% นอกจากนี้ ทางธนาคารยังมีการอัพเดทให้ผู้ใช้บัตรเครดิตทราบอยู่ตลอดด้วยว่า การใช้จ่ายของพวกเขาได้ช่วยสร้างโลกให้น่าอยู่ขึ้นมากน้อยขนาดไหนแล้ว
Ali Niknam ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง bunq สรุปเรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารแห่งนี้เป็นการทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “เรามีความตื่นเต้นที่ได้แนะนำผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตของเรา มันเป็นสื่อกลางที่ทำให้ลูกค้าสามารถสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นได้ โดยที่พวกเขาไม่ต้องออกแรงอะไรเลย”
30.03.2023
โดยทั่วไปแล้ว เราจะเห็นว่า เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ธนาคารส่วนใหญ่มักมีการเสนอโปรโมชั่นที่ให้เงินคืนมายั่วยวนลูกค้า (Cashback) แต่นั่นไม่ใช่กับธนาคารสัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง bunq ซึ่งมีไอเดียที่แตกต่างออกไป เพราะสิ่งที่พวกเขาเสนอให้ลูกค้านั้น ไม่ใช่ตัวเงินที่จะย้อนกลับมาเข้ากระเป๋า หากแต่เป็นการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นให้แก่โลกใบนี้ต่างหาก
ขยายความให้ชัดเจนขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแก่โลก สิ่งที่ bunq ทำอยู่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย เพียงแค่ลูกค้ายิ่งใช้จ่ายบัตรเครดิตของพวกเขามากเท่าไหร่ ต้นไม้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมามากเท่านั้น
โดยทุกๆ การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นเงิน 100 ยูโร การปลูกต้นไม้เพิ่มเติมให้โลกก็จะเริ่มต้นขึ้น นั่นหมายความว่า ยิ่งคุณช็อปปิ้งมากเท่าไหร่ ต้นไม้ก็จะเพิ่มขึ้น หรือยิ่งคุณจ่ายค่าอาหารในภัตตาคารหรูๆ แพงขนาดไหน ต้นไม้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกนั่นเอง
การปลูกต้นไม้ของ bunq นั้น พวกเขาไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่มีการจับมือทำเรื่องนี้ร่วมกันกับ Eden Reforestation Projects ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูป่าที่ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เคนย่า, เอธิโอเปีย, เนปาล, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, บราซิล ฯลฯ
ทั้งนี้ สำหรับการปลูกต้นไม้ของ bunq ดังกล่าว หลังจากไอเดียการใช้บัตรเครดิตได้ถูกส่งต่อไปถึงการรับรู้ของลูกค้า ในเดือนกันยายนปี 2020 ที่ผ่านมา ธนาคารดัตช์เจ้านี้มีการเปิดเผยว่า พวกเขา (กับ กับ Eden Reforestation Projects) สามารถปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นมากถึง 1 ล้านต้นแล้ว
ขณะเดียวกัน ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 bunq ก็ได้เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ตัวเลขการปลูกต้นไม้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นจนไปแตะที่ตัวเลข 5 ล้านต้นเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยตัวเลขจำนวนของต้นไม้ที่เพิ่มขึ้นมานี้ แบ๊งค์จากเนเธอร์แลนด์เคลมว่า พวกมันสามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 308 กิโลกรัมคาร์บอน ตลอดอายุขัย 25 ปีเลยทีเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ใช้บัตรเครดิตสามารถชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่อปีที่แต่ละคนสร้างเอาไว้ได้
ไม่เพียงเท่านั้น ตัวบัตรเครดิตของ bunq เอง ยังทำมาจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มีอายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเป็น 6 ปี ซึ่งมากกว่าอายุการใช้งานของบัตรที่ทำจากพลาสติกถึง 50% นอกจากนี้ ทางธนาคารยังมีการอัพเดทให้ผู้ใช้บัตรเครดิตทราบอยู่ตลอดด้วยว่า การใช้จ่ายของพวกเขาได้ช่วยสร้างโลกให้น่าอยู่ขึ้นมากน้อยขนาดไหนแล้ว
Ali Niknam ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง bunq สรุปเรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารแห่งนี้เป็นการทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “เรามีความตื่นเต้นที่ได้แนะนำผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตของเรา มันเป็นสื่อกลางที่ทำให้ลูกค้าสามารถสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นได้ โดยที่พวกเขาไม่ต้องออกแรงอะไรเลย”
30.03.2023
