Written by : #CreativeTone x #Liberator
หนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญของหลายๆ ประเทศทั่วโลก (รวมถึงประเทศไทยด้วย) ก็คือ “ความเหลื่อมล้ำ” ซึ่งสะท้อนจากรายได้ของกลุ่มผู้มีรายได้สูงสุดและต่ำสุดที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ มีงานศึกษาจากหลายๆ ที่หลายๆ แห่งพบว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นมานั้น มาจากการไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐาน เช่น บัญชีเงินฝาก หรือการมีระบบการชำระเงินที่มีค่าธรรมเนียมที่ถูกได้
ซึ่งประเด็นดังกล่าวสร้างปัญหาที่ตามมา คือ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการชำระ การโอนเงิน หรือสินเชื่อได้ ซึ่งบริการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพทั้งสิ้น
การทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้นนั้น นอกจากจะช่วยลดความเลื่อมล้ำแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตอีกต่างหาก ซึ่งในจุดนี้เองที่เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ และช่วยให้เกิดการเข้าถึงบริการทางการเงินพื้นฐาน ที่มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เหมือนกับที่บริษัท FinTech ชั้นนำของจีนอย่าง CreditEase ทำอยู่
ทั้งนี้ บริษัท CreditEase ถือเป็นบริษัท FinTech ที่มีชื่อเสียงของจีน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการเงินและการวางแผนการเงินแบบองค์รวม มีบริการให้คำปรึกษา และมีแพลตฟอร์มแบบ Peer-to-Peer (P2P) สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก เรื่อยไปจนถึงชาวนาและนักศึกษา เพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อและบริการทางการเงินอื่นๆ ได้โดยตรงอย่างครบวงจรมากขึ้น
ตัวอย่างสินเชื่อและบริการทางการเงินของบริษัท CreditEase ได้แก่ ประกันเกษตรกรรม, การวางแผนสินทรัพย์ ที่ไม่ต้องผ่านสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันได้ขยายบริการไปทั่วประเทศจีนและฮ่องกงเป็นที่เรียบร้อย และจากจุดแรกเริ่มเรื่อยมาจนทุกวันนี้ พวกเขาได้ให้สินเชื่อไปแล้วกว่า 300 ล้านหยวน เพื่อช่วยเหลือชาวนาราว 25,000 คนทั่วประเทศเลยทีเดียว
นอกจากนี้ บริษัท CreditEase ยังดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินแก่บุคคลทั่วไปที่ต้องการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือต้องการเข้าถึงการศึกษา และหรือการบริโภคต่างๆ ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความเป็นที่บริษัท FinTech พวกเขายังสร้างเทคโนโลยีการชำระเงิน การให้กู้ยืมในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ การระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิ้ง และมีบริการวางแผนการเงินแบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีประกันภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับบล็อกเชน
แถมยังมีส่วนร่วมอย่างจริงจังกับผู้สร้างนวัตกรรม FinTech ทั่วโลกผ่านการบ่มเพาะธุรกิจ และความร่วมมือทางการค้าการลงทุน เพื่อให้เข้ากับปณิธานที่ตั้งไว้ คือ “Better tech, better finance, better world” นั่นเอง
2.02.2023
