Written by: #CreativeTone x #Liberator
ประเด็นของคริปโตกับสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องร้อนที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเสมอ เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มักถูกชี้นิ้วว่าเป็นตัวการในการสร้างปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมให้กับโลก
อย่างไรก็ดี คำกล่าวหาดังกล่าวอาจใช้ไม่ได้ หากพูดถึงชื่อของ Power Ledger หรือ POW Coin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีการมุ่งเน้นสร้างความเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนตลาดพลังงานหมุนเวียนในวงการคริปโต
ทั้งนี้ Power Ledger คือ แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ต้องการสร้างซัพพลายพลังงานโลกแบบไร้ตัวกลางควบคุมและเข้าถึงได้ทุกคน ซึ่งมีการขับเคลื่อนผ่านวิธี peer-to-peer และกำจัดพ่อค้าคนกลางอย่างเจ้าของธุรกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ออกไป
โดยระบบนิเวศของแพลตฟอร์มเอื้อให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างกลไกราคาและการจัดการตลาดที่หลากหลายกับหน่วยพลังงานไฟฟ้าในรูปของเหรียญ
ความสำคัญที่แพลตฟอร์ม Power Ledger เล็งเห็นก็คือ คุณค่าของเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งมีส่วนในการปฏิรูปการสร้างระบบพลังงานที่มีอยู่ให้ก้าวหน้าขึ้น ผ่านแนวคิดของที่ว่าด้วยการสร้างระบบนิเวศที่ผู้ใช้งานบนเครือข่ายผลิตและขายพลังงานไฟฟ้าได้เอง ไม่มีการแทรกแซงจากคนกลางที่อยู่ในตลาดอีกต่อไป
สำหรับปัญหาในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งทาง Power Ledger ตั้งใจจะเข้ามาแก้ไขนั้น มีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการใช้พลังงาน ที่จะมีการสร้างระบบที่เอื้อให้ผู้ใช้งานเลือกแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ต้องการได้ ทำให้ลดต้นทุนและเสริมความแข็งแกร่งของระบบจัดการเครือข่ายพลังงาน
การสร้างระบบจัดการและกระจายพลังงานแบบเก่า โดยจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสร้างมาร์เก็ตเพลสซื้อขายพลังงานขึ้นมา ทำให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังช่วยให้ซื้อขายได้ง่าย
นอกจากนี้ ทาง Power Ledger ก็ตั้งใจที่จะแก้ปัญหาราคาพลังงานท่ีสูงขึ้น โดยจะช่วยกำจัดตัวกลาง รวมทั้งส่งเสริมการผลิตพลังงานของรายย่อยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าราคาถูกกว่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า อีกทั้งยังน่าเชื่อถือกว่าอีกต่างหาก
ทั้งนี้ เบื้องหลังบล็อกเชนพลังงานสะอาดอย่าง Power Ledger นั้น ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน การเงิน และวิศวกรรม โดยแพลตฟอร์มเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016 และมีแผนจะขยายการพัฒนามายังนิวซีแลนด์ ยุโรป และประเทศอื่นๆ ด้วย
โดยสรุปแล้ว ความน่าสนใจในสิ่งที่ Power Ledger สร้างสรรค์ เป็นการทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชน หรือคริปโต ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แวดวงการเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังนำมาใช้เป็นหลักในการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมพลังงาน (ซึ่งเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือคริปโต ถูกโจมตีมาโดยตลอด) ทั้งในแง่ของสิ่งแวดล้อมและกลไกการตลาดทางเศรษฐกิจได้นั่นเอง
16.03.203
