Written by : #CreativeTone x Liberator
เพราะผู้บริโภคต่างก็กำลังมองหาโซลูชั่นการชำระเงินที่รวดเร็วและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำให้การชำระเงินแบบดิจิทัลกำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางการเงินระดับโลก ที่มุ่งเน้นการเดินหน้าสร้างและออกแบบอนาคตที่ยั่งยืน และสามารถบรรลุเป้าประสงค์ในการทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับศูนย์ได้จริง
เมื่อพัฒนาการทางเทคโนโลยีเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของประชาชนทุกกลุ่มมากขึ้น การประยุกต์ใช้เครื่องมือทาง FinTech จึงนำมาสู่โอกาสการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการลดทอนความเหลื่อมล้ำลงมาได้
เหมือนกับเช่นที่บริษัท M-Pisa ได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งบริษัท M-Pisa นั้น นับเป็นผู้ให้บริการทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่เริ่มให้บริการในประเทศเคนยาเป็นที่แรกในช่วงปี 2550 โดยมีบริการให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินพื้นฐานได้จากโทรศัพท์มือถือของตัวเองผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ส่งผลให้ประชาชนสามารถฝาก ถอน และโอนเงิน รวมถึงนำไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการได้อย่างไร้ปัญหา แม้จะไม่มีบัญชีธนาคารเป็นของตัวเองก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัท M-Pesa ยังมีโปรแกรมส่งเสริมการออม ที่ยอดเงินออมสามารถใช้เป็นหลักฐานทางการเงินประกอบการพิจารณาให้ได้รับอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้นได้อีกต่างหาก
ด้วยความคิดที่ดีและมีประโยชน์ ทำให้บริษัท M-Pisa สามารถขยายการให้บริการครอบคลุมถึง 10 ประเทศตลอดช่วง 10 ปีหลังจากเปิดให้บริการครั้งแรก ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีประชาชนใช้บริการมากถึง 29.5 ล้านราย และพบอีกว่า ประชาชนประมาณ 96% ที่อาศัยนอกกรุงไนโรบี (เมืองหลวงของเคนยา) มีบัญชีของบริษัท M-Pesa อย่างน้อย 1 บัญชีด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น จากการสำรวจของ World Bank ในปี 2560 ก็พบว่า ร้อยละ 82 ของตัวอย่างประชากรในเคนยามีการเข้าถึงบริการทางการเงินเพิ่มขึ้นจากปี 2554 กว่าเท่าตัว ซึ่งนี่คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อการใช้บริการทางการเงินพื้นฐานไปสู่การสร้างวินัยการออมและการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อของผู้มีรายได้น้อย เป็นการใช้เทคโนโลยีมาลดทอนความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างชัดเจน
ปัจจุบัน ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับบริษัท FinTech อย่าง M-Pisa ได้ทำให้เกิดธุรกิจในลักษณะเดียวกันในหลายๆ ประเทศมากมาย อาทิ บังคลาเทศ, (bKash) และฟิลิปปินส์ (Ayannah) เป็นต้น
26.1.202
